ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์

17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์ HealthServ.net
17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์ ThumbMobile HealthServ.net

17 คนไทยที่ได้รับการปล่อยตัว หลังถูกจับเป็นตัวประกันในความไม่สงบอิสราเอล-ฮามาส ในพื้นที่ฉนวนกาซา เดินทางกลับถึงไทยแล้ว โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ และนายกเศรษฐา ทวีสิน ไลฟ์สดผ่านออนไล์ให้การต้อนรับและให้กำลังใจ

17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์ HealthServ
 
          30 พฤศจิกายน 2566 คนไทย 17 คน ที่ถูกจับเป็นตัวประกันในสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ในพื้นที่ฉนวนกาซา เดินทางกลับถึงไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 15.20 น. 

          คนไทยทั้ง 17 คน เป็นกลุ่มที่ได้รับการปล่อยตัว 3 รอบ ระหว่างการหยุดยิง 

          นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ และนายกเศรษฐา ทวีสิน ไลฟ์สดผ่านออนไล์ให้การต้อนรับและให้กำลังใจ รวมถึงสอบถามสถานการณ์และความรู้สึกกับตัวแทนคนไทยที่เดินทางกลับมา
 


          รายชื่อแรงงานไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับ จำนวน 17 ราย มีดังนี้
  1. นางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น
  2. นายสันติ บุญพร้อม ภูมิลำเนา จ.บุรีรัมย์
  3. นายบุญถม พันธ์ฆ้อง ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี
  4. นายมงคล ผจวบบุญ ภูมิลำเนา จ.ศรีษะเกษ
  5. นายวิทูรย์ ภูมี ภูมิลำเนา จ.หนองบัวลำภู
  6. นายวิชัย กาละปัตย์ ภูมิลำเนา จ.อุบลราชธานี
  7. นายบัญชา กองมณี ภูมิลำเนา จ.มหาสารคาม
  8. นายบุดดี แสงบุญ ภูมิลำเนา จ.นครพนม
  9. นายอุทัย ทุ่นศรี ภูมิลำเนา จ.เชียงราย
  10. นายอุทัย แสงนวล ภูมิลำเนา จ.นครพนม
  11. นายนัฐพร อ่อนแก้ว ภูมิลำเนา จ.นครพนม
  12. นายคมกฤษ ชมบัว ภูมิลำเนา จ.สุรินทร์
  13. นายอนุชา อ่างแก้ว ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี
  14. นายมณี จิระชาติ ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี
  15. นายวิเชียร เต็มทอง ภูมิลำเนา จ.บุรีรัมย์
  16. นายสุรินทร์ เกสูงเนิน ภูมิลำเนา จ.อุบลราชธานี
  17. นายพรสวรรค์ ปินะกาโล ภูมิลำเนา จ.นครราชสีมา
17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์ HealthServ

นายกฯ ส่งกำลังใจ

 
ระหว่างการสนทนา นายกฯ เศรษฐา ได้สอบถามถึงเพื่อนคนไทยที่ยังคงติดค้างอยู่ว่าได้มีการติดต่อสื่อสารบ้างหรือไม่  หนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับมา กล่าวว่า ไม่มีการติดต่อใดๆ เลย พร้อมกับกล่าวขอบคุณ และตอบคำถามนายกฯ ว่าได้รับการดูแลดีหรือไม่ 
 
              "ก็พอประมาณ ก็ดีถือว่าไม่เลวร้ายครับ"
 
              นายกฯ ได้กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลในการเร่งให้การช่วยเหลือ การประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลยเซีย กาตาร์) ดีใจที่คนไทยได้เดินทางกลับบ้านในวันนี้ กำชับว่าหากคนไทยมีข้อมูลใดอันจะเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือคนไทยที่ตกค้างอยู่ได้ ขอให้แจ้งกับรัฐมนตรี และส่งกำลังใจให้กับทุกคน 
 
 

 

ปานปรีย์สรุปสถานการณ์

 
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รายงานถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า หลังจากเดินทางไปกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ก่อนหน้านี้ ได้พบกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 17 คน ส่วนใหญ่สุขภาพร่างกายและกำลังใจดี ทางการอิสราเอลให้การดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในโรงพยาบาล หลายคนอาจประสบสถานการณ์ที่ค่อนข้างอันตราย หวั่นว่าจะส่งผลกระทบด้านสุขภาพจิต แต่ปรากฏว่าสุขภาพจิตยังดีอยู่ ทุกคนพร้อมเดินทางกลับไทยโดยเร็วที่สุด 
 
              ระหว่างที่อยู่ในอิสราเอล มีคนไทยได้รับการปล่อยตัวเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 19 ราย และอีก 4 คน ระหว่างเดินทางกลับ จึงรวมเป็นตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 23 คน ซึ่งอีก 9 คน ยังคงอยู่รักษาตัวที่อิสราเอล ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐกระทรวงต่างๆ ขณะนี้ ยังคงดำเนินภาระกิจต่อไป จนกว่าอีก 9 คนจะเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย 
 
              นายปานปรีย์ ระบุว่า เป้าหมายการเดินทางไปอิสราเอลล่าสุด คือเพื่อรับคนไทยทั้ง 17 คนนี้กลับประเทศ อีก 2 คน ยังมีสภาพร่างกายไม่พร้อม จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ต่อไปก่อน รวมทั้งอีก 4 คนที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัว  
 
              นายปานปรีย์ กล่าวขอบคุณความช่วยเหลือของนานาชาติ ให้คนไทยได้รับการปล่อยตัว หลายชาติมีความรักคนไทย ในจำนวนคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันครั้งนี้ คนไทยเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มใหญ่ที่ได้รับการปล่อยตัวลำดับต้นๆ นับเป็นเรื่องน่ายินดี รวมถึงการได้เข้าพบหัวหน้าคณะกาชาดระหว่างประเทศ ที่มีหน้าที่นำคนที่ได้รับการปล่อยตัวเดินทางออกจากฉนวนกาซา ผ่านทางอียิปต์ กลับมาสู่อิสราเอล  นอกจากนั้นยังได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และประธานาธิบดี ของอิสราเอล ด้วยเช่นกัน ซึ่งทางการอิสราเอลให้คำมั่นว่าพี่น้องชาวไทยที่ไปทำงานจะได้รับการดูแล มีความปลอดภัย และที่สำคัญคือไม่ถูกตัดสิทธิ์ สิทธิประโยชน์ที่แรงงานพึงจะได้รับ 
 
              "อิสราเอลมองคนไทย เสมือนเป็นคนอิสราเอลเลย" 
 
              นายปานปรีย์ ย้ำในตอนท้ายว่า แรงงานไทยไม่ต้องกังวล เพราะ ในด้านสิทธิประโยชน์นั้น สถานทูตไทยประจำอิสราเอล จะช่วยดูแล ไม่ให้เสียสิทธิ์ใดๆ 
 
17 คนไทยบินกลับจากอิสราเอล ถึงไทยแล้ว นายกฯ ต้อนรับผ่านออนไลน์ HealthServ

ตัวแทนคนไทยขอร่วมแสดงความอาลัยต่อผู้สูญเสีย


              ตัวแทนคนไทย ได้กล่าวในการเดินทางกลับในครั้งนี้ โดยเริ่มต้นด้วยการกล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียพี่น้องคนไทย 39 ชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอให้ผู้ร่วมงานแสดงความอาลัยด้วยการยืนสงบนิ่ง  หลังจากนั้นได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีปานปรีย์  ขอบคุณนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เดินทางไปเยี่ยมถึงอิสราเอล ขอบคุณกระทรวงแรงงาน ขอบคุณเอกอัครราชทูต และขอบคุณหน่วยงานทุกแห่งที่ให้การช่วยเหลือ จนได้เดินทางกลับถึงบ้านในวันนี้
 






สธ.รับตัวตรวจสุขภาพทันที


              นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมควบคุมโรค และกรมสุขภาพจิตถึงผลการคัดกรองสุขภาพตัวประกันชาวไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล จำนวน 17 ราย เมื่อเวลา 15.20 น.ของวันนี้ เบื้องต้น ผลการคัดกรองสุขภาพกาย ไม่พบผู้ป่วยสงสัยโรคติดต่อหรือมีไข้ แต่พบมีอาการป่วยทางกาย 6 ราย แบ่งเป็น มีปัญหาการได้ยิน 2 ราย ปวดเข่า 1 ราย ชานิ้วโป้ง 1 ราย ปวดท้องโรคกระเพาะ 1 ราย และโลหิตจาง สงสัยธาลัสซีเมีย 1 ราย โดยเจาะตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมแล้ว
 
              ส่วนการคัดกรองทางด้านสุขภาพจิต พบมีความเครียดเล็กน้อย 2 ราย ที่เหลือ 15 ราย อาการปกติ ภาพรวมไม่มีผู้ป่วยที่ต้องประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ดำเนินการติดตามเรื่องสุขภาพต่อไป

 

การดูแลโดยกระทรวงแรงงาน

          กระทรวงแรงงาน โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน รับพี่น้องแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยจำนวน 17 ราย กลับสู่ประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ


            นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วย ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานในการมาร่วมรับพี่น้องแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย ซึ่งเดินทางกลับจากอิสราเอล จำนวน 17 ราย ด้วยเที่ยวบินที่ LY081 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 15.12 น.ในวันนี้ โดยมาพร้อมกับคณะของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยในอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
 
          และผม ในฐานะผู้แทนของท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และกระทรวงแรงงาน ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับครอบครัวของพี่น้องแรงงานไทยทุกคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลในครั้งนี้ รวมถึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาทำให้ได้มีการปล่อยตัวประกันแรงงานไทยอย่างปลอดภัย ซึ่งในวันนี้มีพี่น้องแรงงานไทยเดินทางกลับมาจำนวน 17 ราย จากพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยแล้วทั้งหมด 19 ราย โดยในวันนี้ผมยังเป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานมอบเงินสด ซึ่งได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือมาจากสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยในเบื้องต้น รายละ 10,000 บาท ด้วย
 
          อีกทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่าขอให้ญาติของแรงงานมั่นใจได้ว่ารัฐบาลไทย กระทรวงแรงงาน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่ ในการดำเนินการประสานทุกฝ่าย เพื่อเร่งช่วยเหลือให้พี่น้องแรงงานไทยที่เหลือทั้งหมดให้ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อพบครอบครัวในเวลาที่รวดเร็วที่สุด และ ด้านสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับของแรงงานไทยที่ถูกจับกุมตัวนั้น ในส่วนของประเทศไทย แรงงานไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท หากแรงงานไทยดังกล่าวประสบปัญหาด้านร่างกายหรือจิตใจ จะได้รับเงินสงเคราะห์ รายละ 30,000 บาทโดยต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ (ใบรับรองแพทย์) ซึ่งจากการตรวจสอบ แรงงานไทย จำนวน 17 ราย พบว่า เป็นสมาชิกที่อยู่ในความคุ้มครองของกองทุนฯ จำนวน 14 ราย และสิ้นสุดความคุ้มครอง จำนวน 3 ราย
 
          ในส่วนของสิทธิประโยชน์จากอิสราเอลนั้น กระทรวงแรงงานได้รับการประสานว่า ผู้ถูกจับกุมตัวทุกรายจะได้รับเงินช่วยเหลือ ก้อนแรกเป็นเงิน จำนวน 100,000 บาท รวมถึงช่วง 6 เดือนแรก จะได้รับเงินคิดเป็นเงินไทยประมาณเดือนละ 60,000 บาท
 
           ทั้งนี้ หากแรงงานไทยได้รับการประเมินจากแพทย์ ว่าได้รับผลกระทบด้านร่างกาย หรือจิตใจ สามารถนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นกับสำนักงานประกันสังคมอิสราเอลเพื่อประเมินขอรับเงินช่วยเหลือได้โดยแต่ละรายจะได้รับเงินไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการประเมินของสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล
 
สำหรับค่าชดเชยอื่นๆ ของสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล แรงงานไทยทั้ง 17 ราย ได้กรอกข้อมูลและยื่นคำร้องเรียบร้อยแล้ว โดยสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล จะส่งให้สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
และในส่วนเงินค่าจ้างค้างจ่ายและเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (เงินปิซูอิม) นั้น อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะประสานนายจ้างเพื่อดำเนินการ จ่ายค่าจ้างส่วนที่ยังค้างจ่าย เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม)

 


ภาพจาก เพจกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด