ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาวิธีการป้องกันและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หลังเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) พบว่าพื้นที่ จ.สมุทรสาคร มีค่าฝุ่นละอองสูงสุดของประเทศ
16 พ.ย.2563 การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่น PM 2.5 ที่ จ.สมุทรสาคร ที่สถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ หลังโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ถ.พระราม 2 ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ตรวจวัดได้ 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ซึ่งถือเป็นค่าสูงสุดของประเทศไทยในเช้านี้ ส่วนอีกจุดตรวจวัดที่บริเวณ ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน ตรวจวัดได้ 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
จากภาพรวมของการตรวจวัดในประเทศไทย บริเวณ จ.สมุทรสาคร และรอยต่อกรุงเทพมหานคร จะมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงมากกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งแสดงสัญลักษณ์เป็นพื้นที่สีส้ม คือเริ่มมีผลกระทบต่อร่างกาย
ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมการแจ้งและสวมหน้ากากป้องกัน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานหลายปี ทุกครั้งที่เกิดก็จะมีปัญหาสุขภาพตามมา
ล่าสุด นายวีรศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาวิธีการป้องกันและลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ในช่วงเช้าวันนี้
ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ จากรายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรควบคุมมลพิษ เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ระบุค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง ตรวจวัดได้ 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วน ต.ตลาด วัดได้ 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ ต.บางโปรง อ.เมืองสมุทรปราการ วัดค่าได้ 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ ต.ปากน้ำ มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 45 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่พื้นที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง วัดค่าได้ 29 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศของ จ.สมุทรปราการ จึงยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงดีในขณะนี้