ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ส่องนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย

ส่องนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย Thumb HealthServ.net
ส่องนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย ThumbMobile HealthServ.net

นโยบายด้านสุขภาพ ที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย คือนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยไฮไลท์ว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว อนาคตสาธารณสุขไทย คือการยกระดับโครงสร้างทั้งระบบ ให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม สำรวจเพิ่มเติมว่า พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายอย่างไรในการเลือกตั้ง 2566 ครั้งนี้ และโอกาสที่จะผลักดันต่อหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง

นโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย


ได้แก่ 


บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนานๆ ตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน เจอหมออีกวันได้เลย

รักษาและจ่ายยาออนไลน์ ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
 
ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV  ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าครึ่งป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
 
Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine

นัดหมอจากบ้าน นัดคิวออนไลน์ เลือกเวลาพบแพทย์ล่วงหน้าได้ ไม่ต้องเสียเวลารอทั้งวันที่โรงพยาบาลอีกต่อไป
 
ตรวจเลือดใกล้บ้าน เจาะเลือด ตรวจแล็บจากคลินิกใกล้บ้าน แล้วรับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันถัดไป
 
เลือกหมอเลือกโรงพยาบาลได้เอง เพราะประวัติการรักษา ถูกเก็บในคลาวด์ ข้อมูลไม่รั่วไหล รักษาได้ทุกโรงพยาบาล ส่งต่อ หรือเปลี่ยนหมอได้ทันที
 
ลดขั้นตอน ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยระบบที่ช่วยจัดตารางงานบุคลากรอย่างชัดเจน ประชาชนไม่ต้องรอนาน แพทย์พยาบาลไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม
 
กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลประจำเขตครบทั้ง 50 เขต เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาด 120 เตียงขึ้นไปประจำทุกเขต
 
ส่งเสริมให้มีสถานชีวาภิบาล ไร้กังวลสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ร่วมมือทั้งภาครัฐ และ เอกชน สนับสนุนงบประมาณโดย สปสช.




 
 
ส่องนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย HealthServ

นโยบายต้านยาเสพติด

 
HIGHLIGHT
“ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย” “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” 
 
 
 
ยาเสพติดกับเพื่อไทยอยู่ร่วมกันไม่ได้ 
“ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย” อย่างเต็มรูปแบบรวมไปถึงการ “ยึดทรัพย์” ของผู้ผลิตและผู้ขาย
เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อเข้าจัดการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างถาวร 
เร่งพัฒนาเศรษฐกิจแนวชายแดน สร้างงาน สร้างเงิน สร้างรายได้ สร้างทางเลือกให้ประชาชน เพื่อดึงคนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร  
“เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” บำบัดผู้ติดยาเสพติดอย่างทั่วถึง นำการบำบัดทางจิตวิทยาที่ทันสมัยมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการกลับไปใช้ยาเสพติดอีกครั้ง  ทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นผู้สร้างโอกาส สร้างรายได้แก่ครอบครัวอย่างมั่นคง คืนชีวิตพี่น้องลูกหลานกลับคืนสู่ครอบครัว
 
 
 
 

นโยบายสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศ

 
HIGHLIGHT
สร้างความเสมอภาคในสังคม แก้กฎหมายให้ทุกคนได้เข้าถึงสิทธิทางกฎหมายและสวัสดิการรัฐอย่างเท่าเทียม
 
นโยบายสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศ
สร้างความเสมอภาคในสังคม แก้กฎหมายให้ทุกคนได้เข้าถึงสิทธิทางกฎหมายและสวัสดิการรัฐอย่างเท่าเทียม ไม่มีใครต้องถูกกีดกันจากเงื่อนไขทางเพศสภาพและเพศวิถี เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ สิทธิลดหย่อนภาษี สิทธิในการหมั้น การอุ้มบุญ การขอสัญชาติ
 
 
 
 
นโยบายเพื่อคนไทยไม่ไร้สัญชาติ 
14 พฤษภาที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอใช้สิทธิเลือกตั้ง มีคนกลุ่มหนึ่งที่แม้จะเกิดและเติบโตในประเทศไทยมาทั้งชีวิตกลับไม่ได้รับสิทธิเดียวกัน นั่นคือคนไทยไร้สิทธิที่เข้าไม่ถึงสถานะทางทะเบียน หรือที่ไม่มีบัตรประชาชน
 
ข้อมูลจากสำนักทะเบียนกลางปี 2565 ระบุว่าทั่วประเทศมีราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทยเกือบหนึ่งล้านคน หรือคิดเป็น 1.49% ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์เป็นหนึ่งในกลุ่มหลัก
 
ภายใต้ความเป็นไทยที่เราคุ้นเคยกันนี้ แท้จริงแล้วประเทศไทยมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ถึงกว่า 50 กลุ่ม ซึ่งจำนวนหนึ่งที่แม้จะอยู่ในแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด หรือมีบรรพบุรุษอยู่ในเขตแดนไทยมาหลายต่อหลายรุ่น แต่ทุกวันนี้กลับยังไม่ได้รับสัญชาติไทย
 
หากมองลงละเอียดที่ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย และเชียงใหม่มีคนที่ไม่ได้สัญชาติมากถึง 286,786 คน (15.6%) 132,515 คน (10.02%) และ 161,567 คน (9.01%) ตามลำดับ ติด 3 ใน 5 จังหวัดที่มีคนไม่ได้สัญชาติไทยมากที่สุดในประเทศ
 
เพราะพรรคเพื่อไทยตระหนักดีว่าเรื่องสัญชาติคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเร่งพัฒนาระบบการให้สัญชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และคนไทยไร้สิทธิต้องได้รับสิทธิความเป็นพลเมือง และต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม
 
ทั้งนี้การไม่ได้รับสัญชาติทำให้ถูกจำกัดสิทธิ และอาจถูกเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา สิทธิในการรักษาพยาบาล สิทธิในการเข้าถึงทรัพยากรอย่างการมีที่ทำกิน สิทธิในการประกอบอาชีพ ผลที่ตามมาจึงเป็นการเข้าสู่วงเวียนของความยากจนเชิงโครงสร้างและขาดโอกาสในชีวิตอย่างไม่จบสิ้น ยังไม่รวมถึงนโยบายช่วยเหลือจากรัฐเมื่อเกิดภัยพิบัติ อย่างเช่น ภัยธรรมชาติ หรือ โควิด-19 ที่คนกลุ่มนี้ก็เข้าไม่ถึงเช่นกัน
 
ที่ผ่านมา เพื่อไทยทำเป็น เพื่อไทยได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับสิทธิของบุคคลมาตลอด โดยเพื่อไทยเป็นส่วนหนึ่งในการให้การรับรองสิทธิบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย เช่น  ในปี 2548 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมติ ครม.ให้สิทธิทางการศึกษาในระบบสำหรับบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย และมีการอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวเท่ากับผู้มีสัญชาติไทย และในปี 2553 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ให้สิทธิประชาชนที่อยู่ระหว่างกระบวนการได้รับสัญชาติไทยให้เข้าถึงหลักประกันสุขภาพได้ 
 
วันนี้เพื่อไทยคิดใหญ่ พร้อมที่จะยกระดับสถานะทางทะเบียนไปอีกขั้น เพื่อให้พี่น้องชาติพันธุ์และคนไทยไร้สิทธิทุกคนได้รับสัญชาติและได้สิทธิที่พึงมี ซึ่งประโยชน์ไม่เพียงแค่ตกอยู่กับกลุ่มชาติพันธุ์เท่านั้น ด้านประเทศเองก็จะขับเคลื่อนด้วยประชากรที่มีความพร้อม เต็มไปด้วยโอกาส และเป็นสังคมที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
 
 
 
 

นโยบายสิทธิสตรี

 
HIGHLIGHT
"การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดัวยเทคโนโลยี" เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทักษะ
 
"กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" คือหนึ่งในความสำเร็จของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีกรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน, การพัฒนาทักษะอาชีพ, และการดูแล ปกป้องสิทธิสตรี, ผู้ด้อยโอกาส, ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อดูแลประชากรหญิงครอบคลุมทุกมิติ
 
 
 
ปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงยังเป็นปัญหา จากข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงมีจำนวนเพียง 30 % และมีถึง 70% ที่ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในภาคค้าปลีกซึ่งเติบโตน้อย กำไรน้อย และยังขาดเทคโนโลยี 
 
 
 
พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายต่อยอดความสำเร็จของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุน ฯ โดยเทคโนโลยีจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดการสร้างคน สร้างเครือข่าย เชื่อมตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงนวัตกรรม และเพิ่มการปกป้องสิทธิ์ต่างๆ เพื่อผู้หญิงทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิ
 
 
 
"การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน" 
 
 
เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV ให้แก่ผู้หญิงทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
 
ส่องนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทย HealthServ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด