1 พฤษภาคม 2566 นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบดูแลสุขภาพสำหรับเจ้าหน้าที่และคนไทยในต่างประเทศ ครั้งที่ 1/2566 โดยมี ร้อยโท พรหเมศ พหลพลพยุหเสนา เอกอัครราชทูตประจํากระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ผู้แทนกรมในสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศ มีนโยบายในการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพคนไทยในต่างประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในต่างประเทศประมาณ 1,500,000 คน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่ละปีมากกว่า 10 ล้านคน ประกอบกับมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เช่น แผ่นดินไหวในประเทศตรุกี เหตุการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดาน และการเกิดโรคระบาด ซึ่งที่ผ่านมาจะมีระบบดูแลสุขภาพโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต กรมควบคุมโรค กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กองบริหารการสาธารณสุข แต่ยังพบว่ายังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข เช่น การเข้าถึงการรักษาพยาบาล การส่งตัวกลับประเทศเพื่อเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงต่างประเทศจึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาความร่วมมือในการดูแลสุขภาพคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดแนวทางการดำเนินงานที่ช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในการประชุมในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศ มาร่วมวางแผนการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพคนไทยในต่างประเทศให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ การดูแลรักษา ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน และการส่งต่อ เพื่อนำไปสู่การจัดทำ “บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการดูแลสุขภาพข้าราชการและบุคลากรของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลในต่างประเทศ รวมถึงคนไทยในต่างประเทศ” กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และบุคลากร สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ประจำในสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 2,000 คน, คนไทยในต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยจะนำร่องในกลุ่มข้าราชการและบุคลากร เพื่อพัฒนาระบบและเป็นจุดประสานงาน เพื่อขยายผลในกลุ่มเป้าหมายพี่น้องประชาชนในต่างประเทศต่อไป