ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพ รวมโปรแกรมสุขภาพ บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิดบริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event Health Economy ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

กัญชาไทย ได้ไปต่อ หลังนายกฯ สั่งดัน พ.ร.บ. แทนดึงกลับเป็นยาเสพติด

กัญชาไทย ได้ไปต่อ หลังนายกฯ สั่งดัน พ.ร.บ. แทนดึงกลับเป็นยาเสพติด Thumb HealthServ.net
กัญชาไทย ได้ไปต่อ หลังนายกฯ สั่งดัน พ.ร.บ. แทนดึงกลับเป็นยาเสพติด ThumbMobile HealthServ.net

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงนโยบายการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า เรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้ว โดยจะออก ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แทนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด หลังนายกรัฐมนตรีเรียกหารือกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายกสั่งยุตินำกลับเป็นยาเสพติด ออกพ.ร.บ.กัญชา กัญชง 

 
           23 กรกฎาคม 2567  ก่อนประชุม ครม.  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  เรียกพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ในประเด็นปมปัญหาการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด  โดยมีข้อสรุปว่า  นายกฯ สั่งให้ยุติการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และให้ดำเนินการผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เพื่อนำออกมาใช้ควบคุมแทน 

           นายอนุทิน กล่าวหลังการหารือว่า  เรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้ว โดยจะออก ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แทนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด  และเน้นว่า การผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ จะสำเร็จ ไม่พลาดเหมือนรัฐบาลที่แล้ว ด้วยเหตุผลว่า "นี่เป็นบัญชาของนายกรัฐมนตรี"

         "ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในการออก พ.ร.บ. จึงต้องหาแนวทางในการออกกฎหมาย ซึ่งจะลบล้างเรื่องการนำกัญชงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด" 





 
           นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ส่งร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไปแล้ว  ต่อไปคือ ต้องรอผลประชุมบอร์ด ป.ป.ส. 


         นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีการประชุมบอร์ด ป.ป.ส. ว่า   "การออก พ.ร.บ. คือการไม่ใช้ช่องทางของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) แล้ว"  



          นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต นักวิชาการด้านกัญชาคนสำคัญ  ระบุผ่านเพจส่วนตัว ในวันเดียวกัน ว่า  "การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป"  แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง

 

 


 
 

กฎหมายรอการรับรอง 3 ฉบับ เพื่อเข้าสู่สภา

ปัจจุบันมีกฎหมายที่ “รอการรับรอง” จากนายกรัฐมนตรี อยู่ที่สำนักงานของนายกรัฐมนตรี 3 ฉบับ 

         ฉบับแรก คือการเข้าชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย เพื่อเสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง ที่คัดลอกมากจาการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯในสมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนหน้า 

         ฉบับที่สอง คือการเข้าชื่อของประชาชนในนามเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ซึ่งได้เข้าชื่อประชาชนครบจำนวนเสนอกฎหมายกัญชา กัญชงต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

         ฉบับที่สาม คือการเข้าชื่อของประชาชนในนามเครือข่ายกัญชา กัญชง ม่าง (ภาคประชาชน) ซึ่งได้เข้าชื่อประชาชนครบจำนวนเสนอกฎหมายกัญชา กัญชง ม่างต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

       เนื่องด้วยกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ เป็นกฎหมายทางการเงิน จึงต้องได้รับการรับรองจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน หลังจากนั้นจึงสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป  [ปานเทพ]

ผลสำรวจความเห็น ยาเสพติดกับสังคมไทย สวนดุสิตโพล

 ผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ยาเสพติดกับสังคมไทย” สวนดุสิตโพลชี้ให้เห็นข้อกังวลและความต้องการของประชาชนหลายด้าน เช่น สาเหตุที่คนหันไปพึ่งยาเสพติดเพราะซื้อขายได้ง่ายขึ้น การจัดการปัญหายาเสพติดปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพ อยากให้รัฐบาลเพิ่มบทลงโทษและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เป็นต้น [ผลสำรวจ และบทวเคราะห์]

ท่าทีฝ่ายต่างๆ

    ทันทีที่ข่าวการสั่งดำเนินการยุติการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด และผลักดันพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ของนายกฯ ได้เป็นที่รับรู้ ฝ่ายต่างๆ มีการเคลื่อนไหวในทิศทางของตนทันที 



    แถลงการณ์เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย

   เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยออกแถลงการณ์ 3 ประการสำคัญ หลังคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้มีการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา
  1. เมื่อสถานะกัญชาถูกกำหนดว่าให้ควบคุมโดยกฎหมายเฉพาะในระดับพระราชบัญญัติโดยไม่กลับไปเป็นยาเสพติดอีก หัวใจสำคัญนับจากนี้คือการสร้างกฎหมายแม่บทการควบคุมกัญชาเชิงระบบในประเทศไทย จึงขอให้ชาวกัญชาและประชาชนโปรดติดตามกระบวนการเดินหน้าจัดทำ พ.ร.บ.กัญชานับตั้งแต่นี้เพราะกฎหมายฉบับนี้จะมีความสำคัญในการกำหนดโครงสร้างเชิงระบบเกี่ยวกับการควบคุมกัญชาในประเทศไทย
  2. เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยยังคงขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการจนกว่าพระราชบัญญัติกัญชาจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและบังคับใช้
  3. ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายที่เห็นแก่ข้อเท็จจริงรอบด้านสั่งให้การควบคุมกัญชากระทำโดยการใช้กฎหมายพระราชบัญญัติ อีกทั้งขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่ยืนหยัดปกป้องนโยบายกัญชาเพื่อให้การควบคุมกัญชาเป็นไปภายใต้กฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา
   ความสำเร็จคราวนี้ย่อมเกิดขึ้นจากจิ๊กซอทุกตัวที่เชื่อมต่อกันจนเป็นพลัง ทั้งที่แสดงตนและไม่แสดงตน ทั้งภาควิชาการ ภาคการเมือง ภาคประชาชน ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจร่วมกันในการกำหนดนโยบายกัญชาที่ถูกต้องให้กับประเทศไทย  


          ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่า มหาวิทยาลัยรังสิต ขอสนับสนุนแนวทางดังกล่าวพร้อมเปิดเวทีให้ภาคประชาชนในการระดมรวบรวมหลักฐานในข้อเท็จจริง และร่วมงานวิชาการเพื่อทำให้ความจริงปรากฏต่อสังคมไทย  และพร้อมจะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อนำความจริงไปสู่การกำหนดนโยบายกัญชาและช่วยชี้นำหนทางที่ถูกต้องต่อไปในสังคมไทย

 
 
 

เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด เสนอนโยบายใหม่ ถึงนายกฯ เป็นนโยบายทางสายกลาง

        25 กรกฎาคม 2567  เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด ลงชื่อรวม 59 คน ออกแถลงการณ์ “บทวิเคราะห์การดำเนินนโยบายกัญชาของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง”  ระบุว่า
 
        เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยต้องทำเพื่อประชาชน  ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ออกเป็น พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เพื่อยุติความขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่นำกลับไปขึ้นบัญชียาเสพติดแล้ว
 
        นโยบายครั้งแรก (เดือน พฤษภาคม) คือ การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดทันที เพื่อให้ใช้กัญชาเฉพาะประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ไม่ให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ โดยไม่ได้มีนโยบายให้ทำกฎหมายกัญชา  
 
        ส่วนนโยบายครั้งที่สอง (เดือนกรกฎาคม) คือ การคงให้สามารถใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ (เนื่องจากกัญชาไม่เป็นยาเสพติด) ในขณะที่รอทำกฎหมายกัญชา  นโยบายสองครั้งนี้จึงมีลักษณะตรงกันข้ามทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากนโยบายแรกนั้น พรรคเพื่อไทยทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ที่เห็นว่าควรนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่ขัดกับนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่มีนโยบายปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด   ส่วนนโยบายครั้งที่สองจะสอดคล้องกับความต้องการของพรรคภูมิใจไทย แต่ขัดกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
 
        เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ขอเสนอนโยบายใหม่ เป็นนโยบายทางสายกลาง คือ “เริ่มทำกฎหมายกัญชาโดยเร็วทันที หลังนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดติด”  พร้อมเหตุผล ดังนี้
 
  1. เพื่อหยุดยั้ง “กัญชาเพื่อสันทนาการ” ทันที แต่สามารถใช้ “กัญชาเพื่อการแพทย์” ได้ ขณะกำลังเร่งทำกฎหมายกัญชา
  2. เพื่อการลดความขัดแย้งอย่างแท้จริง คือ ไม่ขัดแย้งกับพรรคภูมิใจไทยเพราะมีนโยบายให้ทำกฎหมายกัญชา และไม่ขัดแย้งกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ เพราะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดทันที 
  3. เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ว่าผู้บริหารสูงสุดของประเทศมอบนโยบายกัญชาที่มีลักษณะตรงกันข้ามภายในเวลาเพียงสองเดือน
  4. เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ว่านายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยเลือกที่จะไม่ขัดแย้งกับพรรคภูมิใจไทย โดยเลือกนโยบายที่จะขัดแย้งกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ของประเทศแทน
  5. เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ว่านายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยผูกติดกับผลกระทบด้านลบของการปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในสังคมแล้วในขณะนี้และจะมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต เช่นเดียวกันกับภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองอื่นก่อนหน้านี้
 
        เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ขอเสนอให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการเห็นสังคมและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับกัญชาเพื่อสันทนาการในประเทศไทย ร่วมติดตาม รู้เท่าทัน และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกำหนดนโยบายกัญชาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม มากกว่าประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล  และทำทุกวิถีทางทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่จะไม่ให้เกิดสภาพการตัดสินใจนโยบายกัญชาในลักษณะเช่นนี้ 
 
        รายชื่อ 59 เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด [Hfocus]
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด