ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

[อัพเดต] เงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทย - ล่าสุด 22 ธันวาคม 2564

[อัพเดต] เงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทย - ล่าสุด 22 ธันวาคม 2564 Thumb HealthServ.net
[อัพเดต] เงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทย - ล่าสุด 22 ธันวาคม 2564 ThumbMobile HealthServ.net

สิ่งที่จะได้ทราบในบทความนี้
1) ข้อมูลสำหรับคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย
2) การลงทะเบียนระบบ THAILAND PASS เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย

1) สรุปเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยล่าสุด (สถานะวันที่ 22 ธันวาคม 2564)

 


ผู้เดินทางเข้าไทยทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass

(tp.consular.go.th) อย่างน้อย 7 วัน ก่อนเดินทาง
  • ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ QR Code ทางอีเมล สำหรับใช้แสดงต่อสายการบิน และ ตม. ไทย หากไม่มี QR Code จะถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าไทย
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Thailand Pass คลิกที่นี่
 

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนขอรับ QR Code ผ่านระบบ Thailand Pass แล้วก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564

(รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564 และยังรอผลการพิจารณา)
 
  • สามารถใช้ QR Code ดังกล่าวเดินทางเข้าไทยตามโครงการที่เลือกไว้ได้ (ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องเดินทางเข้าไทยก่อนกำหนดเวลาใด)
  • ตัวอย่างเช่น หากได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าไทยภายใต้โครงการ Test & Go ไปแล้ว ก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564 สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ท่านยังสามารถใช้ QR Code ดังกล่าวเดินทางเข้าไทยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตามเงื่อนไขโครงการ Test & Go ได้ กล่าวคือ ต้องพักที่โรงแรมจนกว่าจะได้รับผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ และเมื่อได้รับผลตรวจเป็นลบสามารถเดินทางไปพื้นที่/จังหวัดอื่นได้
  • ต้องใช้ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่อง (ยกเว้นกรณี
    (1) เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง และ
    (2) ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน
    สามารถใช้เอกสารยืนยันการหายป่วยได้กรณีที่ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก)
  • เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อครั้งที่ 2 โดยวิธี RT-PCR ณ สถานที่ที่ทางราชการกำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่และขั้นตอนการตรวจหาเชื้อฯ ครั้งที่ 2 ได้จากโรงแรมที่พักแห่งแรก

 

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ไม่สามารถเลือกเข้าโครงการ Test & Go ได้


*แต่* ยังมี 2 ทางเลือก สำหรับการเดินทางเข้าไทย


ได้แก่
 
(1) Phuket Sandbox
(เฉพาะสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้น) 
 
  • ไม่ต้องกักตัวในโรงแรม แต่ต้องอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน เมื่อครบ 7 วันแล้ว จึงจะสามารถเดินทางไปพื้นที่/จังหวัดอื่น ๆ ได้
  • จองและจ่ายค่าห้องพักที่โรงแรม SHA Extra+ ในภูเก็ต อย่างน้อย 7 วัน และมีหลักฐานการชำระค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง สามารถดูรายชื่อโรงแรม SHA Extra+ ได้ที่ thailandsha.com/shaextraplus (เลือกดูเฉพาะจังหวัดภูเก็ต)
  • ต้องใช้ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่อง (ยกเว้นกรณี (1) เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง และ (2) ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน สามารถใช้เอกสารยืนยันการหายป่วยได้กรณีที่ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก)
  • คนไทยไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (แต่ต่างชาติต้องใช้ประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 USD)  
  • ต้องตรวจ RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางถึงไทย และครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 หรือ 6
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และเดินทางพร้อมผู้ปกครอง สามารถเข้าไทยภายใต้โครงการ Sandbox ได้ตามเงื่อนไขเดียวกันกับผู้ปกครอง

เงื่อนไขสำคัญ 
ต้องเดินทางเข้าภูเก็ตโดยตรงจากต่างประเทศเท่านั้น ห้ามเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ ผู้ที่เดินทางเข้าทางกรุงเทพฯ จะต้องกักตัวที่กรุงเทพตามโครงการ Alternative Qaurantine ไม่สามารถต่อเครื่องไปภูเก็ตได้จนกว่าจะกักตัวที่กรุงเทพฯ ครบตามกำหนด



(2) Alternative Quarantine (AQ)
 
  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว กักตัวในโรงแรม AQ 7 วัน
    (จองและจ่ายค่าที่พักเต็มจำนวน หรือจ่ายเงินมัดจำแล้วไม่น้อยกว่า 15,000 บาท โดยหลักฐานการจองโรงแรมจะต้องรวมค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง)
  • ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบโดส กักตัวในโรงแรม AQ 10 วัน
    (จองและจ่ายค่าที่พักเต็มจำนวน หรือจ่ายเงินมัดจำแล้วไม่น้อยกว่า 15,000 บาท โดยหลักฐานการจองโรงแรมจะต้องรวมค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง)
  • ผู้ที่เดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ/ดอนเมือง สามารถเลือกโรงแรม AQ ได้เฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก
  • ผู้ที่เดินทางมายังท่าอากาศยานภูเก็ตฯ สามารถเลือกโรงแรม AQ ได้เฉพาะในภูเก็ตและพังงา
  • ดูรายชื่อโรงแรม AQ ได้ คลิกที่นี่ 
  • การจองโรงแรม AQ ให้ติดต่อโรงแรมโดยตรง หรือจองผ่านทาง www.agoda.com/quarantineth / https://asq.locanation.com / https://asq.ascendtravel.com / https://asqthailand.com / https://entrythailand.go.th (ไม่สามารถจองผ่านตัวแทนออนไลน์อื่น ๆ ได้) 
  • ต้องใช้ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่อง (ยกเว้นกรณี (1) คนไทย (2) เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง และ (3) ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน สามารถใช้เอกสารยืนยันการหายป่วยได้กรณีที่ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้คนไทยทุกคนตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง)
  • คนไทยไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (แต่ต่างชาติต้องใช้ประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 USD)   

2) การลงทะเบียนระบบ THAILAND PASS เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย

 

ขั้น 1: เตรียมเอกสารสำหรับการลงทะเบียน

เอกสารหลักฐานที่ต้องมีดังนี้
 
1. สำเนาหนังสือเดินทาง

2. หลักฐานการฉีดวัคซีน
หากมี QR Code เช่น EU Green Card จะทำให้กระบวนการง่ายขึ้น

วัคซีนที่ไทยยอมรับ
ได้แก่
Sinovac 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 2 สัปดาห์
AstraZeneca 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์
Johnson & Johnson 1 เข็ม
Pfizer 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์
Moderna 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์
Sinopharm 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์
Sputnik V 2 เข็ม - เว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์

หากระยะห่างระหว่างเข็มน้อยกว่าที่กำหนด
หลักฐานการฉีดวัคซีนของท่านจะถูกปฏิเสธ

เอกสารรับรองการได้รับวัคซีน
ต้องประกอบด้วย รายละเอียดยืนยันตัวบุคคล (ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขหนังสือเดินทาง) และรายละเอียดการได้รับวัคซีน (จำนวนครั้งต้องครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด / วันที่ได้รับวัคซีน โดยเข็มสุดท้ายจะต้องได้รับก่อนวันเดินทางไม่ต่ำกว่า 14 วัน / ตัวเลขรุ่นการผลิต (lot/batch number of vaccine)

สามารถใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนต่างบริษัทผู้ผลิตได้
แต่ต้องเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดตามที่บริษัทผู้ผลิตเข็มแรกกำหนด

ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้ว
สามารถแสดงหนังสือยืนยันการติดเชื้อ/หายป่วย ประกอบกับหลักฐานการฉีดวัคซีน 1 เข็ม ได้ (จะฉีดก่อน หรือหลังการติดเชื้อเป็นระยะเวลาเท่าใดก็ได้)

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
และเดินทางพร้อมผู้ปกครอง สามารถเข้าไทยตามเงื่อนไขเดียวกันกับผู้ปกครอง

เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี
ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน 1 เข็มอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง ยกเว้นกรณีที่เดินทางพร้อมผู้ปกครอง ไม่ต้องใช้หลักฐานการฉีดวัคซีน โดยเด็กจะสามารถเข้าไทยได้ตามเงื่อนไขเดียวกับผู้ปกครอง


3. หลักฐานการจองโรงแรมตามเงื่อนไขที่กำหนด
  • ดูรายชื่อโรงแรม AQ ได้ คลิกที่นี่ 
  • ดูรายชื่อโรงแรม SHA Extra + ได้ที่ thailandsha.com/shaextraplus (เลือกดูเฉพาะจังหวัดภูเก็ต)  
  • หลักฐานการจองโรงแรม SHA Extra+ หรือ AQ ต้องออกให้โดยโรงแรมโดยตรง หรือผ่านทาง www.agoda.com/quarantineth / https://asq.locanation.com / https://asq.ascendtravel.com / https://asqthailand.com / https://entrythailand.go.th
  • ผู้เข้าโครงการ Sandbox ที่ภูเก็ต ต้องแสดงหลักฐานการจองโรงแรม SHA Extra+ พร้อมหลักฐานการจองและชำระเงินค่าตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ผ่าน https://www.thailandpsas.com/ 


4. ข้อมูลการเดินทางเข้าไทย / รายละเอียดเที่ยวบิน
  • ผู้เข้าโครงการฯ ที่ภูเก็ต จะต้องบินจากต่างประเทศไปลงที่สนามบินภูเก็ตโดยตรงเท่านั้น
  • ปัจจุบันยังไม่สามารถลงกรุงเทพฯ และต่อเครื่องไปภูเก็ตได้


5. ประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า 50000 USD
เฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ / หากยังไม่มีประกัน สามารถซื้อประกันได้ [ที่นี่]

ขั้น 2: ลงทะเบียนผ่านระบบ THAILAND PASS

ระบบ THAILAND PASS (HTTP://TP.CONSULAR.GO.TH
 
  • ต้องลงทะเบียนก่อนเดินทางอย่างน้อย 7 วัน
  • ผู้เดินทางอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ต้องลงทะเบียนแยกรายบุคคล
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ลงทะเบียนพร้อมผู้ปกครอง (ไม่ต้องลงทะเบียนแยก) 
  • อัพโหลดเอกสารในรูปแบบไฟล์รูปภาพ JPG, JPEG หรือ PNG ที่ชัดเจน อ่านง่าย
  • หากหลักฐานการฉีดวัคซีนมี QR Code ระบบจะสามารถอ่านข้อมูลได้แบบอัตโนมัติ และสามารถอนุมัติการลงทะเบียนได้ภายใน 1-3 วัน แต่หากไม่มี QR Code ก็อาจใช้เวลามากกว่านั้น  

ขั้น 3: รับ QR CODE ทางอีเมล

 
  • เมื่อการลงทะเบียนของท่านได้รับการอนุมัติแล้ว ระบบ Thailand Pass จะส่ง QR Code ให้ท่านทางอีเมล
  • กรุณาพิมพ์ หรือบันทึก QR Code ดังกล่าวไว้บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่สายการบินก่อนขึ้นเครื่อง และต่อเจ้าหน้าที่ ตม. เมื่อเดินทางถึงไทย 

ขั้น 4: เตรียมเอกสารสำหรับการเดินทาง

 
สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าโครงการ TEST & GO (ไม่กักตัว)
ที่ได้รับ QR Code ก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ต้องใช้เอกสารดังนี้
 
  • QR Code ที่ได้รับจากระบบ Thailand Pass
  • หลักฐานยืนยันการจอง รร. SHA+ หรือ AQ 1 คืน ที่ระบุว่าได้จ่ายเต็มจำนวนแล้ว หรือจ่ายมัดจำอย่างน้อย 15,000 บาท และรวมค่าตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง
  • หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส (เด็กอายุต่ำว่า 18 ปี ไม่ต้องใช้หลักฐานการฉีดวัคซีน หากเดินทางพร้อมผู้ปกครอง)
  • ผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง (ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง)
  • ไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (ยกเว้นชาวต่างชาติ)
 
สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าโครงการ SANDBOX (ไม่กักตัว แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ ๆ กำหนด 7 วัน)
ต้องใช้เอกสารดังนี้
 
  • QR Code ที่ได้รับจากระบบ Thailand Pass 
  • หลักฐานยืนยันการจอง รร. ที่ผ่านมาตรฐาน SHA Extra+ อย่างน้อย 7 วัน และหลักฐานการชำระค่าตรวจโควิด-19 ตามที่รัฐบาลกำหนด
  • หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส (เด็กอายุต่ำว่า 18 ปี ไม่ต้องใช้หลักฐานการฉีดวัคซีน หากเดินทางพร้อมผู้ปกครอง)
  • ผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. (ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง)
  • ไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (ยกเว้นชาวต่างชาติ)
 
สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าโครงการ ALTERNATIVE QUARANTINE (กักตัวใน รร. 7 หรือ 10 วัน)
ต้องใช้เอกสารดังนี้
 
  • QR Code ที่ได้รับจากระบบ Thailand Pass 
  • หลักฐานยืนยันการจอง รร. AQ 7 หรือ 10 วัน ที่ระบุว่าได้จ่ายเต็มจำนวนแล้ว หรือจ่ายมัดจำอย่างน้อย 15,000 บาท และรวมค่าตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR 2 ครั้ง 
  • หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส เฉพาะสำหรับผู้ที่ประสงค์กักตัว 7 วัน (หากไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนจะต้องกักตัว 10 วัน ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง)
  • ผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. (ยกเว้นสำหรับคนไทย และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เดินทางพร้อมผู้ปกครอง ไม่ต้องใช้ผลจตรวจฯ) อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้คนไทยทุกคนตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง
  • ไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (ยกเว้นชาวต่างชาติ)
ข้อมูลข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กรุณาติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างใกล้ชิดจากเว็บไซต์และ Facebook ของหน่วยราชการไทยที่เกี่ยวข้อง

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด