เนื้อหาจากการประชุม โดย
สมาคมกัญชาภูเก็ต และทิ้งท้ายด้วยข้อคิดไว้ ดังนี้
ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมานี้ ทางทีมงานสมาคมกัญชาภูเก็ต มีโอกาสเข้าปรึกษาหารือกับ กลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย ว่าคิดอย่างไรกับสถานการณ์กัญชาในประเทศไทยในขณะนี้
และสาเหตุที่ต้องหารือ เพราะลูกค้าเกือบ 90% คือชาวต่างชาติ
การรู้เขารู้เราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ข้อสรุปที่ได้มาจากการพูดคุยในครั้งนี้....คือ
1) ต่างชาติไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายกัญชาไทยเลย เนื่องจากไม่มีกฏหมายฉบับแปล จึงเป็นสาเหตุที่เกิดการทำผิดกฎหมายขึ้นได้
2) ต่างชาติมีความจริงใจ และตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้อยู่ภายใต้ตามกฎหมายของประเทศไทย
3) ต่างชาติมีเจตนารมย์ ที่จะนำผลผลิตและผลกำไรส่วนนึงของการทำธุรกิจมาช่วยสนับสนุนสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายภาษี หรือการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมของสมาคม (ยกตัวอย่าง การคืนกำไรให้แก่สังคม ไม่ว่าเป็นการบริจาคให้กับโรงพยาบาล มอบทุนการศึกษา หรือสนับสนุนงานต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมในสังคม)
หรือแม้กระทั่งความต้องการที่จะบริจาค 3-5% ของผลผลิต ที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ให้กับทางการแพทย์ด้วย
4) ต่างชาติต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาไทย ให้ไประดับโลก (ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มี know how เกี่ยวกัญชาต่างกัน ซึ่งนี่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรม)
5) ทางสมาคมกำลังหารือกับกลุ่มคนที่มีความสนใจจะเข้ามาช่วยเหลือ ในการพัฒนาระบบหรือ mobile application เพื่อเป็นการให้ความรู้ในเชิง q&a แบบ open ChatGPT ทำให้ตลาดปัจจุบันของเราที่เป็นต่างชาติ 80-90% นั้น รวมถึงคนไทยด้วย ได้มีพื้นที่ ที่สามารถถามคำถามเกี่ยวกับกฎหมายกัญชา และ know-how อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ได้แบบ real time และหลายภาษา
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องบินบินมาจากดูไบ สิ่งแรกที่ชาวต่างชาติเห็นที่สนามบินคือ billboard ของสมาคม พร้อมด้วย QR code ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงกฎหมายของกัญชาได้ตั้งแต่ลงเครื่อง ทำให้คนทำผิดกฎหมายน้อยลง
6) ต่างชาติต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐาน COA และ certified อื่นๆ อย่างเช่นทุกฟาร์ม ต้องมีการตรวจโลหะหนัก สารตกค้าง THC CBD content และ เทอปีน
โดยการบังคับใช้กับร้านค้าและฟาร์มที่ต่างชาติมีส่วนเกี่ยวข้อง (ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น)
*** ข้อคิด ***
ถ้าเราขับไล่และไม่อนุญาตให้ต่างชาติมีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ จะมีคนทำผิดกฏหมายมากขึ้น โดยที่จะเปิดช่องทางให้ เจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม (แค่บางกลุ่ม) เข้ามาหาผลประโยชน์ตรงนี้ได้มากขึ้น
สรุปปัญหาที่เรามีก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้น เราจึงต้องแก้ปัญหาจากต้นน้ำ คือการจับเข่าคุยกันกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนไทยด้วยกัน
*ภาพจากเพจสมาคมกัญชาภูเก็ต