เรื่องทางใจกับสุขภาพกาย
เรื่องของการทำให้เบิกบานนี้บางคนอาจจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนักว่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ลองมาฟังผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Duke ในสหรัฐอเมริกา จากการศึกษาเป็นเวลา 6 ปี พบว่าผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 64 ปีขึ้นไป ถ้าหากได้มีกิจกรรมทางศาสนา เช่น เข้าวัด ฟังธรรม สวดมนต์ ภาวนา ทุกๆอาทิตย์เป็นประจำ จะมีโอกาสเสียชีวิตน้อยลงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้มีกิจกรรมดังกล่าว 46% เลยทีเดียว ฟังแล้วน่าจะชวนกันเข้าวัด อันที่จริงแล้วนอกจากความสบายอกสบายใจที่ได้รับ (หากเข้าถูกวัด) ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่สำคัญคือ การมีสังคมที่กว้างขวางขึ้น โอกาสที่จะเหงา ซึมเศร้า อยู่เดียวดายลดลง และเพื่อนฝูงรวมทั้งครอบครัวก็อาจจะสังเกตเห็นความผิดปกติอันเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บในระยะเริ่มแรก ซึ่งนำไปสู่การรักษาที่รวดเร็วขึ้นด้วย มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าผู้ที่มีความเครียดน้อย มีจิตใจสงบเป็นปกติจะมีภูมิคุ้มกันจะดีกว่าผู้ที่มีความเครียดสูง จิตใจวุ่นวาย ทั่งนี้เป็นเพราะในขณะที่จิตใจเป็นสุขจะมีสารที่สำคัญชนิดหนึ่งชื่อเอ็นโดฟิน ( Endorphine ) ซึ่งมีลักษณะคล้าย มอร์ฟีน ที่แพทย์ใช้ฉีดให้ผู้ป่วยเพื่อระงับอาการปวด ซึ่งเจ้าสารที่ว่านี้จะถูกหลั่งออกมาจากสมองส่วนที่เรียกว่าไฮโปทาลามัส ( Hypothalamus ) เราอาจเรียกสารนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “สารสุข” วิธีการที่ง่ายและสามารถใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อทำให้สารสุขนี้เพิ่มปริมาณมากขึ้น คือ “การหมั่นทำความดีเพื่อ ตนเอง และผู้อื่น โดยบริสุทธิ์ใจ”
บทความโดย
นพ.วรงค์ ลาภานันต์
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ รพ.ภูมิพล
แพทย์ที่ปรึกษาศูนย์หัวใจ รพ.วิภาวดี