ข้อมูลบริการสุขภาพ

 

       

 

        “ฉันส่งข้อความถึงคนทั่วโลกให้ยึดมั่นในหลักการโอลิมปิกและกฎบัตรโอลิมปิก งดการกลั่นแกล้งนักกีฬาทุกคน เพราะสิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง” เคลิฟกล่าวเป็นภาษาอาหรับ “มันสามารถทำลายผู้คน มันสามารถฆ่าความคิด จิตวิญญาณ และจิตใจของผู้คน มันสามารถแบ่งแยกผู้คนได้ และเพราะเหตุนี้ ฉันจึงขอให้พวกเขางดการกลั่นแกล้ง”

 

        ชัยชนะของเคลิฟและหลิน ยู่ติง (Lin Yu-ting) นักมวยชาวไต้หวันในสังเวียนที่ปารีส กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอลิมปิกปารีส ขณะนี้ทั้งคู่สามารถคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญแรกได้สำเร็จแล้ว  ท่ามกลางการล่วงละเมิดทางออนไลน์ (online abuse) บนข้ออ้างที่ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศของพวกเธอ  กลายเป็นความแตกแยกเกี่ยวกับทัศนคติด้านอัตลักษณ์ทางเพศและกฎระเบียบในการกีฬา

 

        เคลิฟ วัย 25 ปี ยอมรับว่าเธอรู้สึกกดดันและเจ็บปวดที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์นี้ในขณะที่แข่งขันที่ห่างไกลจากบ้านในรายการที่สำคัญที่สุดในอาชีพนักกีฬาของเธอ

 

        เธอกล่าวว่า “ฉันติดต่อกับครอบครัวสัปดาห์ละสองวัน ฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง” “พวกเขาเป็นห่วงฉัน หากพระเจ้าประสงค์ วิกฤตครั้งนี้จะจบลงด้วยเหรียญทอง และนั่นจะเป็นการตอบสนองที่ดีที่สุด”

 

 

 

        ความเกลียดชังดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการอ้างสิทธิ์ของสมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) ที่ระบุว่า ทั้งเคลิฟและหลินไม่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติ สำหรับการแข่งขันประเภทหญิงในรายการชิงแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว  ทั้งนี้ IBA นั้นถูกแบนถาวรจากโอลิมปิก

 

 

        เคลิฟปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เมื่อถูกถามว่าเธอได้เข้ารับการทดสอบอื่น ๆ นอกเหนือจากการตรวจสารกระตุ้นหรือไม่ โดยบอกว่าเธอไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้

 

        เธอแสดงความขอบคุณต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากลและประธาน โทมัส บาค ที่ยืนหยัดเคียงข้างเธออย่างแน่วแน่ ขณะที่อดีตคณะกรรมการโอลิมปิกที่ถูกสั่งห้ามจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โกรธที่เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันที่กรุงปารีส

 

        “ฉันรู้ว่าคณะกรรมการโอลิมปิกได้ให้ความยุติธรรมกับฉัน และฉันมีความสุขกับแนวทางแก้ไขนี้ เพราะมันแสดงให้เห็นความจริง” เธอกล่าว

 

        เธอยังได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามในการแข่งขันของเธอ โดยได้รับเสียงเชียร์เมื่อเธอเข้าสู่สนาม และฝูงชนโบกธงชาติแอลจีเรียพร้อมตะโกนเรียกชื่อเธอ เธอจะขึ้นชกอีกครั้งในวันอังคารนี้ ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศประเภทหญิงน้ำหนัก 66 กิโลกรัม ที่สนามโรล็องด์ การ์รอส

 

        เคลิฟย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอจะไม่ยอมให้เสียงพูดคุยหรือคำกล่าวหามาขัดขวางเธอจากการพยายามคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกให้กับแอลจีเรียในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิง

 

        “ฉันไม่สนความคิดคนอื่น”  เคลิฟกล่าวหลังเอาชนะแอนนา ลูก้า ฮาโมรีจากฮังการี  “ฉันมาที่นี่เพื่อเหรียญรางวัล และเพื่อแข่งขันชิงเหรียญรางวัล ฉันจะแข่งขันเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และพระเจ้าประสงค์ ฉันจะพัฒนาตัวเองเหมือนนักกีฬาคนอื่นๆ”

 

        แม้ว่าเธอจะรับรู้ถึงการพูดคุยทั่วโลกเกี่ยวกับเธอ แต่ เคลิฟ บอกว่าเธอถูกลบออกไปบ้างแล้ว

 

        “พูดตามตรง ฉันไม่ได้ติดตามโซเชียลมีเดีย” เธอกล่าว “มีทีมสุขภาพจิตที่ไม่อนุญาตให้เราติดตามโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในโอลิมปิก ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือนักกีฬาคนอื่นๆ ฉันมาที่นี่เพื่อแข่งขันและได้ผลลัพธ์ที่ดี”

 

 

 

 

        เคลิฟ เริ่มการแข่งขันโอลิมปิกของเธอด้วยชัยชนะเหนือ แองเจล่า คารินี (Angela Carini)  นักมวยหญิงจากอิตาลี ที่ขอยกเลิกแข่งขันหลังจากผ่านไปเพียง 46 วินาที ซึ่งภายหลัง คารินี กล่าวว่าเธอเสียใจกับการตัดสินใจของเธอและต้องการขอโทษ  เคลิฟ

 

        ตอนจบที่ไม่ปกติดังกล่าวทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับเคลิฟ กลายเป็นประเด็นร้อน ขนาดที่คนดังหลายคนยังร่วมให้ความเห็นต่อกรณีนี้ เช่น จากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เจ.เค. โรว์ลิ่ง นักเขียนเรื่อง “Harry Potter” และคนอื่นๆ  ที่กล่าวเท็จว่า เคลิฟ เป็นผู้ชายหรือคนข้ามเพศ

 

        IOC ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอและหลินผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก และยังวิพากษ์วิจารณ์มาตรฐานการทดสอบที่ไม่ชัดเจนและการกำกับดูแลที่ไม่โปร่งใสของ IBA ซึ่งถูกแบนออกจากการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการลงโทษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับหน่วยงานกำกับดูแล

 

 

 

        เห็นได้ชัดว่า เคลิฟ รู้สึกถึงความกดดันจากการตรวจสอบจากทั่วโลกที่มีต่อเธอ และชัยชนะของเธอเหนือ Hamori ในวันเสาร์ (3 สิงหาคม 2024)  นั้นดูเหมือนจะเป็นการชำระล้างจิตใจ หลังจากที่กรรมการยกมือของเคลิฟ ด้วยชัยชนะ เธอก็เดินไปที่กลางเวที โบกมือให้แฟนๆ คุกเข่าและตบฝ่ามือลงบนผืนผ้าใบ รอยยิ้มของเธอเปลี่ยนเป็นน้ำตา

 

        “ฉันไม่สามารถควบคุมความกังวลของตัวเองได้” เคลิฟ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ “เพราะหลังจากที่สื่อโห่ร้อง และหลังคว้าชัยชนะ  มีความรู้สึกทั้งดีทั้งแย่ปนเปกันไป  พูดตามตรง มันไม่ง่ายที่จะผ่านไปได้  มันเป็นอะไรที่ทำลายศักดิ์ศรีของมนุษย์”

 

 

 

 

        เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันของ IBA เป็นเวลาหลายปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ จนกระทั่งเธอถูกระงับการแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างกะทันหันเมื่อปีที่แล้ว องค์กร IBA ที่รัสเซียครองอำนาจอยู่ขัดแย้งกับ IOC มานานหลายปี  ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว

 

        สหพันธ์มวยแห่งชาติของแอลจีเรียยังคงเป็นสมาชิกของ IBA

 

        เคลิฟมาจากชนบททางตะวันตกเฉียงเหนือของแอลจีเรีย และเธอเติบโตมากับการเล่นฟุตบอลจนกระทั่งเธอตกหลุมรักมวย เธอเอาชนะการคัดค้านของพ่อในตอนแรกได้และเดินทางด้วยรถบัสเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร (ประมาณ 6 ไมล์) เพื่อฝึกซ้อมชกมวยในเมืองใกล้เคียง

 

        หลังจากขึ้นถึงระดับสูงสุดของกีฬานี้เมื่ออายุใกล้ 30 ปี เธอต้องดิ้นรนในช่วงต้นอาชีพก่อนที่จะถึงระดับสูงสุด เคลิฟมุ่งมั่น แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติถึง 6 ปี เธอแพ้ให้กับเคลลี แฮริงตัน จากไอร์แลนด์ ที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกที่โตเกียว

 

        ไฟต์ต่อไปของเคลิฟในปารีสคือกับ จันแจ่ม สุวรรณเพ็ง จากประเทศไทย หากเคลิฟชนะอีกครั้ง เธอจะเข้าชิงเหรียญทองในวันศุกร์ (9 สิงหาคม 2024)

 

        “ใช่แล้ว ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีและเกียรติยศของผู้หญิงทุกคน” เธอกล่าวกับผู้ประกาศข่าวแอลจีเรียในคำกล่าวสั้นๆ เมื่อวันอาทิตย์หลังจากเอาชนะฮาโมริได้ “คนอาหรับรู้จักฉันมาหลายปีแล้ว และเคยเห็นฉันชกมวยใน IBA ซึ่งทำผิดต่อฉัน (และ) ปฏิบัติต่อฉันอย่างไม่ยุติธรรม แต่พระเจ้าอยู่เคียงข้างฉัน”