นางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “มูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นองค์กรที่เชื่อมโยงความสุขของผู้ให้หรือ “ผู้บริจาค” ส่งต่อความสุขไปยังผู้รับหรือ “ผู้ป่วย” ซึ่งความสุขมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน อาทิ ความสุขของผู้บริจาคที่ได้เห็นผู้ป่วยหายดีได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว หรือการมอบทุนทรัพย์ให้กับนักศึกษา 4 หลักสูตร ผ่านโครงการ “ทุนการศึกษารามาธิบดี” เพื่อมุ่งสร้างบุคลากรทางการแพทย์ ให้นำความรู้มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมไทย หรือแม้กระทั่งความสุขที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และอีกมากมาย กว่า 53 ปีที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญที่สานต่อน้ำใจจากคนไทยและหน่วยงานที่มีจิตกุศลเพื่อสนับสนุนพันธกิจต่าง ๆ ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ทั้งการรักษา การวิจัย ทุนการศึกษาเพื่อสร้างบุคลากรการแพทย์ จัดสร้างอาคารและซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่อมอบสุขภาพที่ดีแก่คนไทย
มูลนิธิฯ ขอขอบพระคุณทุกน้ำใจของทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเงินบริจาคไม่เพียงช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษา ให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังได้มอบความสุขที่ไม่สามารถตีมูลค่าได้ให้แก่ผู้ป่วย รวมไปถึงคนในครอบครัว ผู้ที่อยู่รอบตัว ที่สำคัญไปกว่านั้น มูลนิธิฯ ได้รับทราบว่า การให้นั้นทำให้ผู้บริจาคมีความสุขด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ความสุขจากการให้...ไม่สิ้นสุด” ที่สะท้อนให้เห็นว่าเงินบริจาคของทุกคนนั้นปลายทางได้ส่งต่อไปถึงใครบ้าง และขอขอบพระคุณทุก ๆ การให้ที่ยิ่งใหญ่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะมอบความสุขและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนต่อไป”
“ความสุขจากการให้...ไม่สิ้นสุด” ถ่ายทอดเรื่องราวจริงจากชีวิตของสามผู้ป่วยโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่กำลังต่อสู้กับโรคร้าย แต่ด้วยกำลังใจของคนรอบตัวและน้ำใจจากผู้ให้ ทำให้พวกเขายังคงมีรอยยิ้มและสร้างความสุขให้กับใครอีกหลายคนในวันนี้
เรื่องราวแรก น้องน้ำอิง เด็กหญิง 7 ขวบที่ไม่สามารถย่อยอาหารเองได้
เรื่องราวแรกคือ เคสของเด็กหญิงอภิชญา หรือน้องน้ำอิง วัย 7 ขวบ ผู้ป่วยภาวะลำไส้ไม่มีโพรงประสาทตั้งแต่เกิด ทำให้ไม่สามารถย่อยอาหารได้เอง จึงต้องอยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่แรกเกิดและเติบโตท่ามกลางการดูแลของทีมบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรามาธิบดีจนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลรามาธิบดีจึงเปรียบเสมือนบ้านสำหรับน้องน้ำอิงที่รายล้อมไปด้วยความรักและความอบอุ่นจากทีมแพทย์และพยาบาล
รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี
ด้านรศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “ปัจจุบันโรงพยาบาลรามาธิบดี มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเฉลี่ยกว่า 2 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งจำนวนไม่น้อย เป็นผู้ป่วยยากไร้หรือผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องทุนทรัพย์ รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคที่สิทธิพื้นฐานไม่ครอบคลุมและผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์การแพทย์บางรายการนอกเหนือบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้วยความเชื่อมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ จึงไม่เพียงเป็นการให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานสถานพยาบาล แต่ยังเป็นอีกความมุ่งมั่นสำคัญของโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข และสร้างโอกาสในการเข้าถึงการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพให้กับคนไทยทุกคน”
แคมเปญ “ความสุขจากการให้...ไม่สิ้นสุด” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รวบรวมเสียงแทนคำขอบคุณของเหล่าผู้ป่วยภายใต้โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ที่ได้รับการช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลจากน้ำใจของคนไทย ที่ได้เปลี่ยนเงินบริจาคเป็นพลังให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายต่อไปได้ รวมถึงยังเป็นการสร้างความสุขให้แก่ครอบครัวและคนใกล้ชิดอีกด้วย ด้วยโอกาสดีใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมส่งมอบความสุข...ที่ไม่สิ้นสุดผ่านการบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ รวมถึงโครงการอื่น ๆ ภายใต้มูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อร่วมกันสร้างความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ อย่างไม่สิ้นสุด
เรื่องราวที่สอง คุณอ้อย ผู้ป่วยโรคผิวหนังแข็ง จากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ
เรื่องราวที่สองเป็นเคสของคุณอ้อย นางชนินทร์สิญา ผู้ป่วยโรคผิวหนังแข็ง ซึ่งจัดเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นและเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในปัจจุบัน โดยพี่อ้อยเข้ารักษาตัวกับทางโรงพยาบาลรามาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2562 และได้รับความช่วยเหลือในส่วนของค่ายารักษาภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงจากเงินบริจาคในโครงการผู้ป่วยยากไร้มูลนิธิรามาธิบดีฯ มาโดยตลอด พร้อมได้กำลังใจจากลูกชายให้มีแรงฮึดในการต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป
เรื่องราวสุดท้าย ยายสังวรณ์ ผู้ป่วยโรคมะเร็งโคนลิ้น
เรื่องราวสุดท้ายเป็นเคสของยายนา หรือ นางสังวรณ์ ผู้ป่วยโรคมะเร็งโคนลิ้น ที่ผ่านการผ่าตัดมาแล้วถึงสามครั้ง โดยผลกระทบของโรคร้ายนี้ทำให้ยายนาไม่สามารถพูดได้ จึงทำได้เพียงสื่อสารผ่านการเขียนและการแสดงท่าทางเท่านั้น แต่ยายนาก็ได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวและเพื่อนบ้านจึงทำให้ยืนหยัดต่อสู้กับโรคร้ายที่เป็นอยู่มาได้กว่า 10 ปี และด้วยการช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลที่มาจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาผ่านโครงการผู้ป่วยยากไร้ จึงทำให้ยายนาได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและทำให้ สามารถใช้ชีวิตได้เกือบเท่าคนปกติทั่วไป