ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออก-โควิด อาการต่างกันอย่างไร

ไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออก-โควิด อาการต่างกันอย่างไร HealthServ.net
ไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออก-โควิด อาการต่างกันอย่างไร ThumbMobile HealthServ.net

ช่วงฤดูฝนของไทยเป็นช่วงที่มีโรคเกิดขึ้นมาในประชาชนทุกวัยโดยเฉพาะเด็ก โรคที่พบเป็นหลักคือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไวรัส RSV และโรคโควิด ที่ยังไม่หายไปแต่จะยังคงอยู่เป็นโรคประจำถิ่นโรคใหม่ต่อไป แล้วจะสังเกตอย่างไรว่าหากมีอาการเป็นไข้จะเป็นโรคไหน รพ.วิมุติมีคำแนะนำข้อสังเกตให้แล้ว



แต่ถ้าว่ากันถึงอาการของโรคที่ผู้คนมักสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดเมื่อฝนตก เชื่อว่าอาการของ ‘ไข้หวัด’ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก แต่ในโมงยามนี้ที่โรคภัยรอบตัวมีทั้งไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และการติดเชื้อโควิด-19 เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าอาการไข้หวัดที่เราเคยเข้าใจเกิดขึ้นจากโรคไหนกันแน่

 
โรงพยาบาลวิมุต ได้ให้ข้อมูลอธิบายความแตกต่างของทั้ง 3 โรคนี้ ไว้เพื่อเป็นข้อสังเกต ดังนี้

 

อาการโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16

????ไข้สูง
????ไอ
????จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
????เยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดง

แต่สำหรับใครที่มีอาการดังกล่าวก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะตามรายงานของ WHO โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ถือว่าไม่มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูงเท่าสายพันธุ์เดลต้า ดังนั้นสามารถรักษาตามอาการได้ รวมถึงสำหรับบุคลลทั่วไปก็ควรได้รับวัคซีน mRNA เข็มกระตุ้นเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในตัวด้วย

 

อาการไข้หวัดใหญ่

????มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ภายใน 1-3 วันหลังรับเชื้อ
????ปวดศีรษะ
????ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย
????มีน้ำมูกใส
????ไอแห้ง คันคอ เจ็บคอ
????เบื่ออาหาร

ตามปกติแล้วเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยจะสามารถหายจากอาการดังกล่าวได้เอง ดังนั้นหากมีอาการไม่มากก็สามารถรักษาตามอาการอยู่ที่บ้านได้ แต่ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน หรือมีอาการไข้สูงมากจนเพ้อ ซึม หายใจหอบ หรือแน่นหน้าอก ก็ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพราะอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนหรือสาเหตุจากโรคอื่นๆ
หรือในกรณีของการป้องกัน เราขอแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์เพื่อสุขภาพในระยะยาวนะ

 

อาการไข้เลือดออก

????มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส เกิน 2 วัน จากนั้นวันที่ 4 ไข้ลดลง แต่ผิวแดง หน้าแดง ตาแดง ผิวแห้ง และหิวน้ำบ่อย
????ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
????อ่อนเพลีย ซึมลง
????เบื่ออาหาร อาเจียน
????อาจพบจ้ำเลือด หรือจุดเลือดตามผิวหนัง
????ปัสสาวะสีเข้ม
????อุจจาระมีสีดำ

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโดยมียุงลายเป็นพาหะ ดังนั้นจึงสามารถพบได้ในทุกช่วงวัยและเวลา โดยเฉพาะฤดูฝนที่ยุงลายชุกชุม ซึ่งอาการของโรคแม้ดูไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่นี่ถือเป็นโรคที่สามารถส่งผลถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นหากมีอาการก็ควรพบแพทย์ทันที ห้ามซื้อยากินเอง และมาเข้าสู่กระบวนการการรักษาอย่างเร็วที่สุด โดยการฉีดวัคซีน CYD-TDV ครบทั้ง 3 เข็มสามารถป้องกันและลดอาการรุนแรงของโรคได้เช่นกัน

 
ถึงฤดูฝนจะมา แต่เราสามารถอยู่ห่างจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ขอแค่เริ่มสังเกตตัวเองและคนรอบตัวเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว วิมุตขอเอาใจช่วยและอยู่ตรงนี้คอยดูแลสุขภาพของทุกคนอยู่เสมอนะ


ข้อมูลและภาพจาก รพ.วิมุต
 
ไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออก-โควิด อาการต่างกันอย่างไร HealthServ

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ คืออะไร

นับตั้งแต่มีการแยกเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ครั้งแรกในปีค.ศ. 1933  วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ถูกผลิตขึ้น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมและตรงกับการระบาดของสายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่  ดังนี้
 
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 1 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H1N1
 
2. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 2 สายพันธุ์  ประกอบไปด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A 1 สายพันธุ์และ ชนิด B 1 ตระกูล
 
3. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A  2 สายพันธุ์ คือ H1N1 , H3N2 และสายพันธุ์ B  1ตระกูล
 
จนกระทั่งปี ค.ศ. 2012 องค์การอนามัยโลก (WHO)  ได้แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้าไปอีก 1 ตระกูล ทำให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ครอบคลุม 4 สายพันธุ์  ซึ่งประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A  2 สายพันธุ์ คือ H1N1 , H3N2 และชนิด B  2 ตระกูลคือ Victoria, Yamagata
 
ข้อมูลระบาดวิทยาของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในอดีต พบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์  A (H1N1,H3N2) เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันพบว่า สายพันธุ์ B เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยเพิ่มขึ้น   และพบมีการระบาดร่วมกัน 2 ตระกูล (lineage)  คือ Victoria และ Yamagata  ซึ่งเดิมองค์การอนามัยโลกจะเลือกไวรัสสายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และ สายพันธุ์ B เพียง 1 ตระกูลมาใช้ในการผลิตวัคซีน  หากสายพันธุ์B ที่มีในวัคซีนไม่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด  จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ที่ไม่มีอยู่ในวัคซีน และอีกประเด็นที่สำคัญคือ ไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ทำให้ผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิตได้พอๆกับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยเฉพาะในเด็กและในผู้สูงอายุ ดังนั้นการใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีไวรัสครบทั้ง 4 สายพันธุ์จะกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ที่ครอบคลุมเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในปีนั้นได้มากกว่า ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ลดลงมากกว่า 1
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด