ตุลาคม 2564 ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเปิดประเทศ ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนทะลุ 71 ล้านโดสไปแล้ว และมุ่งสู่ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี ตามเป้าหมายประเทศ
ในจำนวนนี้ มีทั้งผู้ที่ได้รับวัคซีน 1 เข็ม ครบ 2 เข็ม และ ได้รับเข็ม 3 กระตุ้นภูมิ รวมๆ กันไป แต่กระนั้นก็ยังมีบางส่วน(น้อย) ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็ม 1 แต่ทั้งนี้ ก็หวังว่าคนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดอย่างน้อย 1 เข็มโดยเร็ว
โดยเฉพาะเจาะจงกับวัคซีนโมเดอร์นา ที่มีความคลาดเคลื่อนไปจากกำหนดการฉีดเดิม ที่กำหนดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม 64 ที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุที่ ผู้นำเข้า ไม่สามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามแผน และล่าสุดได้มีหนังสือยืนยันว่า จะสามารถส่งมอบล็อตแรกให้กับประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทำให้แผนการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาของประชาชนไทยบางส่วน ไม่น้อยกว่า 3 ล้านราย กลับมามีความหวังอีกครั้ง แม้ว่าในล็อดตแรกนี้จะมีจำนวนเบาบางเพียง 1.9 ล้านโดส ก็ตาม
และที่สำคัญ วัคซีนหลักที่จัดสรรโดยรัฐบาล ทั้งวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า และวัคซีนไฟเซอร์ ที่นำเข้ามาใหม่ ได้มาถึงประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มกระจายออกไปยังจุดฉีด หน่วยฉีดต่างๆ ทั่วประเทศจำนวนมากแล้ว ทำให้การเข้ารับวัคซีนทั้งสอง ทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง ผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปก่อนหน้า ก็ประจวบเหมาะกับเวลาที่จะต้องรับการฉีดกระตุ้น เข็ม 3 เช่นเดียวกัน
คำถามจึงเกิดขึ้นจำนวนมาก ท่ามกลางความสับสน ระคนลังเล อีกครั้ง ว่าจะวางแผนการฉีดวัคซีน อย่างไรดี
เป็นคำถามใหม่ที่เกิดขึ้น หลังจากวัคซีนที่เคยจะถูกวางไว้ ว่าจะใช้เป็นวัคซีนหลักทั้ง 2 เข็ม สำหรับประชาชนกลุ่มหนึ่งจึงทำให้ไม่ได้เลือกที่จะฉีดวัคซีนใดๆ ไปก่อนหน้านี้ หรือ อีกกลุ่มที่มุ่งจะใช้เป็นวัคซีนกระตุ้น เข็ม 3 ตามกำหนดเวลา หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบโดสไปแล้ว แต่ทั้งสองกลุ่ม ก็ไม่สมหวัง
คำถามจึงดังก้องออกมาว่า
"จะรับวัคซีน Moderna เป็นเข็มที่ 4 ได้อีกหรือไม่"
จากคำถามสำคัญนี้
รพ.วิชัยยุทธ ได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
"ข้อมูลปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า ระดับภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยิ่งสูงยิ่งป้องกันโรค โดยยังไม่พบอันตรายจากภูมิคุ้มกันที่สูง"
ข้อมูลภูมิคุ้มกันภายหลังได้รับวัคชื่น 3 เข็มยังมีน้อยมาก ทราบแต่ว่าหลังรับเข็ม 3 ระดับขึ้นสูงมาก แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ได้นานเพียงใด เนื่องจากเพิ่งมีการรับวัคซีนเข็ม 3 กันไปไม่นาน แต่โดยทั่วไปแล้ว ระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป เช่น การรับวัคซีน Pfizer ครบ 2 เข็ม เมื่อผ่านไป 4-6 เดือน ระดับภูมิคุ้มกันลดลงชัดเจนจนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเดลต้าได้
การรับวัคซีน Moderna เป็นเข็มที่ 4 สามารถทำได้ หากไม่มีข้อห้าม และเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แนะนำให้ห่างจากเข็ม 3 มากกว่า 4 เดือนไปแล้ว อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยมะเริง ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลเพื่อติดตามระดับภูมิคุ้มกันเป็นระยะ
การติดตามระดับภูมิคุ้มกันเป็นระยะเพื่อดูแนวโน้ม อาจจะได้ประโยชน์ แต่ยังไม่มีองค์กรวิชาชีพใดแนะนำ เนื่องจากยังไม่เป็นมาตรฐานและไม่มีตัวเลขว่าเท่าไรจึงจะเหมาะสม
สามารถรับวัคซีน Moderna 2 เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์ เพื่อใช้เป็น vaccine passport ในการเดินทางเข้าประเทศที่บังคับให้รับวัคนชนิดนี้ได้ อย่างไรก็ตามควรห่างจากวัคชีนเข็มก่อนหน้านั้นประมาณ 4 สัปดาห์
ภาพจาก รพ.วิชัยยุทธ