ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)

สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) Thumb HealthServ.net
สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ThumbMobile HealthServ.net

กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนการแพทย์แผนไทย วางแผนขับเคลื่อนงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ดึงจุดแข็งสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะ สร้างความมั่นคงในระบบสุขภาพ เผยปี 2565 มีการใช้ยาสมุนไพรดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ส่งผลมูลค่าการใช้สมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น 3 เท่า

 
          30 พฤษภาคม 2566 ที่ โรงแรมอารยารีสอร์ทโขงเจียมริเวอร์ไซด์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด โดยมี นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหัวหน้ากลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมประชุมจำนวน 200 คน พร้อมทั้งมีการมอบประกาศเกียรติคุณสถานประกอบการที่ผ่านการประเมินมาตรฐานเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 5ประเภท ได้แก่ 1.ที่พักนักท่องเที่ยว 2.ภัตตาคาร (ร้านอาหาร) 3.นวดเพื่อสุขภาพ 4.สปาเพื่อสุขภาพ 5.สถานพยาบาล ให้แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดอุบลราชธานี รวม 14 แห่ง


 
สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) HealthServ
 
 
          นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า ในปี 2566 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก สมุนไพร ภูมิปัญญาไทย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยนำจุดแข็งที่สำคัญของการแพทย์แผนไทย คือ ความเข้าอกเข้าใจ (Empathy), การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม, สามารถบำบัดรักษาในกลุ่มโรค/อาการเพื่อลดผลข้างเคียงของยาแผนปัจจุบัน และศักยภาพในการผลิตยาสมุนไพรของประเทศ มาพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้และสร้างความมั่นคงในระบบสุขภาพ รวมถึงยังเป็นการปกป้อง คุ้มครองภูมิปัญญาไม่ให้สูญหาย ขณะที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้มีความน่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มมากขึ้น


 
สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) HealthServ
 
          นายแพทย์ธงชัยกล่าวว่า การดำเนินงานของกรมฯ มุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ คือ

          1.การสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ในกลุ่มอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับ (Chronic pain & Insomnia), ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยระยะกลาง (Intermediate care : IMC), เรื้อนกวาง (Psoriasis) และ การลดอันตรายจากยาเสพติด (Harm Reduction)

          2.การบริหารจัดการโรงงาน GMP ในเขตสุขภาพ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ผลิต ยาสมุนไพรทั้งหมด 61 แห่ง (โรงพยาบาลรัฐพัฒนามาตรฐานร่วมกับกรมฯ 52 แห่ง) ผ่านมาตรฐาน GMP 45 แห่ง อยู่ระหว่างพัฒนาให้ได้มาตรฐาน 7 แห่ง และในปี พ.ศ. 2565 ที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 กรมฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนยาสมุนไพรเพื่อดูแลผู้ป่วย ทำให้มีมูลค่าการใช้ยาสมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุข 5,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2564 ถึง 3 เท่า

          3.ขับเคลื่อนศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย (Thainess Wellness Center) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ ล่าสุดมีสถานประกอบการขอรับรองเป็นศูนย์เวลเนส 570 แห่ง ได้การรับรองแล้ว 160 แห่ง




 
          นอกจากนี้ ได้มีแผนขับเคลื่อนงาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ 1.ประชาชนเชื่อมั่น โดยมีการดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วยด้วยยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นจาก 1.48% เป็น 15% 2.บริการเป็นเลิศ โดยเลือกใช้บริการการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 4.58% เป็น 20% และ 3.ภูมิปัญญาสร้างคุณค่า โดยมีการบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย ภายในปี 2570  
สธ.กางแผนขับเคลื่อน การงานแพทย์แผนไทยฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) HealthServ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด