ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี

วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี Thumb HealthServ.net
วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี ThumbMobile HealthServ.net

จ.กาญจนบุรี เป็นอีกจังหวัดที่มีวัดดังและวัดสวยงามอลังการหลายแห่ง เชิญชวนชาวไทยไปท่องเที่ยวนมัสการ

วัดดัง จ.กาญจนบุรี ท่องเที่ยวไหว้พระ เสริมบุญบารมีต้อนรับปี 2566
1. วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา
2. วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา
3. วัดถ้ำพุหว้า อ.เมืองกาญจนบุรี
4. วัดพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ
5. วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ อ.เมืองกาญจนบุรี
6. วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง
7. วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง
8. วัดหินแท่นลำภาชี อ.ด่านมะขามเตี้ย
9. วัดเขาสูงแจ่มฟ้า อ.ท่ามะกา
 
สอบถามข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวชมวัดต่างๆ ได้ที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 034-511200, 034-512500 ในวันและเวลาราชการ หรือทาง www.facebook.com/tatkan

วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา LINK

วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดทิพย์สุคนธาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันมีพระศรีวชิรสุธี เป็นเจ้าอาวาส วัดทิพย์สุคนธารามตั้งวัดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550
          วัดทิพย์สุคนธารามเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ พระพุทธรูปปางขอฝน (บางคันธารราฐ) องค์โลหะสำริด สูง 32 เมตร ยืนอยู่บนฐานสูง 8 เมตร ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาและเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม พระพุทธมหาเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่ลานพระทักษิณซึ่งเสมือนเขตพุทธวาส บริเวณโดยรอบ มีหอเกียรติประวัติสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อาคารประกอบต่างๆ และอ่างเก็บน้ำในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งมีการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ให้เปรียบเสมือน“พุทธอุทยาน”ที่มีลานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณารับโครงการไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2554  เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเยี่ยมชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00 - 17.00 น.

วัดถ้ำพุหว้า อ.เมืองกาญจนบุรี LINK

วัดถ้ำพุหว้า อ.เมืองกาญจนบุรี วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดถ้ำพุหว้า อ.เมืองกาญจนบุรี วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  เป็นสาขาหนึ่งของวัดปากน้ำ วัดถ้ำพุหว้าเป็นถ้ำลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ หน้าถ้ำมีปราสาทหินทรายรูปแบบศิลปะขอมโบราณประยุกต์ขนาดใหญ่สีน้ำตาลแดง มีลวดลายประณีตสวยงาม บรรยากาศโดยรอบมีลักษณะภูมิประเทศโอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ ร่มรื่น สะอาด สวยงาม เมื่อเข้าไปภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยงดงาม ว่ากันว่าเดิมทีเดียววัดแห่งนี้มีถ้ำเป็นอุโบสถ โดยภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานเป็นพระประธาน รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศเมียนมา ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาด้วยเช่นกัน ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายครอบตัวถ้ำเอาไว้
       นอกจากเป็นสถานที่เหมาะกับการปฎิบัติธรรมแล้ว ยังเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับหมู่คณะที่สามารถรองรับ ได้ถึง 500 คน เนื่องจากมีอาคารที่พัก โรงอาหาร และฐานผจญภัยต่างๆ พร้อมวิทยากรฝึกอบรม ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 087-1661819 , 034-511200, 087-1661819 

วัดพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ กลางทะเลสาป ที่ต้องล่องเรือเข้าไปเท่านั้น LINK

วัดพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ กลางทะเลสาป ที่ต้องล่องเรือเข้าไปเท่านั้น วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ กลางทะเลสาป ที่ต้องล่องเรือเข้าไปเท่านั้น วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
พระธาตุโบอ่อง ตั้งอยู่บริเวณบ้านโบอ่อง ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านในตำบลปิล็อค จ.กาญจนบุรี การเดินทางเข้าถึง ต้องนั่งเรือไปยังเกาะโบอ่องเท่านั้น
 
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ ตั้งอยู่บนเขาเล็กๆ กลางทะเลสาป 
เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงพุทธ และชาวมอญ ในละแวกพื้นที่นั้นมายาวนาน จัดเป็นสถานที่และศาสนสถาน สุด unseen ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว
 
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ ความสูง 6 เมตร ฐานกว้างประมาณ 3x3 เมตร สร้างอยู่บนยอดเขาหินปูนเล็ก ๆ ที่มีบึงน้ำใหญ่ล้อมรอบ ในบึงมีบัวขึ้นอยู่รายล้อม และมีนกน้ำนานาชนิด ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า เจดีย์พระธาตุโบอ่องสร้างมาตั้งแต่สมัยใด ข้างองค์พระธาตุ มีหอระฆังขนาดเล็ก ที่มีระฆังแขวนอยู่ ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า เป็นระฆังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้พระราชทานไว้ให้แขวนคู่กับพระธาตุโบอ่องแห่งนี้ 
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านในหมู่บ้าน มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงเดินข้ามสะพาน เพื่อขึ้นไปบนยอดเขา ทำให้น้ำในบึงที่อยู่บริเวณโดยรอบนั้นเหือดแห้งหายไป จึงเกิดเป็นความเชื่อของชาวบ้าน ที่ต้องออกกฎว่า "ห้ามผู้หญิงเดินข้ามสะพาน เพื่อเข้าสู่เขตพระธาตุโดยเด็ดขาด" หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ว่ากันว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไปต่างๆนานา (***เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารญาณ***) โดยทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี จะมีประชาชนชาวบ้านที่เคารพศรัทธา เดินทางไปนมัสการเจดีย์พระธาตุโบอ่องแห่งนี้เป็นจำนวนมาก  

วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา สถาปัตยกรรมเรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก LINK

วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา สถาปัตยกรรมเรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา สถาปัตยกรรมเรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดสระลงเรือ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และประมาณ 100 กว่าปีได้มีผู้คนอพยพมาอาศัยบริเวณวัดสระลงเรือ ได้พบวัดเก่าซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างที่ยังเหลืออยู่ในขณะนั้น เช่น เจดีย์ และพระปรางค์ 2 องค์ วิหารและอุโบสถ ซากปรักหักพัง ในอุโบสถหลังนี้มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับอยู่ในนั้น และมีต้นโพธิ์ใหญ่ปกคลุมอุโบสถ มีสระน้ำสระเล็กอยู่ด้านหน้าอุโบสถ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
 
เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา นายจำเนียร ใคร่ครวญ ซึ่งเป็นชาวบ้านสระลงเรือโดยกำเนิดแต่ได้ไปทำธุรกิจในต่างถิ่น ได้เข้ามากราบขอพรจากหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอนันตภูมิสุคคุตโต) ซึ่งในปัจจุบันประทับอยู่ในวิหารแก้ว หน้าพระอุโบสถวัดสระลงเรือ หลังจากนั้นชีวิตของนายจำเนียร ใคร่ครวญ ก็ได้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ทุกประการ ต่อมานายจำเนียร ใคร่ครวญจึงได้สร้างพระอุโบสถและเรือสุพรรณหงส์ขึ้นภายในวัด (บริเวณสระน้ำโบราณที่ได้รับการขยายให้กว้างขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว) โดยให้เหตุผลว่า ตนได้รับพรจากหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอันตภูมสุคคุตโต) จึงตั้งใจสร้างพระอุโบสถและเรือสุพรรณหงส์ลำนี้ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์และทดแทนบุญคุณหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอนันตภูมิสุคคุตโต) ที่ประทานมาให้แก่ตัวของนายจำเนียร ใคร่ครวญ และครอบครัว
 
สิ่งสำคัญในวัด 
- เรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- พระอุโบสถ
- มณฑปพระครูอรัญกาญจนเขต (หล่วน กนฺตสีโล)
- สวรรค์นรกภายในพระอุโบสถ
- ศาลาการเปรียญ
- เจ้าแม่กวนอิมกลางสระน้ำ
- พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ 

วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง ความอลังการบนยอดเขา LINK

วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง ความอลังการบนยอดเขา วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง ความอลังการบนยอดเขา วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนตั้งอยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม
 
จุดเด่นของวัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาให้มาเยี่ยมชมคือพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีนามว่าหลวงพ่อชินประทานพร ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 โดยตัวองค์พระประดับโมเสกสีทองอร่ามทั้งองค์โดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา การขึ้นไปยังพระพุทธรูปจะต้องเดินขึ้นบันไดนาค ต้นบันไดมีสัตว์หิมพานต์สีสันสวยงามตั้งอยู่หลายตัว บันไดทางขึ้นนี้มี 157 ขั้น หากไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันได ทางวัดมีรถรางบริการในราคาคนละ 10 บาท 
 
ขณะเดินหรือนั่งรถรางขึ้นเขาสามารถมองลงไปชมชมวิวทิวทัศน์ทะเลสาบและเขื่อนวชิราลงกรณ์โดยรอบได้ในมุมกว้าง ที่อยู่ถัดจากองค์พระพุทธรูปคือพระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท องค์พระเจดีย์มีขนาดใหญ่ มีความสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ เก้าชั้น แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปสำริดประดิษฐานอยู่ ภายในยังมีจิตรกรรมฝาผนังงดงาม มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ชั้นที่เก้า ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของพระเจดีย์ โดยพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ภายในได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียในปี พ.ศ. 2533หน้าต่างอีกด้านหนึ่งของเจดีย์ยังสามารถมองไปเห็นวิหารจีนของวัดถ้ำเขาน้อยที่ตั้งอยู่ใกล้กันและมีความสูงใกล้เคียงกัน ด้านข้างองค์พระพุทธรูปยังมีอุโบสถทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยที่มีลวดลายสวยงามวิจิตรด้านหลังสามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาและทุ่งนาสีเขียว บริเวณเชิงเขามีถ้ำเสือ ซึ่งเป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในมีร่างของพระครูสิทธิวิมล (หลวงปู่ชื่น ปาสาทิโก) อยู่ในโลงแก้ว มีประดิษฐานพระประจำวันเกิดและมีจัดจำหน่ายวัตถุมงคล เดินทางอย่างไร หากมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จากนั้นขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไปอำเภอท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายไปเข้าเส้นแสงชูโตเก่า จากนั้นไปตั้งหลักที่วงเวียนหอนาฬิกา โรงพยาบาลท่าม่วง วิ่งเลียบถนนเขื่อนวชิราลงกรณ์ไปจนสุดทาง จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางอีก 1 กิโลเมตรจะพบแยกซ้ายเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทางจะพบป้ายบอกทางเข้าวัด วัดถ้ำเสือตั้งอยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย 

วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง หลังอิงผา หน้าแม่น้ำ LINK

วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง หลังอิงผา หน้าแม่น้ำ วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง หลังอิงผา หน้าแม่น้ำ วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดบ้านถ้ำ ห่างจากวัดถ้ำเสือไปทางตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร มีจุดเด่นที่โด่งดัง คือ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปหลวงพ่อใหญ่ชินราชและโบราณวัตถุ มีหินงอกลักษณะคล้ายผู้หญิง เชื่อกันว่าคือ นางบัวคลี่ ภรรยาของขุนแผนตามตำนานอิงประวัติศาสตร์เรื่องขุนช้างขุนแผน และบนยอดเขายังมีถ้ำที่มีหินงอก หินย้อยสวยงามอีกหลายถ้ำ
 
วัดบ้านถ้ำเป็นโบราณสถานสำคัญทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี จดทะเบียนกรมศาสนา เมื่อปี พ.ศ.2325 ปัจจุบันมีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา กรมศิลปากรได้เข้ามาสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2492 ซึ่งพระยาอนุมานราชธน อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น ให้คำสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยาติดต่อกัน เพราะพระพุทธรูปที่เป็นพระประทานในถ้ำและใบพัทสีมาอุโบสถเก่าของวัดเป็นสมัยสุโขทัย ส่วนพระพุทธรูปหินทรายเป็นสมัยกรุงศรีอยุธยา
 
จุดสำคัญน่าสนใจอื่นในวัด อาทิเช่น พระอุโบสถหลังเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิพร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรที่ทำด้วยหินทรายลงรักปิดทองอันเป็นของเก่าที่มีมาแต่เดิม ส่วนภายในพระอุโบสถหลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ที่ทำพิธีหล่อขึ้น ณ วัดชีปะขาวหาย จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ยังสามารถชมถ้ำที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ถ้ำคูหามังกรสวรรค์ ถ้ำนางบัวคลี่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อใหญ่ชินราช" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ รวมทั้งถ้ำอื่น ๆ เช่น ถ้ำม่านวิจิตร ถ้ำขุนแผน ถ้ำดอกจอก อุทยานถ้ำดุสิต ถ้ำหมื่นหาญ ถ้ำนางนวล ถ้ำนางนอน นอกจากนี้บนยอดเขายังเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกมุมหนึ่งของกาญจนบุรี ซึ่งมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนโอบล้อมเอาไว้สวยงามราวภาพประทับใจ
  

วัดหินแท่นลำภาชี อ.ด่านมะขามเตี้ย อุโบสถสีขาวบนสำเภาแก้วร้อยล้าน LINK

วัดหินแท่นลำภาชี อ.ด่านมะขามเตี้ย อุโบสถสีขาวบนสำเภาแก้วร้อยล้าน วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดหินแท่นลำภาชี อ.ด่านมะขามเตี้ย อุโบสถสีขาวบนสำเภาแก้วร้อยล้าน วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดแท่นหินลำภาชี ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเด่น สุดอลังการ คือ อุโบสถบนสำเภาแก้ว สีขาว เรียกว่า โบสถ์สำเภาแก้วร้อยล้าน ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์ ขนาบข้างด้วยเรืออนันตนาคราชลักษมี หนึ่งเดียวในประเทศไทย ด้านหน้าอุโบสถประดิษฐานองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
 
วัดหินแท่นลำภาชี ถูกสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 ปัจจุบันมีพระครูถาวรกาญจนธรรม หรือหลวงพ่อสมคิด เป็นเจ้าอาวาส โดยแนวคิดในการสร้างโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น หลวงพ่อสมคิด กล่าวว่า พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารบางขุนพรม ได้นิมิตเห็นสถานที่ก่อสร้าง จึงนำคณะศรัทธาหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) มาช่วยสร้าง ใช้ปัจจัยไปกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งมาจากศรัทธาของ หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ทั้งสิ้น โดยความหมายของโบสถ์แก้วที่ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น สีขาวของโบสถ์ หมายถึงกระจกขาว ที่สื่อถึงพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐเปล่งประกาย ไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล ส่วนเรือสุพรรณหงส์ หมายถึง การนำพามนุษย์ ข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ด้านข้างทั้ง 2 ของโบสถ์ มีเรือขนาบข้างด้วย เรืออนันตนาคราชลักษมี ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ เด่นตั้งตระหง่านอยู่หน้าโบสถ์ และด้านหลังของโบสถ์มีท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ อธิบดีแห่งอสูรหรือยักษ์ เจ้าแห่งผีหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ผู้คุ้มครองและ ดูแลโลกมนุษย์ สิงสถิตอยู่บนสวรรค์ นอกจากนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอีกอย่างหนึ่ง คือ ศาลาประดิษฐาน 3 บูรพา พระมหากษัตริย์ในอดีต คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระปิยมหาราช หรือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี โดยผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวาย โดยมีคติความเชื่อว่ากษัตริย์ 3 พระองค์น่า จะเคยเสด็จผ่านสถานที่สร้างวัด 

วัดเขาสูงแจ่มฟ้า อ.ท่ามะกา ผสมผสานหลากมิติ - หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ สกายวอล์กชมทิวทัศน์ ทางเดินเสาโทริอิสีแดงแบบวัดญี่ปุ่น LINK

วัดเขาสูงแจ่มฟ้า อ.ท่ามะกา ผสมผสานหลากมิติ - หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ สกายวอล์กชมทิวทัศน์ ทางเดินเสาโทริอิสีแดงแบบวัดญี่ปุ่น วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดเขาสูงแจ่มฟ้า อ.ท่ามะกา ผสมผสานหลากมิติ - หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ สกายวอล์กชมทิวทัศน์ ทางเดินเสาโทริอิสีแดงแบบวัดญี่ปุ่น วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดเขาสูงแจ่มฟ้า เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเขาสามสิบหาบ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ดิน 15 ไร่ วัดเขาสูงแจ่มฟ้าเริ่มก่อสร้างสำนักสงฆ์เมื่อ พ.ศ. 2522 ได้รับการแต่งตั้งประกาศวัดขึ้นทะเบียนในพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558 โดยนายการุณ ปุญสิริ ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัด มีพระครูวินัยธรเกียงไกร ติกุขวิริโย พงษ์ธนจิรายุส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกจนถึงปัจจุบัน วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558 วัดได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถเมื่อ พ.ศ. 2550 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลา 9 ปี
 
สิ่งสำคัญในวัด หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่, สมเด็จพระพุฒาจารย์โต, พระพุทธรูปองค์ดำปฏิหาริย์ พระประธาน พระพุทธไสยาสน์ พระนอนองค์ใหญ่, เจ้าแม่กวนอิม, พญาธนบดีนาคราช พ่อท้าวเวสสุวรรณ, องค์พระพิฆเนศวร, สกายวอล์กชมทิวทัศน์, ทางเดินเสาโทริอิสีแดงแบบวัดญี่ปุ่นในนครเกียวโต 

วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ - วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่แกะสลักจากไม้ LINK

วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ - วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่แกะสลักจากไม้ วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ - วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่แกะสลักจากไม้ วัดดังสุดอลังการ จ.กาญจนบุรี
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นวัดมหายานจีนนิกาย อยู่ท่ามกลางหุบเขาบรรยากาศร่มรื่น เป็นวัดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวและทำบุญ
 
ตัววัดสร้างจากไม้ทั้งหลังแกะสลักลงสีแบบสถาปัตยกรรมจีนสวยงาม มีพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่แกะสลักจากไม้ สูง 12 เมตร สวยงามน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง และมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้หอมปางต่างๆ อีกกว่า 100 ปาง เสาไม้ขนาดใหญ่สลักลวดลายมังกรพันรอบเสาสวยงาม และมีงานไม้แกะสลักอีกมากมายให้ได้ชม 
 
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "慈悲山菩提禪寺 ฉื่อปุยซัวผู่ทีเซียมยี่" การสร้างวัดเริ่มจากเมื่อ ปี พ.ศ. 2537 พระอาจารย์ เย็นหมง จากวัดโพธิ์เย็น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีได้เดินทางธุดงค์มาถึงบริเวณนี้ และได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมในถ้ำบนภูเขาทางเข้าด้านเหนือ ภายในถ้ำมีอัฐิและสิ่งของต่างๆหลายอย่าง ท่านได้พักปฏิบัติธรรมอยู่นานประมาณ 5 เดือน ท่านได้เกิดนิมิตมงคลว่าดินแดนแห่งนี้เหมาะแก่การสร้างวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนามหายานจีนนิกาย ท่านจึงได้ตั้งจิตอฐิฐานและปวารนาตัว ที่จะสร้างวัดนิกายจีนมหายานขึ้นมาในบริเวณนี้ ท่านจึงได้หารือกับญาติโยมหลายฝ่าย ซึ่งต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นสถานที่กราบไหว้พระ-ปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เป็นสถานที่เผยแผ่ ศึกษา ค้นคว้าพระพุทธศาสนานิกายจีนในประเทศไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะของชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นศาสนสถานของแผ่นดินและเป็นสมบัติของชาติ ของลูกหลานคนไทยตลอดไปตราบกาลนาน
 
โดยการสร้างวัดเริ่มจากสร้างศาลาหลังแรกสำเร็จเมื่อปี พ.ศ 2542 และได้รับการประทานชื่อศาลา จาก สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร สกลมหาสังฆปรินายก ว่า "ศาลาโพธิญาณเฉลิมพระเกียรติ" นับเป็นศิริมงคลต่อวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ เป็นอย่างยิ่ง 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด