ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ประชากรเมืองมีลักษณะเฉพาะของตัวเองคือเป็นครอบครัวที่มีขนาดเล็ก หรือคนที่อยู่คนเดียวมีคนกลุ่มหนึ่งที่เลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน มีกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่อาศัยเพียงลำพัง มีคนที่ต้องการอยู่อย่างสงบ พักอยู่ติดกันกับคนที่มีกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ต้องส่งเสียงดัง
มหานครโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีความหนาแน่นสูงมาก ราคาที่ดินมีราคาแพงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอาคารสูงในลักษณะที่อยู่อาศัยรวม สวนสาธารณะจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในฐานะพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สวนสาธารณะโยโยกิ (Yoyogi Park) เป็นตัวอย่างของสวนสาธารณะสำหรับทุกคน เพราะคำว่า “สาธารณะ” หมายถึงสำหรับทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสวนสาธารณะโยโยกิที่มีขนาด 340 ไร่ จึงมีพื้นที่หลายส่วนที่ถูกแบ่งไว้ให้คนแต่ละกลุ่มสามารถใช้งานได้ โดยไม่รบกวนคนกลุ่มอื่นๆ ที่มีความต้องการแตกต่างกันได้
สวนสาธารณะสำหรับคนทุกกลุ่ม
สวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นที่สำหรับคนเมืองครบทุกกลุ่ม กลุ่มคนที่เลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อนก็จะมีส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะแห่งนี้ที่ออกแบบไว้เป็นที่วิ่งเล่นสำหรับสุนัข แถมยังแยกเป็นกรงขนาดใหญ่สองกรงติดกัน กรงหนึ่งสำหรับสุนัขใหญ่และอีกกรงหนึ่งสำหรับสุนัขเล็ก เพื่อที่จะได้เล่นกันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้านหน้าของกรงทั้งสองก็มีที่กดน้ำดื่ม ที่แบ่งเป็นสามระดับความสูงคือความสูงระดับเอวสำหรับผู้ใหญ่ ความสูงระดับหัวเข่าสำหรับเด็ก และความสูงระดับข้อเท้าสำหรับสุนัข มีส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากไว้เป็นที่สำหรับซ้อมดนตรี เช่น เป่าแซ็กโซโฟน ซ้อมทรัมเป็ต ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้คงไม่สามารถไปซ้อมได้ในอพาร์ตเม้นต์โดยไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
อีกส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะ เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมแอคทีฟ เช่น เล่นจานร่อน เล่นอเมริกันฟุตบอลขนาดเล็ก จะมาชุมนุมกันเต้นรำตอนเย็น เล่นดนตรีกันเป็นกลุ่มหรือจะเอางานสำคัญของเมือง ที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ก็ได้เช่นกัน มีพื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้งให้ชมรมต่าง ๆ สามารถมาขอใช้พื้นที่ทำกิจกรรม เช่น การจัดปาร์ตี้ปิกนิก กินบาร์บีคิวกันได้
ส่วนกลุ่มคนที่ต้องการใช้สวนสาธารณะแบบสงบ นอนอ่านหนังสือ เล่นโยคะ หรือนั่งสมาธิ ก็จะมีพื้นที่อีกส่วนหนึ่งที่มีความสงบเงียบไว้สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ และที่ขาดไม่ได้ คือ สนามเด็กเล่นสำหรับเด็กเด็ก ตั้งแต่วัยหัดเดินจนถึงวัยรุ่นตอนต้น ที่ต้องการพื้นที่และเครื่องเล่นตามวัยของพวกเขา
สวนสาธารณะสำหรับทุกคน ไม่ได้มีไว้สำหรับแค่คนที่มีความแข็งแรงสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกเท่านั้น แต่สวนสาธารณะแห่งนี้ยังได้ถูกออกแบบให้คนพิการและคนสูงอายุ สามารถใช้สวนสาธารณะได้อย่างทัดเทียมกับคนอื่น ๆ จึงมีองค์ประกอบสำหรับผู้พิการทางสายตา ด้วยแผ่นปูพื้นและอักษรเบลอยู่ทุกพื้นที่ บันไดทุกบันได จะต้องมีทางลาดสำหรับรถเข็น เพื่อให้ทั้งคนพิการที่ต้องนั่งรถเข็น ผู้สูงอายุที่เดินไม่ไหวแล้ว และรถเข็นเด็ก สามารถเปลี่ยนระดับได้ โดยไม่ต้องใช้บันได
สวนสาธารณะแห่งนี้ จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตคนเมืองทุกกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์ ทุกช่วงอายุ ทุกความต้องการ และทุกข้อจำกัดทางร่างกาย
มองสวนสาธารณะไทย
หันมามองสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ ๆ ของบ้านเราบ้าง ส่วนใหญ่แล้วถูกออกแบบไว้รองรับแต่มนุษย์ที่มีสภาพร่างกายปกติเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น องค์ประกอบต่าง ๆ ที่จะให้คนที่มีข้อจำกัดทางร่างกายเข้าไปใช้ได้กลับมีน้อยมาก บางแห่งไม่มีเลยด้วยซ้ำ
เกือบทุกสวนสาธารณะในบ้านเราไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปวิ่งเล่นกับเจ้าของ ด้วยความกลัวว่าจะขับถ่ายให้สวนสาธารณะสกปรก แต่น่าแปลกที่ยอมให้มีสุนัขและแมวจรจัดอยู่กันได้
กับทุกสวนไม่มีการแบ่งพื้นที่ให้คนแต่ละกลุ่มที่มีข้อจำกัดและความต้องการแตกต่างกัน สามารถใช้พื้นที่สวนโดยไม่รบกวนกับคนกลุ่มอื่นได้อย่างเหมาะสม สวนสาธารณะในบ้านเราจึงไม่ได้เป็นสวนสาธารณะสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
ดร.พนิต ภู่จินดา
บทความนี้เผยแพร่ในเว็บไซต์ Rabbit Today เมื่อปี 2019