นับจากปี 2563 ที่เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มตัวทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Disruption) โดยใช้ Automation Technology เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลายเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้การจ้างงานบุคลากรมีความจำเป็นน้อยลง แต่ถึงแม้ AI จะเข้ามาพลิกโฉมอย่างรุนแรงในหลากหลายแง่มุม แต่ก็ยังเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ชนิดแคบ (Narrow AI ที่สามารถทำงานได้ตามโปรแกรมที่พัฒนามาเท่านั้น การสร้าง AI ที่มีสติปัญญาและความสามารถระดับเดียวกันกับมนุษย์ (Human-level AI) ยังเป็นไปได้ยาก
การเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่ยุคที่เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันมากขึ้นแบบคูณสอง (Double Disruption) ภายใน ปี 2025 ได้นั้น คือ การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น (Human Potential และทักษะการจัดการตนเองด้านสุขภาวะ (Self-Management) จนเป็นที่ต้องการขององค์กรในอนาคด ดังนั้น งานพัฒนาคุณภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล ม.มหิดล จึงได้รวบรวม 10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับบุคลากรศิริราช เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ได้แก่
Mindset และควรต้องมีสิงที่เรียกว่า Empathy Skills หรือ ความสามารถในการทำความเข้าใจผู้อื่นด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเราโดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจ ซึ่งจะทำให้ผู้นำเห็นในมุมมองอื่นๆ จนสามารถสร้างทีมที่แข็งแกร่งได้
1. Analytical thinking and innovation ทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะด้านนวัตกรรม กลายเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของอนาคต รวมกับความสามารถในการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากทักษะและกระบวนการคิดจนสามารถสร้างคุณค่า (Value) ได้
2. Active Learning and Learning Strategies ทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเองและเรียนรู้อย่างมีกลยุทธ์ โดยเรียนรู้ผ่านการทดลอง ผ่านการลงมือทำจริงและเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อน้ำมาปรับใช้กับการทำงานอยู่เสมอ คล้ายกับ Growth Hacking
3. Complex Problem-soiving หรือทักษะการแก้ปัญหาที่มีความชับซ้อน จะต้องมีกระบวนการคิดและการตัดสินใจในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างดีเยี่ยม รวดเร็ว
4. Critical Thinking and Analysis หรือทักษะการคิดอย่างมีหลักการ สามารถคิด วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนและมีเหตุผลสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อสรุปผลลัพธ์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีเพื่อนำมาแก้ปัญหาโดยนำข้อมูล และสถิติจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
5. Creativity, Originally and Initiative หรือทักษะการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการริเริ่มสิ่งใหม่ ต้องมุ่งเน้นไปที่การทำน้อยแต่ได้มากและเห็นผลเร็วที่สุด
6. Leadership and Social Influence หรือทักษะการเป็นผู้นำและอิทธิพลต่อสังคม ต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในทีม สร้างการมีส่วนร่วม มองเห็นเป้าหมายร่วมกัน ผลักดันให้ทุกคนในทีมมี Growth
7. Technology use, Monitoring and Control หรือทักษะการเลือกใช้ ดูแล และควบคุมอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี แม้เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าและเข้ามามีบทบาทต่อการทำงาน แต่การควบคุมเทคโนโลยียังคงต้องใช้สมองและฝีมือของ "มนุษย์" ตลอดจนมีความเข้าใจเทคโนโลยีด้านชอฟต์แวร์ เช่น ระบบ AI Big Data ก็จะยิ่งได้เปรียบและทำให้คุณเติบโตในยุคนั้นได้ดี
8. Technology Design and Programming หรือทักษะการออกแบบและโปรแกรมชุดคำสั่งสำหรับเทคโนโลยี การออกแบบโปรแกรมให้ใช้งานง่าย และ User Friendly มากที่สุด เพื่อเป็นเหมือนเครื่องทุ่นแรงในการทำงาน ช่วยลดระยะเวลาของงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ลดแรงงานคนและทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
9. Resilience, Stress tolerance and Flexibility หรือทักษะการเปีดรับต่อความเปลี่ยนแปลง การควบคมอารมณ์ และการพื้นฟูในภาวะวิกฤต ถือว่าเป็นทักษะม้ามืดในเรื่องของการจัดการตัวเองที่ติดอันดับในครั้งนี้ด้วย โดยหัวใจหลักจะเป็นเรื่องของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังต้องมีทักษะ Stress Tolerance หรือความสามารถในการทำงานภายใต้แผนงาน ทรัพยากร และระยะเวลา ที่จำกัดให้สำเร็จ รวมทั้งการควบคุมสภาวะทางอารมณ์เมื่อต้องเผชิญกับภาวะความเครียดจากการทำงานได้อย่างเหมาะสม โดยไม่กระทบกับการทำงานและคนในทีม
10. Reasonins, Problem-solving and Ideation หรือทักษะในการให้น้ำหนักเหตุผล และการระดมความคิด ในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเริ่มจากการทำความเข้าใจสถานการณ์จากข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการรวบรวม จัดระเบียบ หาความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และมีการเริ่มประชุมกับทีม เพื่อระดมความคิดช่วยกันหาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด โดยใช้เหตุผลและข้อมูล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหา
จากลักษณะงานที่เปลี่ยนไป ส่งผลกระทบต่อทักษะของคนทำงานที่ต้องเปลี่ยนไปด้วย การขาดแคลนทักษะที่เหมาะสม กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสามารถขององค์กรในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีด้วย ซึ่งคณะฯ กำหนดแผนยุทธศาสตร์ ในยุทธศาสตร์ที่ 4 พ.ศ. 2563 - 2567 เรื่อง การพัฒนาความเป็นมืออาชีพ (Professionalization) ที่มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ มุ่งสู่อนาคตด้วยผลงานที่เป็นเลิค เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งขององค์กร ซึ่งจะต้องพัฒนาสมรรถนะทั้งด้านความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และคุณลักษณะของบุคลากรอย่างมีหลักการบนพื้นฐานข้อมูล ความรู้เป็นมาตรฐานละมีคุณภาพ ตลอดจน การพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
วารสารศิริราชประชาสัมพันธ์