ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

บุกรวบหมอเถื่อนคาเข็ม จบนิเทศสวมรอยเป็นหมอ ทำมาแล้ว 5 ปี!

บุกรวบหมอเถื่อนคาเข็ม จบนิเทศสวมรอยเป็นหมอ ทำมาแล้ว 5 ปี! Thumb HealthServ.net
บุกรวบหมอเถื่อนคาเข็ม จบนิเทศสวมรอยเป็นหมอ ทำมาแล้ว 5 ปี! ThumbMobile HealthServ.net

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เข้าทำการตรวจสอบ “วีบีจีคลินิก” เลขที่ 471 ซอย อนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปอยู่ และพบ นายพัสกรฯ แสดงตัวเป็นแพทย์ ทำการตรวจรักษา โดยเป็นผู้ผสมตัวยา และกำลังฉีดยาเข้าเส้นเลือดให้ผู้ที่เข้ารับบริการด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัว นายพัสกรฯ และได้ตรวจยึด เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาอื่นที่เป็นความผิด กว่า 26 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

 
โดยเจ้าหน้าที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ได้ตรวจสอบ ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบประกอบกิจการดำเนินสถานพยาบาล สถานพยาบาล พบว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ได้รับรักษาพยาบาลนอกเวลาที่ได้รับอนุญาต และไม่มีแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ให้การรักษา 

ข่าวและภาพจากเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค)
 
 
บุกรวบหมอเถื่อนคาเข็ม จบนิเทศสวมรอยเป็นหมอ ทำมาแล้ว 5 ปี! HealthServ
 โดย นายพัสกรฯ รับว่าตนไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แต่อย่างใด โดยเรียนจบเพียงการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จากนั้นได้เข้าทำงานในคลินิกเสริมความงามในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล เนื่องจากมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดี จึงเริ่มรับงานโดยแอบอ้างตัวเป็นแพทย์เฉพาะทาง รับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อก ร้อยไหม นอกสถานที่ในลักษณะหมอกระเป๋า และรับงานรักษาในคลินิกกรณีคลินิกนัดหมายลูกค้าให้ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี มีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท 

จากข้อมูลการสืบสวน นายพัสกรฯ ได้ทำการให้บริการเสริมความงามให้ผู้รับบริการคลินิคดังกล่าวกว่า 120 ราย และให้บริการรับฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากด้วย ซึ่งแพทย์โดยทั่วไปไม่รับฉีดบริเวณดังกล่าวเนื่องบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีความอันตรายสูง เพราะมีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังจอประสาทตา และสมอง หากแพทย์ที่ทำการฉีดไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้อาจเกิดผลกระทบโดยตรงถึงขั้นตาบอดได้

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด