11 เมษายน 2566 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการ
เป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาทางวิชาการผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ร่วมกับ มูลนิธิทันต
นวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า สุขภาพช่องปากที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดี และส่งผลไปยังคุณภาพชีวิต
ที่ผ่านมากรมอนามัย นอกจากจะส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ และมีทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองแล้ว การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพช่องปากที่ดี รวมถึงการจัดให้มีผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ และนวัตกรรม เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากที่หลากหลาย เหมาะสมกับสภาพช่องปากของประชาชนแต่ละคน เข้าถึงได้ง่าย และผลิตภายในประเทศ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ภาครัฐควรส่งเสริมและผลักดันให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ กรมอนามัยพร้อมสนับสนุนการกระจายผลิตภัณฑ์จากการวิจัย พัฒนาและผลิตขึ้นในประเทศ ผ่านเครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข
ทางด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ประธานคณะกรรมการบริหาร
มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิทันตนวัตกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศ เพื่อสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความว่า “ทันตแพทย์ไม่ควรสนใจแต่การรักษาเพียงอย่างเดียว ควรสนใจเรื่องการศึกษาวิจัยและประดิษฐ์สิ่งของขึ้นใช้เองภายในประเทศ” ซึ่งเป็นที่มาของมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์และเป็นที่ทราบกันว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสนพระทัยเรื่องหญ้าแฝก และได้มีพระราชดำรัสกับทีมทันตแพทย์ประจำพระองค์ว่า “หญ้าแฝกสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ทันตแพทย์ลองไปคิดดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง แล้วมาเล่าให้เราฟัง”
มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายศึกษาประสิทธิผลของหญ้าแฝกเพื่อนำมาใช้กับงานทันตกรรม หญ้าแฝกสามารถนำไปพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากได้ง่าย ในราคาที่เหมาะสม
ทางด้าน นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเพิ่มเติมด้านความพร้อมทางวิชาการของมูลนิธิทันตนวัตกรรม ที่ดำเนินการร่วมกับกรมอนามัยในการพัฒนาและกระจายผลิตภัณฑ์สู่ประชาชน ว่า น้ำยาบ้วนปากผสมสารสกัดจากหญ้าแฝก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มูลนิธิทันตนวัตกรรม ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัฒนาวิธีการสกัดสารจากหญ้าแฝก โดยผ่านการศึกษา วิจัย และพัฒนาเป็นระยะเวลา 3 ปี จนได้สูตรต้นแบบผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก โดยหญ้าแฝก ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ กระบวนการปลูก และอายุการเก็บเกี่ยว แล้วจึงนำสารสกัดที่ได้ไปเป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำยาบ้วนปากสูตรต้นแบบนี้
“ทั้งนี้ หลังจากผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบคุณภาพในด้านต่างๆ จึงดำเนินการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
ในโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน ISO 22716 รวมทั้ง GMP cosmetic และได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ภายใต้ชื่อ ผลิตภัณฑ์ ดีไอเอฟ ดอยตุง เวติเวอร์ รีเฟรชชิ่ง เมาท์วอช ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ มีคุณภาพและสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์พร้อมส่งผ่านเครือข่ายของกรมอนามัยสู่ประชาชน” เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับน้ำยาบ้วนปากผสม
สารสกัดหญ้าแฝก ที่กรมอนามัยได้รับมา จำนวน 9,000 ขวด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คุณภาพถึงมือประชาชน กรมอนามัยจะดำเนินการกระจายน้ำยาบ้วนปาก ผสมสารสกัดหญ้าแฝก ผ่านศูนย์อนามัยใน 13 เขตสุขภาพ ไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ ในชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ รวมถึงผู้สูงอายุซึ่งมารับบริการที่หน่วยบริการในสังกัดของกรมอนามัยต่อไป