ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ

ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ

กลุ่มยานี้มีความเสี่ยงสูง  

  • กลุ่มยานอนหลับและยากล่อมประสาท
  • กลุ่มยาต้านซึมเศร้า
  • กลุ่มยาแก้ปวดลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ZSAIDAs)
  • กลุ่มยาลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ
  • กลุ่มยาต้านเกร็ดเลือด
  • กลุ่มยาแก้อาเจียน
  • กลุ่มยาลดแพ้ Anti-histamine

กลุ่มยาที่ใช้บ่อยในผู้สูงอายุ  

  1. กลุ่มยารักษาโรคประจำตัว อาทิ ยาลดความดันโลหิต ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ยารักษาโรคหัวใจ
  2. กลุ่มยานอนหลับและคลายกังวล
  3. กลุ่มยาแก้ปวดและคลายกล้ามเนื้อ
  4. กลุ่มยาวิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร

ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ 

  • การได้ยาหลายชนิดในเวลาเดียวกัน
    ทำให้ยามีปฏิกิริยาต่อกันหรือยาตีกัน ซึ่งเกิดจากยาชนิดหนึ่งไปมีผลแทรกแซงยาอีกชนิดหนึ่ง เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ถ้าได้รับยาลดความดันโลหิตชนิดขับปัสสาวะจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้การรักษาโรคเบาหวานไม่ได้ผล หรือในกรณีที่ผู้สูงอายุรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่เป็นประจำและชอบรับประทานใบแปะก๊วยเป็นอาหารเสริม จะมีความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่าย
     
  • การเปลี่ยนแปลงทางเสรีรวิทยา ในการออกฤทธิ์และกำจัดยาออกฤทธิ์และกำจัดยาออกจากร่างกาย
     
  • พฤติกรรมของผู้ป่วยสูงอายุ
    การซื้อรับประทานเอง ในประเทศไทยการซื้อยาตามร้านขายยาทำได้สะดวก ผู้สูงอายุจำนวนมากมักซื้อยาชุดหรือยาแฝงมาในรูปยาลูกหลอนมารับประทาน เช่น ผู้ที่มีปัญหาปวดตามข้อโดยมักเข้าใจว่าปลอดภัยเพราะผลิตจากสมุนไพร แต่มักมีการผสมยากยากลุ่มสเตียรอยด์ จึงส่งผลเสียในระยะยาว เช่น กระดูกพรุน ต่อมหมวกไตฝ่อ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น
     
  • ขาดการติดตามการรักษาจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
    ผู้สูงอายุจำนวนมากมักไม่ชอบมาพบแพทย์เนื่องจากข้อจำกัดต่างๆ เช่น กลัวรบกวนคนใกล้ชิด กลัวเสียเวลาและค่าใช้จ่าย การคมนาคมไม่สะดวก จึงพบได้บ่อยกว่าญาติมาขอรับยาเดิมจากแพทย์โดยไม่พาผู้ป่วยมาติดตามการรักษากับแพทย์
     
  • การไม่รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ผู้ป่วยหลายรายมักใช้ยาผิดพราดเนื่องจากสาเหตุต่างๆ เช่น
    • การใช้ยายุ่งยาก ผู้ป่วยไม่เข้าใจวิธีการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น รับประทานวันละหลายครั้ง
    • ผู้ป่วยหยุดยาเองโดยไม่แจ้งแพทย์เพราะเกิดผลอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา
    • สายตาไม่ดี หลงลืม ฉลากยาที่เขียนไม่ชัดเจนจึงรับประทานยาผิด
    • ทัศนคติของผู้ป่วยต่อยา เช่น รับประทานยามากๆจะทำให้ตับและไตวาย จึงหยุดใช้ยาไปเอง หรือบางรายคิดว่าควรเพิ่มปริมาณการใช้ยาเพื่อจะได้หายจากโรคโดยเร็ว
     
  • การเก็บสะสมยา สำหรับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยและมีโรคเรื้อรังมักจะได้รับยาหลายชนิด เมื่อใช้ยาไม่หมดก็จะเก็บสะสมยาไว้ เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยอีกครั้งก็จะลือกรับประทานยาเดิมที่เคยรับประทานได้ผล ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้หากยานั้นหมดอายุแล้ว
ในผู้สูงอายุกลุ่มยาที่นิยมใช้มากคือ กลุ่มยานอนหลับและยาแก้ปวดซึ่งยา 2 กลุ่มนี้ไม่ได้รักษาที่สาเหตุของโรค แต่อาจบรรเทาอาการให้ทุเลาลงเป็นครั้งคราวดังนั้นการใช้ยาต้องทำร่วมกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับและเกิดอาการปวด ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์  
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก...นิตยสาร Health Today
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด