ปัญหาเพศสัมพันธ์กับโรคหัวใจ
จากการศึกษาและการวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคหัวใจมีปัญหาเพศสัมพันธ์ 30–40% โดยเกิดจาก
- ผลกระทบโดยตรงจากโรคหัวใจเองที่พบบ่อย คือ เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกขณะออกแรงทำให้เกิดความกลัวไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์
- มีความรู้สึกผิด ๆ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์
- มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรค ทำให้ความรู้สึกเรื่องเพศลดลง
การมีเพศสัมพันธ์เป็นของ ต้องห้าม หรืออันตราย หรือไม่ ต่อผู้ป่วยโรคหัวใจ
การมีเพศสัมพันธ์ของผู้ป่วยโรคหัวใจไม่ใช่สิ่งต้องห้าม ไม่ใช่อันตราย แต่เป็นสิ่งที่ควรระวังเท่านั้น ถ้าผู้ป่วยมีความรู้เรื่องโรคของตนเองรวมทั้งมีสภาพจิตใจที่ปกติประกอบกับความร่วมมือของคู่สมรส
การเตรียมร่างกาย และจิตใจ
การฝึกการออกกำลังที่เหมาะสมภายหลังเกิดโรคหัวใจ (ตามคำแนะนำของแพทย์) นอกจากาจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้รวมทั้งลดอาการไม่สบายที่อาจเกิดขึ้นได้
วิธีที่จะขจัดความกลัว ก็ต้องปรึกษาหารือกับแพทย์ที่รักษา (ทั้งคู่สมรส และตัวผู้ป่วย) ถึงวิธีที่ปลอดภัยรวมทั้งการกินยาอย่างเคร่งครัด ยาบางอย่างอาจใช้เพื่อป้องกันอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ยาขยายหลอดเลือด
ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าตนเองพร้อม หรือแข็งแรงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้
- จิตใจ มีความรู้สึกต้องการร่วมเพศ กับมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (ผู้ชาย) อย่างมาก โดยเฉพาะในตอนเช้า หรืออาจเคยมี “ฝันเปียก” ไม่มีความกลัวหรือความวิตกกังวล
- ร่างกาย ท่านอาจค่อย ๆ ลอง “สำเร็จความใคร่” ด้วยตนเองไปก่อนเพื่อความความมั่นใจ และทดสอบความแข็งแรง
ท่านสามารถออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์โดยไม่มีอาการของโรคหัวใจ
ผลจากการวิจัยของแพทย์ในอเมริกา พบว่าการร่วมเพศจะทำให้หัวใจทำงานหนักเท่า ๆ กับ
- เดินขึ้นขั้น 2 ของตึกหรือบ้านได้อย่างคล่องแคล่ว
- เดินเร็ว ๆ รอบ ๆ บ้าน
- การทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ
- ถ้าเป็นวิชาการขึ้นหน่อย คือกำหนดการออกแรงจนหัวใจเต้น 120 ครั้ง/นาที หรือความดันโลหิตสูง 180/100 ม.ม. ปรอท อยู่นาน 10 วินาที โดยไม่มีอาการทางหัวใจ
การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ร่วมกับคู่สมรสของตนเอง และคู่สมรสร่วมมือด้วย
- สถานที่ที่คุ้นเคย มิดชิด
- เวลาที่เหมาะสม คือ เวลาเช้ามือหลังจากร่างกายได้หลับนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่มาแล้ว ถ้าเป็นเวลาค่ำก็ควรเป็นหลังอาหารมื้อเย็น อย่างน้อย 2 ชั่วโมง และไม่ดื่มจานเมามาย
- มีการปลุกร้าอารมณ์กันก่อนให้เต็มที่เพื่อเป็นการเตรียมหัวใจให้ค่อย ๆ ปรับตัว
- ท่าของการร่วมเพศ ควรเป็นท่าสบาย ๆ ธรรมชาติไม่ให้ผู้ป่วยอึดอัดเจ็บปวดหรือออกแรงมาก คู่สมรสควรจาช่วยให้หรือออกแรงมากกว่า
- ร่วมเพศทางช่องทางของคนปกติ
- อย่าลืมกินยารักษาโรคหัวใจตามคำแนะนำของแพทย์ บางครั้งสำหรับบางคนแพทยาจะแนะนำยากินหรือยาอมใต้ลิ้นก่อนการร่วมเพศ แต่เนื่องจากความต้องการทางเพศอาจไม่แน่นอนว่า เมื่อใด อย่างน้อยท่านควรกินยาตามมื้อที่กำหนดไว้เสมอ ๆ
ข้อหลีกเลี่ยงก่อนมีเพศสัมพันธ์
- อาหารมื้อหนัก โดยเฉพาะงานเลี้ยงที่มีการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ถ้าต้องการควรรอหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 2 ชั่งโมง
- ออกแรงหรือออกกำลังกายจนเหนื่อยมาก่อน หรือมีความเครียดมากมาก่อน
- การร่วมเพศบุคคลที่ไม่ใช้คู่สมรสอายุแตกต่างกันมาก ๆ
- ท่าร่วมเพศผิดธรรมชาติ เช่นท่าทางทวารหนัก จะเพิ่มความเคียด ความตื่นเต้นแก่หัวใจมากเกินไป
- ความรีบร้อนบรรยากาศไม่ดี สถานที่ไม่ดี อุณหภูมิร้อน หรือหนาวเกินไป
อาการผิดปกติ ระหว่าง หรือหลังการร่วมเพศ
มีความจำเป็นที่ท่านควรสังเกตอาการของตนเองขณะหรือหลังการร่วมเพศ เพื่อที่จะช่วยเหลือตนเอง หรือแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อรักษา และการป้องกันอาการผิดปกติที่อาจก่อให้เกิดอันตราย อาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้มักเกิดหลังการร่วมเพศใหม่ ๆ
- หัวใจเต้นเร็ว หรือรู้สึกใจสั่นอยู่นานกว่า 10 นาที
- หายใจหอบเร็ว หรือหายใจลำบาก อยู่นานกว่า 10 นาที
- มีอาการเจ็บแน่นกลางอกเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่รุนแรงกว่า
- นอนหงายไม่ได้ เพราะมีอาการต่าง ๆ ดังที่กล่าวข้างต้น
- อ่อนเพลียมาก เวียนหัวจะเป็นลม เหงื่อออกมากตัวชื้น
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอาการผิดปกติ
- นอนพักอยู่กับเตียง อย่าเพิ่งรีบลุกเดินหรือถ้าจำเป็นก็ค่อย ๆ เคลื่อนไหว ถ้าพอจะมีออกซิเจนอยู่กับบ้านก็ใช้ดมเลย
- ใช้ยาอมใต้ลิ้น หรือยาพ่นใต้ลิ้น ถ้าอาการต่าง ๆ เหล่านั้นไม่ดีขึ้น อม หรือพ่นซ้ำอีกในทุก 5 – 10 นาที ถ้าซ้ำสองสามครั้งแล้วไม่ดีขึ้น ควรรีบไปโรงพยาบาลใกล้เคียง หรือ โรงพยาบาลที่เคยไปรับการรักษ
- ในโอกาสพบแพทย์ที่รักษาโรค ควรขอคำแนะนำ
สรุป
การมีเพศสัมพันธ์ของผู้ป่วยโรคหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นชนิดใด ถ้าร่างกายยังแข็งแรงพอสมควร คู่สมรสร่วมมือดีและขอคำแนะนำจำแพทย์แล้ว โอกาสที่จะเกิดอันตรายน้อยมาก และโอกาสถึงตายเกือบไม่มี อย่างไรก็ตามผู้ป่วยไม่ควรมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไป คนอายุ 40 ปีขึ้นไปควรมีเพศสัมพันธ์ประมาณสัปดาห์ละไม่เกิน 1 - 2 ครั้ง
ขอย้ำอีกครั้งว่า ความปลอดภัยของท่านขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การร่วมมือของบคู่สมรส และความไม่ประมาท
จากเอกสารเผยแพร่ รพ.พระมงกุฎ