1. นำบุตรหลานไปรับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด แม้ผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคคอตีบแล้ว ก็ต้องได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคคอตีบในอนาคต เพราะการป่วยเป็นโรคคอตีบไม่ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันโรคซ้ำได้
2. โรคนี้รักษาให้หายได้ ถ้ามีอาการไข้ ไอก้อง เจ็บคอ รีบมาพบแพทย์เพื่อสั่งยาปฏิชีวนะให้รับประทาน (ห้ามซื้อยารับประทานเอง)
3. มีพฤติกรรมสุภาพที่ดีและถูกสุขลักษณะ เช่น ไอหรือจามให้ปิดปาก ปิดจมูก เป็นหวัด หรือโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดเสมอ เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคคอตีบ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ และในที่ผู้คนอยู่กันแออัด
5. ถ้ามีผู้ป่วยในบ้านควรแยกผู้ป่วย ออกต่างหาก น้ำมูก น้ำลายและเสมหะของผู้ป่วยต้องทำลายอย่างถูกลักษณะ หรือราดน้ำยาฆ่าเชื้อ
สําหรับเด็กให้ฉีดวัคซีนตามโปรแกรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข คือ ให้ฉีดในรูปแบบของวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP vaccine) ทั้งหมด 5 เข็ม เป็น ระยะ ๆ จากอายุ 2 เดือนจนถึงอายุ 6 ปี โดยเข็มแรกให้ฉีดที่อายุ 2 เดือน, เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน, เข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน, เข็มที่ 4 อายุ 18 เดือน และเข็มที่ 5 เมื่ออายุประมาณ 4-6 ปี ต่อจากนั้นให้ฉีดกระตุ้นเมื่ออายุได้ประมาณ 12-16 ปี
ในผู้ใหญ่ถ้าเคยได้รับวัคซีนครบมาก่อนแล้ว ควรมีการฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี (Td vaccine และ ให้กระตุ้นด้วย Tdap หนึ่งครั้ง)
ถ้าไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ให้เริ่มรับการฉีดวัคซีนทันที
ผู้ป่วยที่หายจากโรคคอตีบแล้ว อาจไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ จึงอาจมีโอกาสเป็นโรค คอตีบซํ้าได้อีก ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดกระตุ้นเพื่อป้องกันโรคแก่ผู้ป่วยที่หายแล้วทุกคน
60 หมู่ 6 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140
เบอร์โทร 0-2594-0020-65
Call Center 1218