ข้อมูลบริการสุขภาพ

แม้ภาวะการระบาดของโควิด-19 จะยังไม่หายไปจากทั่วโลกนับถึงขณะนี้ และคงเป็นการยากที่หวังเช่นนั้นในช่วงเวลาอันสั้น เนื่องจากสถานการณ์ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไป  พบว่าหลายประเทศมีการระบาดเพิ่มสูงขึ้นมาก แม้จะได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม  ขณะที่ในอีกหลายๆ ประเทศ ก็มีมาตรการที่ได้ผลดี ผู้ติดเชื้อคงตัวหรือน้อยลง 

แนวคิดใหม่ในหลายประเทศ เริ่มหันมามองในมุมมองที่ว่า การปรับตัวปรับมาตรการเพื่อรับมือและเดินหน้าสู่การอยู่ร่วมกับโควิด เป็นสิ่งที่ควรทำและต้องทำ  จะกลายเป็นแนวนโยบายที่นานาประเทศจะต้องประยุกต์ใช้

สหภาพยุโรปและประเทศในกลุ่ม กำลังเดินหน้ากลับมาเปิดภูมิภาคเพื่อต้อนรับนักเดินทางอีกครั้ง บนเงื่อนไขและมาตรการที่ต้องเข้มงวดรัดกุม ขณะที่ต้องเงื่อนไขสำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ การฉีดวัคซีนของผู้เดินทาง 

 

ขณะนี้ องค์การยาของสหภาพยุโรป (European Medicines Agency - EMA) ประกาศรับรองวัคซีนไว้ 4 ชนิดดังนี้ 

 

1. Comirnaty - ของ บ.BioNTech Manufacturing GmbH

2. COVID-19 Vaccine Janssen Janssen - ของ บ.Cilag International NV

3. Spikevax (เดิมคือ โมเดอร์นา COVID-19 Vaccine Moderna) - ของ บ.Moderna Biotech Spain, S.L.

4. Vaxzevria (เดิมคือ แอสตร้าเซเนก้า COVID-19 Vaccine AstraZeneca) - ของ บ. AstraZeneca AB 

 

 

 

ประเทศในอียู ยึดเอาการรับรองนี้ เป็นมาตรฐานด้วยเช่นกัน นั้นหมายความว่า ผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้ง 4 ชนิดนั้น จะสามารถเดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ได้ ทั้ง 29 ประเทศมีดังนี้ 

 

ออสเตรีย เบลเยี่ยม บัลแกเรีย โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ค เดนมาร์ค เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิธัวเนีย มัลต้า เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรเมเนีย สโลวาเกีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ 

 

 

อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็มีอิสระที่จะกำหนดได้เองว่า จะให้การรับรองวัคซีนอื่นใดอีก ซึ่งหลายประเทศก็ได้เพิ่มวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรองให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินเข้าไว้ด้วย 

 

ด้วยเงื่อนไขนี้เอง ทำให้มีวัคซีนอีก 3 ชนิด ที่ได้รับการยอมรับ คือ

 

ส่วนการรับรอง/ยอมรับในวัคซีนทั้ง 3 ชนิดนี้ มีรายละเอียดแตกต่างกันไปดังนี้

เป็นวัคซีนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และประเทศที่ให้การรับรอง 18 ประเทศ ดังนี้

 

ออสเตรีย เบลเยี่ยม บัลแกเรีย โครเอเชีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ ลัตเวีย เนเธอร์แลนด์ โรเมเนีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ 

 

[อ้างอิง]
 

ประเทศที่ให้การรับรอง 10 ประเทศ ประกอบด้วย : ออสเตรีย ไซปรัส กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน ฟินแลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์  (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย.64)

 

โดยสเปน เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ยอมรับวัคซีนซิโนฟาร์ม 

 

[อ้างอิง]

 

 

ขณะนี้มี 9 ประเทศที่ให้การรับรอง ประกอบด้วย  : ออสเตรีย ไซปรัส ฟินแลนด์ กรีซ ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน  และสวิสเซอร์แลนด์  (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย.64)

 

ไซปรัส เป็นประเทศล่าสุดที่ยอมรับซิโนแวคเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ทำให้ผู้เดินทางเข้าไซปรัส ไม่ต้องตรวจและกักตัว

 

สเปน เป็นประเทศแรกในอียู ที่รับรองซิโนแวค ตั้งแต่มิถุนายน 64 ในขณะนั้นทางการสเปนระบุว่า "วัคซีนใดก็ตามที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การยาของยุโรปและองค์การอนามัยโลก จะได้รับการรับรอง (ในสเปน)"

 

สำหรับออสเตรีย แม้ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค จะได้รับการรับรองเช่นกัน และเดินทางเข้าประเทศได้ ก็ตาม แต่จะไม่สามารถเข้าไปใช้บริการในร้านอาหาร โรงแรมหรือบริการอื่นใด ระหว่างที่อยู่ในประเทศได้ [อ้างอิง] 

 

ฟินแลนด์ ประกาศกว้างๆ ว่าให้การยอมรับวัคซีนใดก็ตามที่ EMA และ WHO ให้การรับรอง นั้นหมายถึงวัคซีนทั้งหมด รวมทั้งซิโนแวค ก็ได้รับการยอมรับ [อ้างอิง]

 

ประเทศนอกอียู ที่ให้การยอมรับวัคซีนซิโนแวค อีก 5 ประเทศ ได้แก่ : อัลแบเนีย อาร์เมเนีย จอร์เจีย มาซีโดเนีย และเซอร์เบีย 

 

[อ้างอิง]