ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ครม.เห็นชอบไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส

ครม.เห็นชอบไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส Thumb HealthServ.net
ครม.เห็นชอบไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส ThumbMobile HealthServ.net

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ครม.มีมติเห็นชอบให้ไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จากแอสตราเซนเนกาจำนวน 26 ล้านโดส เพื่อให้คนไทย 13 ล้านคนเข้าถึงวัคซีนเป็นประเทศแรกๆ หลังวัคซีนสำเร็จ พร้อมขอทุกคนยังสวมหน้ากาก เพื่อเป็นวัคซีนป้องกันโรคก่อนที่จะได้วัคซีนมาฉีด หลังพบคนเริ่มการ์ดตก ใส่หน้ากากลดลงจาก 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เหลือ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์

      วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2563 ) ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรณรงค์ให้ประชาชนยกการ์ดสวมหน้ากากป้องกันโรคโควิด 19 ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติอนุมัติให้ประเทศไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จากบริษัทแอสตราเซนเนกา ที่ประเทศไทยมีความร่วมมือในการพัฒนา จำนวน 26 ล้านโดส วงเงิน 6,049,723,117 บาท ครอบคลุมคนไทยร้อยละ 20 ของประชากร หรือ 13 ล้านคน ทำให้คนไทยมั่นใจอีกระดับว่า หากวัคซีนดังกล่าวสำเร็จคนไทยจะมีวัคซีนใช้ทันทีและจะเป็นประเทศลำดับแรกๆ ที่เข้าถึงวัคซีน เนื่องจากหากไม่รีบจองซื้อ พอถึงวันที่วัคซีนสำเร็จก็อาจไม่ได้มาหรืออาจต้องจ่ายในราคาต้นทุนถึงโดสละ 20 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ การจองซื้อจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาด้วย เพื่อให้ผลิตได้เองภายในประเทศ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่งและความเสียหาย ที่สำคัญวัคซีนที่สำเร็จต้องผ่านกระบวนการรับรองต่างๆ มีความปลอดภัยสำหรับผู้รับวัคซีน
 
 
     นายอนุทินกล่าวอีกว่า ประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ เกิดจากความร่วมมือของประชาชน ซึ่งหากช่วงที่มีการระบาดแล้วคนไทยไม่ร่วมกันใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง คงเกิดการติดเชื้อมากกว่ายอดปัจจุบันที่มี 3,700 กว่าราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คนไทยเริ่มใส่หน้ากากลดลงจาก 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 50 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการสวมหน้ากากมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ประเทศไทยไม่เกิดการติดเชื้อ ไม่มี Super Spreader เกิดขึ้น และเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก กรมอนามัยจึงต้องจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นให้คนกลับมาสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างให้ใกล้เคียงอัตราเดิม เนื่องจากประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากการที่ประเทศต่างๆ ยังมีการติดเชื้อสูง 
 
 
      "การใส่หน้ากากถือเป็นวัคซีนที่ดีที่สุดในวันที่วัคซีนโควิด 19 ยังไม่มา และช่วยประเทศชาติอย่างมหาศาล เพราะค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยก็ประมาณเกือบล้านบาทต่อคน ขอให้คนไทยร่วมกันเป็นมือเป็นไม้ ช่วยกันสื่อสารให้คนรอบตัว คนในครอบครัว และเพื่อนฝูง ยังคงสวมหน้ากากกันต่อไป และทำให้เป็นค่านิยม" นายอนุทินกล่าว
 

สำนักสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
17 พฤศจิกายน 2563

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด