นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ (เขาเขียว) ว่า ได้กำหนดให้โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้ จะเป็นศูนย์ความเป็นเลิศ (Excellence Center) 5 ด้าน ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ภาวะวิกฤตเด็กเล็ก อุบัติเหตุ และการปลูกถ่ายอวัยวะ เพิ่มศักยภาพการให้บริการอย่างครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ด้วยหวังว่าจะอำนวยความสะดวก รองรับผู้ป่วยและประชาชน และลดความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปรักษาที่กรุงเทพได้
โรงพยาบาลตั้งเป้ารองรับการบริการ ประชาชน ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 3 ครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และชัยนาท และจังหวัดอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน
ศักยภาพโรงพยาบาลแห่งใหม่
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ปัจจุบัน มีพื้นที่ 14 ไร่ จำนวน 9 อาคาร พื้นที่ใช้งาน 48,000 ตารางเมตร ขนาด 646 เตียง มีห้องผ่าตัด 12 เตียง ไอซียู 46 เตียง และห้องพิเศษ 74 เตียง
ส่วนแห่งใหม่จะมีขนาด 200 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับบริจาคจากกองทัพภาคที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 31 ก่อสร้างอาคารจำนวน 13 หลัง พื้นที่ใช้งานเพิ่มเป็น 111,758 ตารางเมตร จำนวนเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 864 เตียง มีห้องผ่าตัด 23 เตียง ไอซียู 99 เตียง และห้องพิเศษ 133 เตียง รองรับผู้มาใช้บริการได้ราว 3,000 คนต่อวัน บประมาณโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน ก่อสร้างอาคารบริการแล้วเสร็จ 10 หลัง และอาคารที่พักอาศัย 9 หลัง มีกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง ดังนี้
- ช่วงตุลาคม-ธันวาคม 2564 อาคารบริการและที่พักอาศัยแล้วเสร็จ
- ช่วงมกราคม-มีนาคม 2565 อาคารรังสีและผ่าตัดแล้วเสร็จ และมีพยาบาลจบใหม่เข้ามาเพิ่ม 126 คน
- พฤษภาคม 2565 อาคารผู้ป่วย 5 ชั้นแล้วเสร็จ พร้อมปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง อาคารต่าง ๆ แล้วเสร็จภายใน 30 กรกฎาคม 2565
- 30 มิถุนายน 2565 กำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ
- พิธีเปิดในวันที่ 12 สิงหาคม 2565
- 30 กันยายน 2565 กำหนดแล้วเสร็จ อาคารผู้ป่วยพิเศษ 100 ห้อง
นอกจากความพร้อมด้านการให้บริการทางสาธารณสุขแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมด้านวิชาการอีกด้วย โดยจะเป็นสถาบันการเรียนการสอนแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์
ตามข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการจัดการเรียนการสอนร่วมกัน การพัฒนาทักษะด้านปฏิบัติการร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ และศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ในการจัดการเรียนการสอนและจัดประสบการณ์ด้านปฏิบัติการทั้งด้านการตรวจรักษา การผ่าตัด การปฏิบัติการต่างๆในหน่วยบริการจริงของทั้งสองสถาบัน รวมถึงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ความร่วมมือในการแบ่งปัน และใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ชั้นสูง ร่วมกันทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และห้องปฏิบัติการที่มีอยู่ในแต่ละฝ่ายอย่างเต็มประสิทธิภาพ