ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

เกลือ เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงอย่างไร

เกลือ เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงอย่างไร

เกลือเกินกับความดันโลหิตสูง
พล อ. ต. นพ.บรรหาร กออนันตกูล อายุรแพทย์โรคหัวใจ ที่ปรึกษาศูนย์หัวใจ รพ.วิภาวดี
Happy&Healthy เสาร์ 23 พค.52 FM 102 9.00 – 10.00 น.
 

DJ: เกลือมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงอย่างไร ?

อาจารย์บรรหาร: ก่อนอื่นก็คงจะต้องทราบถึงคุณลักษณะของเกลือว่ามี สีขาว รสเค็ม เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ละลายในน้ำแตกตัวเป็นโลหะโซเดียมสีเงินเป็นประจุบวกกับคลอรีนที่เป็นแก๊สพิษสีเขียวเป็นประจุลบ เกลือก็คือการรวมของธาตุทั้ง 2 นี้ แล้วตกผลึก เกลือเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตและมีความสำคัญมากมายกว่าที่คิดในการนำไปใช้ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ด้วยปริมาณถึง 300 ล้านตันต่อปี เช่น นำมาทำสบู่ ยาย้อมสี ฟอกหนังสัตว์หรือฟอกกระดาษ เก็บรักษาอาหาร อุปกรณ์ทำความเย็น ละลายหิมะตามถนนเป็นต้น ร่างกายของคนเรานอกจากประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนมาก ถึงประมาณ 60% ส่วนประกอบที่สำคัญรองจากน้ำก็คือเกลือที่มีปริมาณมากถึง15%ของร่างกายเพราะว่าโซเดียมมีหน้าที่ควบคุมอัตราการถ่ายเทของน้ำในเซลล์แล้วยังมีบทบาทสำคัญในการสื่อสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ประสาทควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยเผาผลาญโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในร่างกายด้วย ดังนั้นเกลือจึงมีความสำคัญในการดำรงชีวิต และถ้าขาดเกลือก็จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อจะเสื่อมลง คนปกติต้องการเกลือประมาณวันละ 400 มิลลิกรัมหมุนเวียนชดเชยเกลือในร่างกายผ่านทางหลอดเลือด แต่ถ้าบริโภคเกลือเกินความต้องการก็จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หรือถ้ามีความดันโลหิตสูงอยู่แล้วก็ต้องลดปริมาณของเกลือให้ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ
 

DJ : ความดันโลหิตสูงเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

อาจารย์บรรหาร: ความดันโลหิตหรือแรงดันเลือด เป็นองค์ประกอบทำให้ระบบไหลเวียนของหัวใจและหลอดเลือดดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจทำให้เกิดแรงดันให้ปริมาณเลือดจำนวนหนึ่งที่อยู่ในหัวใจด้านซ้ายล่างให้เคลื่อนไปตามหลอดเลือดแดงใหญ่ต่อจากนั้นก็จะต้องมีแรงดันเลือดให้เคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องด้วยคุณสมบัติพิเศษของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่สามารถยืดหยุ่นหลอดเลือดแดงในช่วงที่กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่จะพองออกเพื่อรองรับปริมาณเลือดที่มาจากแรงหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ส่วนในช่วงกล้ามเนื้อหัวใจคลายตัวกล้ามเนื้อของหลอดเลือดแดงใหญ่ก็หดกลับสู่สภาพเดิมทำให้เกิดแรงดันส่งต่อเลือดให้เคลื่อนไปตามหลอดเลือดแดงที่เล็กลงในทุกส่วนของร่างกายไปเลี้ยงเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายด้วยอ๊อกซิเจนที่มาจากเม็ดเลือดแดง เพราะอ๊อกซิเจนเป็นสิ่งที่เซลล์ต่าง ๆ ขาดไม่ได้ ถ้าเซลล์ต่าง ๆ ขาดอ๊อกซิเจนก็จะทำให้สูญเสียอวัยวะจนถึงชีวิตได้
ค่าปกติของความดันโลหิตในช่วงที่หัวใจบีบตัว/คลายตัว เหมาะสมที่สุดอยู่ที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท การวินิจฉัยความดันโลหิตสูง ต้องวัดความดันโลหิตถ้าความดันโลหิตเท่ากับหรือสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปก็จะเข้าเกณฑ์ความดันโลหิตสูง สาเหตุของความดันโลหิตสูง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ความดันโลหิตสูงที่ทราบสาเหตุ อันเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะ เช่น ไต ต่อมหมวกไต หรือจากระบบต่อมไร้ท่อ เป็นต้น อีกประเภทหนึ่ง คือความดันโลหิตสูงที่ไม่ทราบสาเหตุอย่างแท้จริง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90% และมักจะเกิดร่วมกับปัจจัยเสี่ยงและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง คือ เกลือ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสารสีขาวแต่จะรวมไปถึงของที่มีรสเค็มทั้งหมด ในทุกสภาพ เช่น เนื้อเค็ม ปลาเค็ม น้ำปลา ซีอิ้ว และน้ำจิ้มต่าง ๆ ที่มีเกลือผสมอยู่ ปัจจุบันนี้พบโรคอ้วนที่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลีน เป็นผลให้เกิดความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้อีกด้วย และถ้ารวมการสูบบุหรี่และไขมันผิดปกติก็จะ กลุ่ม ปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
 

DJ: โรคความดันโลหิตสูงอันตรายอย่างไร

อาจารย์บรรหาร: ความดันโลหิตสูง ซึ่งเมื่อก่อนนี้เราเชื่อกันว่าเป็นเพียงสภาวะของระบบไหลเวียน แต่ในปัจจุบันนี้ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุลของพันธุกรรมแต่ที่แตกต่างไปจากโรคอื่นก็คือ โรค ความดันโลหิตสูงมีความสัมพันธ์กับทุกอวัยวะในร่างกายที่ต้องการอ๊อกซิเจน จึงเป็นโรคที่เกิดได้ทุกที่ จึงเรียกว่า โรคแทรกซ้อน เช่น กรณีหลอดเลือดแดงตีบตันหรือหลอดเลือดแดงส่วนปลายแตกที่สมองก็จะเกิดเป็นอัมพฤตอัมพาต หรือถ้าหลอดเลือดแดงของหัวใจในตีบตันก็จะทำให้เกิดหัวใจวายแบบเฉียบพลัน เช่นเดียวกัน ถ้าไปเกิดที่หลอดเลือดแดงของไตก็ทำให้ไตวาย หรือถ้าหลอดเลือดแดงส่วนปลายบริเวณขาและเท้าก็จะสูญเสียอวัยวะส่วนนั้นไป โดยทั่วไปอาการความดันโลหิตสูงมักจะเริ่มต้นจากไม่มีอาการอะไรเลย หรือค่อย ๆ มีอาการ มึน ปวดศีรษะ สมาธิลดลง หรือหงุดหงิดง่าย เครียด และถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะลุกลามไปจนถึงเกิดโรคแทรกซ้อนดังที่กล่าวมาแล้ว นับว่าเป็นการศูนย์เสียชีวิตหรือคุณภาพชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้ง ๆ ที่ความดันโลหิตสูงนั้นรักษาและป้องกันได้ โดยจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมงดและลดปัจจัยเสี่ยงหลัก ที่ได้กล่าวมาแล้ว เพิ่มการออกกำลังกายและเรื่องการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะด้วยการรู้จักเลือกชนิดของอาหารที่มีโคอเรสเตอรอลต่ำ และลดอาหารที่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัว หรือของทอด ส่วนในปริมาณอาหารที่รับประทาน(แคลลอรี่)ต้องไม่มากเกินไปให้พอเพียงกับพลังงานที่ต้องใช้ต่อวันจะไม่ทำให้อ้วน ทั้งนี้จำเป็นที่จะต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการใช้หลักง่าย ๆ ส่วนสูงเป็นเซ็นติเมตร ลบด้วยหนึ่งร้อย ก็จะเป็นน้ำหนักที่ไม่ควรจะเกินของเพศชาย ส่วนของเพศหญิงให้ลดลงอีก 10% หลักการที่ถูกต้องของการออกกำลังกายคือ
  1. ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพักให้ได้เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป
  2. จะต้องออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อย สัปดาห์ละ 4 วัน
  3. การออกกำลังกายมี 2 รูปแบบ เรียกว่า แบบแอโรบิก ที่เน้นการเคลื่อนไหวอวัยวะทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง ที่เพิ่มระดับแรงออกกำลังกายไปจนถึงระดับความแรงคงตัว ( Steady state) ส่วนการออกกำลังกายอีกแบบหนึ่งซึ่งจะต้องมีการสร้างพลังด้วยเกร็งกล้ามเนื้อให้เกิดพลังมารองรับการออกกำลัง เช่น การยกน้ำหนัก มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งประกอบไปด้วยข้อทั้งหมด 34 ข้อ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานทุกรูปแบบและได้ประโยชน์ในการเคลื่อนไหว เกิดความคล่องตัวที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นการดูแลข้อกระดูกทั้งหลายนี้ไม่ให้เกิดโรคข้อเสื่อม ต้องปฏิบัติด้วยการออกกำลังกายเท่านั้น เพื่อหล่อเลี้ยงและฝึกฝนให้ข้อต่อเคลื่อนไหวอย่างไม่มีอุปสรรคจะทำให้ดำรงไว้ซึ่งคุณภาพชีวิตในปั่นปลาย
 
สุดท้ายนี้ : ความสำคัญของเกลือ พบว่าถ้าสามารถลดการบริโภคเกลือลงได้ครึ่งหนึ่ง จะช่วยลดการเสียชีวิตจากอัมพาตและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันทั่วโลกได้ประมาณ 2.5 ล้านคนต่อปี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการเลือกรับประทานอาหารรวมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และโปรดอย่าลืมงดสูบบหรี่ก็จะทำให้ท่านปลอดโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกทั้งยังเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ยืนยาว
 

“เกลือคือส่วนหนึ่งของชีวิต ฉะนั้นถ้าท่านดูแลการบริโภคเกลือชีวิตก็จะสดใส”

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด