ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สธ.เตรียมจัด "เจอ-แจก-จบ" ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด รูปแบบผู้ป่วยนอก เริ่ม 1 มี.ค.65

สธ.เตรียมจัด "เจอ-แจก-จบ" ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด รูปแบบผู้ป่วยนอก เริ่ม 1 มี.ค.65 HealthServ.net
สธ.เตรียมจัด "เจอ-แจก-จบ" ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด รูปแบบผู้ป่วยนอก เริ่ม 1 มี.ค.65 ThumbMobile HealthServ.net

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมการจัดบริการเพิ่มสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในรูปแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” เริ่ม 1 มีนาคมนี้ ตามแผนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เผยจังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ตดำเนินการแล้วได้ผลดี

25 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแผนการบริหารจัดการให้โรคโควิด 19 ออกจากการเป็นโรคระบาดไปสู่การเป็นโรคติดต่อทั่วไปหรือโรคประจำถิ่น คือการที่โรคลดความรุนแรงลง ไม่มีภาวะอันตรายมาก มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันประชาชนมีภูมิต้านทางมากเพียงพอ จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนจากนี้


         ทั้งนี้ สธ. ได้เตรียมจัดระบบบริการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพิ่มการดูแลในระบบผู้ป่วยนอก ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล “เจอ แจก จบ” โดยทำการตรวจผู้ที่สงสัยป่วยโควิด 19 ด้วยชุดตรวจ ATK หากพบผลเป็นบวก แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษาตามอาการ 3 สูตร ได้แก่
1.ยาฟาวิพิราเวียร์
2.ยาฟ้าทะลายโจร
3.ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก

         เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ติดเชื้อในการเข้าถึงบริการ และเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่การเป็นโรคที่ดูแลได้ด้วยตนเอง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 มีนาคม นี้


 
         นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีจังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ต ที่ดำเนินการอยู่แล้ว พบว่าได้ผลดี ส่วนศิริราชพยาบาลได้วางระบบต้นแบบนี้ไว้เช่นกัน โดยให้ผู้ป่วยดูแลตนเองที่บ้าน ไม่พบคนหมู่มาก พยายามแยกตัวออกจากผู้อื่น ลดการเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ สำหรับกลุ่ม 608 สามารถใช้ระบบนี้ได้ หากมีความเสี่ยงสูง หรือโรคประจำตัวมาก แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาให้การรักษาแบบผู้ป่วยในต่อไป
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด