โดยมีการขยายผลในทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจ พ.ร.บ.กักพืชฯ ในส่วนของการควบคุมพืชตระกูลกัญชา ซึ่งกรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อนึ่งตาม พ.ร.บ.กักพืชฯ ในส่วนของการควบคุมพืชสกุลกัญชา กำหนดให้ทุกส่วนของพืชสกุลกัญชาเป็นสิ่งต้องห้าม การนำสิ่งต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านตรวจพืช ผู้นำเข้ากระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 8 ประกอบมาตรา 10 และมีบทกำหนดโทษตามความในมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติกักพืชฯ กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งในปี 2565-2566 ที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการตรวจจับการนำเข้าชิ้นส่วนของพืชสกุลกัญชาอย่างเข้มงวด ด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมวิชาการเกษตรและฝ่ายศุลกากรที่ 1 ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ร่วมกันตรวจชิ้นส่วนกัญชาที่มีการนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแล้วกว่า 100 รายการ ด่านตรวจพืชนครพนม ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลุ่มแม่น้ำโขง และ ด่านศุลกากรนครพนม ตรวจจับชิ้นส่วนกัญชาและกัญชาอัดแท่งที่มีการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ได้จำนวน 282 กิโลกรัม
กรมวิชาการเกษตรยังมีการประชุมวางแผน และดำเนินงานร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณะสุข อย่างต่อเนื่องในการสนธิกำลังตรวจสอบผู้ประกอบการในพื้นที่ถนนข้าวสาร และพื้นที่ถนนทองหล่อ และพื้นที่อื่นๆ สำรวจ ตรวจสอบ พร้อมยึดอายัด ผู้กระทำความผิดหรือฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 โดยทำการตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการ/ร้านค้าต่างๆ และตรวจสอบไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศ
จากปฏิบัติการนี้พบการกระทำผิดหลายราย โดยผู้กระทำผิดแบ่งเป็น ร้านค้าปลีกหาบเร่ แผงลอย จำหน่ายหรือแปรรูปกัญชาพันลำ และจำหน่ายช่อดอกที่ไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินการใช้ใบอนุญาตผิดสถานที่ที่ได้รับอนุญาต ที่ต้องยึด อายัด สั่งปิด และส่งตัวพร้อมของกลางให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ย้ำ การนำเข้าช่อดอก และทุกส่วนพืชตระกูลกัญชา เป็นสิ่งต้องห้าม มีโทษทั้งจำและปรับ และขอให้ใช้เพื่อทางการแพทย์ เท่านั้น