ตัวอย่าง 3 โรค ดังจะกล่าวต่อไปดังนี้
1) โรคท้องเสีย
สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อไวรัส
ระดับอาการเบื้องต้นและแนางทางรักษา ไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ
- ยาถ่าน (Activated Charcoal)
- จิบผงเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป
ระดับอาการที่ต้องไปพบแพทย์
2) โรคหวัด – เจ็บคอ
- สาเหตุ 80% เกิดจากเชื้อไวรัส
ระดับอาการเบื้องต้นและแนางทางรักษา ไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ
- ใช้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้แพ้ลดน้ำมูก คัดจมูก หรือยาแก้ไอ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ จิบน้ำอุ่นและทำร่างกายให้อบอุ่น
ระดับอาการที่ต้องไปพบแพทย์
- หากมีอาการเจ็บคอร่วมกับ 3 ใน 4 ข้อต่อไปนี้
-ไข้สูง
-มีฝ้าขาวที่ต่อมทอนซิล
-ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโตและกดเจ็บ
-ไม่มีอาการไอ
3) แผลเลือดออก ที่เป็นแผลสะอาด
ยาปฏิชีวะ ไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อในบาดแผลเลือดออกทั่วไป และไม่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ระดับอาการเบื้องต้นและแนางทางรักษา ไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ
- ล้างแผลอย่างถูกวิธี รักษาความสะอาดของแผลให้ดี
- ไม่สัมผัสสิ่งสกปรกเพิ่มเติม
- แผลจะหายเองได้
ระดับอาการที่ต้องไปพบแพทย์
- หากเป็นแผลเลือดออกจากสัตว์กัด บาดด้วยของมีคมสกปรก หรือ
- แผลในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
โทษของการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อ
- จน สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ต้องเสียเงินซื้อยาปฏิชีวนะแพงๆ
- แพ้ เสี่ยงต่อการแพ้ยา โดยมีอาการผื่นคัน รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ช็อก และอาจเสียชีวิตได้
- อาการข้างเคียง ตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน จนไปถึงอาการรุนแรง เช่น ตับอักเสบ ตาบอด และเอ็นร้อยหวายฉีกขาด
- ดื้อยา ทำให้ต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่อันตรายมากขึ้น แพงขึ้น หรือหายาที่ใช้รักษาไม่ได้เลย
รู้อย่างนี้แล้วก็มาช่วยกันลดการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น