2 ส.ค.2564 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงประเด็นสำคัญ 2 ประเด็น เกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับการบริจาคจากสหรัฐอเมริกา ที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง
1.การรับมอบวัคซีนไฟเซอร์อย่างเป็นทางการ
โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ได้มีการส่งมอบวัคซีนบริจาคของสหรัฐจำนวน 1,503,450 โดส อย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาล
2. การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ในบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
มติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ลงมติเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 ระบุว่ามีคำแนะนำแนวทางการให้วัคซีนไฟเซอร์ ให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคน ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด
หลักการให้วัคซีน
1.บุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ กระตุ้น 1 เข็ม
2.บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลักตามที่เข็มแรกกำหนด เช่น เข็มแรกกำหนดว่า ให้ฉีดเข็ม 2 ใน 3 สัปดาห์ก็เป็นไปตามนั้น
3.บุคลากรที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆมาก่อน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
4.บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้รับวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้ง กุมารแพทย์ อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา ด้านวัคซีน ด้านเวชศาสตร์ป้องกันมีคำแนะนำเพิ่มเติม โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคยได้รับวัคซีนดังต่อไปนี้
2.วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม คือ ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯไป 1 เข็มและมีกำหนดรับแอสตร้าฯเข็ม 2 หรือ
