ข้อมูลบริการสุขภาพ

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33  และ อาสาสมัครดูแลงานผู้สูงอายุ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี 
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57   และ อาสาสมัครดูแลงานผู้สูงอายุ  ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ 
อาสาสมัครดูแลงานผู้สูงอายุ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดนครราชสีมา และ จังหวัดปทุมธานี 

รวมจำนวน 58 คน
 

 

เพื่อพัฒนาส่งเสริมองค์ความรู้การดูแลฟื้นฟูผู้สูงอายุขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งทฤษฎีที่เป็นองค์ความรู้จากการเรียนรู้ จากประสบการณ์ของบุคลากรวิชาชีพ สหวิชาชีพ การฝึกปฏิบัติงานกับผู้สูงอายุโดยตรง (On the job training) และการรายงานปัญหาผู้สูงอายุรายบุคคล

รวมถึง การเฝ้าระวังและติดตามภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทันท่วงที

อันจะส่งผลให้นักบริบาลผู้สูงอายุมีความเป็นมืออาชีพและสามารถนำความรู้และทักษะไปสู่การปฏิบัติได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ ตามปรัชญาของหลักสูตร “สร้างคนสู่งาน เชี่ยวชาญการบริบาลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ”  ซึ่งมีแพทย์ พยาบาล บุคลากรสหสาขาวิชาชีพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ภาคีเครือข่าย เป็นวิทยากรผู้สอนและฝึกปฏิบัติ


โดยผู้เข้าฝึกอบรมไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2565 สิ้นสุดการฝึกอบรมวันที่ 25 สิงหาคม 2565

 

สำหรับพิธีประกาศนียบัตรนักบริบาลผู้สูงอายุ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  105 ชั่วโมง รุ่นที่ 3  ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิงจิรายุ เอื้อวรากุล คณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ผู้อำนวยการโรงพยาบาสส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองห้า ผู้แทนสาธารณสุขอำเภอคลองหลวง วิทยากรประจำหลักสูตรทั้ง 7 จังหวัด และบุคลากรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ อาคารสำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร


ทั้งนี้เพื่อแสดงความยินดีแก่นักบริบาลผู้สูงอายุซึ่งมีบทบาทสำคัญของการดูแลบริบาลผู้สูงอายุระดับชุมชน สู่การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล


นอกจากนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีพันธกิจหลักในการพัฒนาการศึกษาในการพัฒนาบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูงเพื่อบริการสังคมและชุมชนทุกระดับ ผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นการให้บริการประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม เพื่อพัฒนาส่งเสริมองค์ความรู้และทักษะที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้าถึง จนสามารถนำความรู้ไปพัฒนาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน