ด้วยพลานุภาพและพละกำลังมหาศาลของพญาครุฑ จึงมีพลังอำนาจเหนือทุกสิ่ง ยิ่งใหญ่ แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ พญาครุฑจึงถูกเลือกเป็นสัญลักษณ์ ของความสูงส่งทั้งมวล เป็นการสักการะบูชาและศักดิ์สิทธิ์เหนืออื่นใด ใช้แทนตราสัญลักษณ์ต่างๆ ตั้งแต่ ตราพระมหากษัตริย์ ตราทหาร ตำรวจ วิศวะ นายช่าง หรือผู้ที่รับราชการ เป็นต้น
วิธีการบูชาครุฑ และบทสวดอัญเชิญครั้งแรก
ควรทำพิธีอัญเชิญองค์พญาครุฑเข้าบ้าน ก่อนเวลา 12:00 น. และให้ใช้ธูป 5 ดอก เพื่อบอกเจ้าที่ หลังจากนั้นให้จัดเครื่องบวงสรวง โดยมีดังนี้
1. ธูป 9 ดอก พร้อมเทียน 1 คู่
2. พวงมาลัย 1 พวง
3. ผลไม้ 1 อย่าง หรือ 3 อย่าง
4. ถั่ว 1 ถ้วย หากไม่มีสามารถใช้ งา แทนได้
5. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
บทสวดอัญเชิญพญาครุฑเข้าบ้าน
"พุทโธอิติสุคะโต นะโมพุทธายะ ข้าพเจ้าขออัญเชิญพญาครุฑ กำลังแผ่นดินจงคุ้มครองข้า (บอกชื่อและนามสกุล) เจริญโชคมั่งมีศรีสุข ลาภผลพูนทวี อยู่เย็นเป็นสุข ขออำนาจพญาครุฑจงล้างอาถรรพณ์ขจัดทุกข์โศก โรคภัยเสนียดอัปมงคลให้หายสิ้นไป ขออำนาจพญาครุฑกำลังแผ่นดิน จงคุ้มครองครอบครัวของข้าพเจ้า ให้เจริญร่ำรวยด้วยอำนาจของ อุกาสะ มะ อะ อุ พุทโธนะโมพุทธายะ เทอญฯบ [
Aurora]
+++++
คาถาบูชาพญาครุฑ อื่นๆ
คาถาบูชาพญาครุฑ 1
ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า
อะหัง ครุฑธาเรนะ (3 คาบหรือ 9 คาบ)
ครุฑาเทวาราช ราชาเวหา อิทธิฤทธา อิทธิเดชา นะมะอะอุ (สวด 3-5-7-9 จบ)
อุ กะ กา นัง (3 จบ)
คาถาบูชาพญาครุฑ 2
ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า
คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย
นะได้เงิน นะได้ทอง นะเจริญ นะมั่นคง นะได้ทรัพย์ นะเมตตา
อิติปิโสภะคะวาพระพุทธเจ้าสั่งมา พญาครุฑล้างอาถรรพณ์
อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง พญาครุฑยันติ อภิปูยาจามิ.
พญาครุฑจะผุด มนุษย์จะเกิด พุทธังแคล้วคลาด
ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด องค์พระพุทธเจ้าย่างบาท
นะปัจจะโยโหนตุ
คุณจากการบูชาพญาครุฑ
- เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
- สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
- เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
- ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
- เป็นเมตตามหานิยม
- นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
- ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
- สัตว์ร้ายมีเขี้ยวงาสารพัด อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
พญาครุฑ วัดโพธิทอง บางมด กรุงเทพฯ LINK
วัดอันดับหนึ่ง ที่เมื่อนึกถึงการสักการะ "พญาครุฑ" จะเป็นวัดอื่นไปไม่ได้ นอกจาก
วัดโพธิทอง ที่มี พระอาจารย์วราห์ ปุญญวโร เจ้าอาวาส ผู้เป็นเจ้าตำรับ พญาครุฑ อันลือเลื่องมานานนับสิบปี และทำให้วัดโพธิทอง เสมือนเป็นตักศิลาที่บรรดาผู้ศรัทธาในพญาครุฑจะมาชุมนุมกัน แลกเปลี่ยนศรัทธาประสาทะ แบ่งปันความนิยมต่อองค์พญาครุฑ สืบเนื่องกันมาจนปัจจุบันนั่นเอง
วัดโพธิทองเป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บริเวณที่คลองลัดขี้เหล็กตัดกับคลองเจ้าคุณ ในแขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2450 เดิมชื่อ วัดทุ่ง ไม่ทราบผู้สร้างว่าเป็นใคร แต่สันนิษฐานว่าตระกูลบุนนาคเป็นผู้สร้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดโพธิทอง” ด้วยเหตุผลที่ว่าบริเวณคลองบางปะแก้วมีวัดโพธิ์แก้วอยู่ทางต้นคลอง จึงตั้งชื่อ "วัดโพธิทอง" ควบคู่กันไป วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2513
เทพพระราหูทรงครุฑ วัดบัวขวัญ พระอารามหลวง นนทบุรี LINK
วัดบัวขวัญ จังหวัดนนทบุรี มีเทพพระราหูทรงครุฑ ที่สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์มาก และหาดูได้ยากเพราะเป็นความเชื่อในฝ่ายตำราโหราศาสตร์ไทยโบราณ ที่เชื่อว่าพระราหูมีครุฑเป็นพาหนะ เด่นในพุทธคุณด้านปัดเป่าเภทภัยกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้ [ภาพและข้อมูลจาก
เพจคนรักองค์พญาครุฑ]
วัดบัวขวัญ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ต่อมาเมื่อมีพระสงฆ์มาจำพรรษา และปฏิบัติสังฆกรรมมากขึ้น จึงได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นวัดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2435 มีนามว่า "วัดสะแก" ในเวลาต่อมาจึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น "วัดบัวขวัญ" เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคที่ดิน คือ นายบัว ฉุนเฉียว ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินให้กับวัด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2506 ปัจจุบันวัดบัวขวัญมีความเจริญทั้งด้านถาวรวัตถุ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตลอดทั้งให้ความสำคัญด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม กระทั่งมีการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัดนนทบุรี แห่งที่ 1 ขึ้น และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ในวันที่ 29 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2551
- เลขที่ 1 ซอยงามวงศ์วาน 23 ถนนงามวงศ์วาน ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี
- แผนที่ google map
มหาเทพครุฑาราชาบดี วัดประยงค์กิตติวนาราม กรุงเทพฯ
สัญลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนแห่งใดในไทย ณ วัดประยงค์กิตติวนาราม คือ “มหาเทพครุฑาราชาบดี” พญาครุฑองค์ใหญ่ กายแดงชาดเปล่งปลั่ง ในเครื่องทรงสีทองเปล่งประกาย ทรงพลานุภาพยิ่งใหญ่นัก ประทับหน้าโบสถ์จตุรมุขสีครีมสง่า ดุจเทวาพิทักษ์องค์พระประธานแห่งพระพุทธศาสนา อันได้แก่ องค์ “พระศรีอริยเมตไตรย” ความสูง 15 เมตร ปิดทองทองคำแท้ทั้งองค์ ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หลวงพ่อสำเร็จสมปรารถนา” ที่บรรดาความสำเร็จให้สาธุชนผู้ศรัทธามานักต่อนัก
วัดประยงค์กิตติวนาราม หรือ "วัดหลวงพ่อเพชร" เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร วัดประยงค์กิตติวนาราม หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดหลวงพ่อเพชร ตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557 แต่เดิมบริเวณตั้งวัดเป็นป่ากกและบ่อปลา พระครูวินัยธรพชร ฐานกโร หรือพระอาจารย์เพชร ได้ธุดงค์มาปักกลด ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2549 ต่อมาศิษยานุศิษย์ได้แนะนำให้รู้จักกับเจ้าของที่ดิน คือ คุณประยงค์ เหมกรณ์ และด้วยความเลื่อมใสศรัทธาจึงได้บริจาคที่ดินจำนวน 2 ไร่ เพื่อตั้งสำนักสงฆ์ โดยอุทิศส่วนกุศลให้กับคุณกิตติ เหมกรณ์ ซึ่งเป็นลูกชาย ด้วยเหตุนี้จึงใช้ชื่อว่า สำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวนาราม ต่อมาได้รับสถานะเป็นวัด โบสถ์จตุรมุขสีครีม สร้างเสร็จราว พ.ศ. 2556 ภายในวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลายอย่าง ให้เดิมชม เมื่อแวะเวียนไปท่องเที่ยวบูชากัน
ศาลเจ้าพ่อครุฑ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
ตั้งอยู่บริเวณตรอกครุฑ ริมคลองหลอด แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร ศาลนี้มีมานานมากกว่าร้อยปี ที่นี่เป็นที่ประดิษฐาน “องค์พญาครุฑ” ครุฑไม้แกะสลักเก่าแก่องค์ใหญ่ มีตำนานาเล่ากันว่า เคยมีคนพบครุฑเป็นไม้แกะสลัก สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นครุฑที่ติดกับหัวเรือรบสมัยโบราณ แล้วเกิดหลุดลอยตามน้ำมาติดอยู่บริเวณนั้นไม่ยอมไปไหน จนมีคนมาพบแล้วเกิดศรัทธา จึงอัญเชิญมาแล้วตั้งเป็นศาลภายในซอย ต่อมาถูกขโมยไป ชาวบ้านจึงรวมกันสร้างสร้างองค์ครุฑขึ้นมาใหม่ และบูรณะศาลเจ้าพ่อครุฑในเวลาต่อมาและได้รับการดูแลอย่างดีจนปัจจุบัน การขอพรองค์พญาครุฑ ณ ศาลเจ้าพ่อครุฑ แห่งนี้ ให้ใช้ธูป พวงมาลัย 1 พวง ธัญพืช 9 อย่าง น้ำแดง 1 ถ้วย ตั้งจิตอธิษฐานอย่างตั้งใจ แต่ไม่แนะนำให้บนบานศาลกล่าว
วัดบางนา หลวงปู่เส็ง ปทุมธานี
วัดเก่าแก่ในจังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2310 ในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลายและตอนต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดมอญโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่มีองค์ “พญาครุฑ” อยู่หลายจุดให้ได้สักการบูชา เนื่องจาก “หลวงปู่เส็ง จันทรังสี” เกจิชื่อดังด้านวิชาอาคมต่าง ๆ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสได้จัดสร้างขึ้น อีกทั้งยังมีสรีระสังขารของท่านให้ได้กราบไหว้ขอพรด้วย
พญาครุฑองค์ใหญ่ วัดครุฑธาราม พระนครศรีอยุธยา
วัดที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2302 ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) เป็นแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของอยุธยา สถานที่ประดิษฐาน “พญาครุฑ” องค์ใหญ่ให้สักการบูชาขอพรในเรื่องต่าง ๆ
วัดพระธาตุอูปแก้วจามเทวี เมืองพิศดารนคร เชียงใหม่
สถานที่ประดิษฐาน “พญาครุฑ” เจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ ช่วยปัดเป่า ปกป้อง และคุ้มภัย องค์ขนาดใหญ่ ลำตัวและปีกสีแดง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณเนินเขา โดยสร้างเพื่อเป็นพุทธานภาพ ถวายเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน