ภาวะเส้นเลือดขอดบริเวณขา
- พบบ่อยในเพศหญิงในช่วงอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
- จะพบได้มากกว่าร้อยละ 50 ในเพศหญิงจะพบภาวการณ์ขยายตัวของหลอดเลือดแดง (Telangiectasia) ได้มากกว่าเพศชายถึง 4 เท่า
แต่ขณะเดียวกันขนาดของเส้นเลือดขอดของหลอดเลือดดำ (Varicose vein) ในเพศชายจะมีขนาดใหญ่กว่าที่พบในเพศหญิงถึง 2 เท่า
ปัจจัยสำคัญที่มำให้เกิดการไหลกลับของหลอดเลือดนั้นคือ ภาวการณ์ตั้งครรภ์ การมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน และรวมถึงการมีประวัติญาติพี่น้องที่มีอาการดังกล่าวด้วย
นอกจากจะทำให้เกิดอาการปวดบวมบริเวณขาแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อ การอุดตันของหลอดเลือดและการเกิดเลือดออกเฉียบพลันบริเวณดังกล่าวด้วย
ปัจจุบันมีการรักษาหลายวิธี เช่น
1. การฉีดสารเพื่อทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดบริเวณนั้นๆ เช่น Sodium tetradecyl sulfate และ Polidocanol โดยสารดังกล่าวจะทำเส้นเลือดบริเวณที่ฉีดเกิดการแข็งตัวและเกิดพังผืดจนทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดในที่สุด
วิธีนี้เป็นวิธีการรักษามาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น การเกิดรอยดำจากการฉีดยาแผลอักเสบ การอักเสบของหลอดเลือดบริเวณที่ได้รับการฉีดยาการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดดำภายในปอด เนื่องมาจากการฉีดยาในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดแดง ซึ่งอาจทำให้มีอาการปวดปลายเท้าได้
2. การใช้เลเซอร์ Nd:YAG ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีทำให้เส้นเลือดขอดลดลงถึงร้อยละ 75 หลังจากการรักษา 1 ครั้ง มีประสิทธิภาพดีต่อทั้งหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงโดยใช้เป็นการรักษาหลักหรือการรักษาเสริมจากการที่ผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดยามาแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้นก็ได้
3. การผ่าตัดเส้นเลือดขอด เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งมีประสิทธิภาพดี ในผู้ป่วยที่มีลักษณะของเส้นเลือดขอดที่ใหญ่หรือมีภาวะแทรกซ้อนจากเส้นเลือดขอดมาก
ทั้งนี้นอกจากการรักษาดังกล่าวแล้ว การป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดขอดนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องยืนทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ผู้ที่มีน้ำหนักเกินและหญิงตั้งครรภ์ วิธีการป้องกันที่ได้ผลดี เช่น การยกขาบริเวณที่เป็นและการสวมถุงน่อง (Compression stockings) เพื่อให้เลือดได้ไหลเวียนกลับสู่หลอดเลือดดำได้สะดวกขึ้น และลดการไหลย้อนกลับของเลือดลงสู่ส่วนที่ต่ำกว่ารวมถึงการรับประทานอาหารยาต้านการอักเสบ เช่น Ibuprofen และ aspirin ในกรณีเกิดการอักเสบของหลอดเลือด
รพ.วิภาวดี