BA.2.75 กำลังมา
อ.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส กล่าวถึง BA.2.75 ในเพจของท่าน
Anan Jongkaewwattana ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ BA.2.75 จะเป็นที่กล่าวถึงในไม่ช้า
"คาดว่าอีกไม่นานไวรัสสายพันธุ์ BA.2.75 จะมีการพูดถึงในสื่อมากขึ้นครับ ข้อมูลตอนนี้พบไวรัสสายพันธุ์นี้ในอินเดียเป็นส่วนใหญ่ แต่พบว่าหลายประเทศมีการรายงานไวรัสสายพันธุ์นี้แล้ว เช่น ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา
ไวรัสสายพันธุ์นี้ได้รับความสนใจด้วยเหตุผล 2 ประการหลักๆ คือ
1. เป็น BA.2 ที่มีการกลายพันธุ์เพิ่มถึง 9 ตำแหน่งบนโปรตีนหนามสไปค์ (เทียบกับ BA4/BA5) แต่เนื่องจากตำแหน่งที่ 493 (R493Q) เป็นการเปลี่ยนกลับจากโอมิครอนไปเหมือนสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้บางคนนับว่าเป็น 8 ตำแหน่ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะตำแหน่งที่ 446 ซึ่งเปลี่ยนจาก G (Glycine) ไปเป็น S (Serine) G446S เคยมีคนพูดถึงว่าเป็นตำแหน่งที่ทำให้ไวรัสหนีภูมิจากการจับของแอนติบอดีได้มากขึ้น
2. ข้อมูลของจำนวนตัวอย่างไวรัสที่ถอดรหัสในอินเดียพบการเพิ่มจำนวนของสายพันธุ์นี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งถ้าจำได้เป็นถิ่นกำเนิดของสายพันธุ์อย่างเดลต้ามาก่อน มีผู้พยายามเปรียบเทียบความสามารถของ BA.2.75 กับ BA.5 ในการแพร่กระจาย มีแนวโน้มว่า BA.2.75 จะวิ่งได้ไวกว่า แต่เนื่องจากตัวอย่างยังมีไม่มาก ทำให้ความน่าเชื่อถือของข้อมูลยังมีน้อย
ทั้งนี้ยังไม่มีประเด็นเรื่องของความรุนแรงของเชื้อชนิดนี้ออกมา คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดครับ "
ศูนย์จีโนม
Center for Medical Genomics ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ไวรัสกลายพันธุ์ชุดใหม่ ซีรี่ส์ BA เพิ่มเติมดังนี้
BA.2.75 และ BA.2.38 ส่วนใหญ่พบในอินเดีย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า B.1.1.529.2.75 และ B.1.1.529.2.38
BA.2.75 ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากกลายพันธุ์ไปเกือบ 100 ตำแหน่งจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะระบาดเข้ามาแทนที่ BA.5 ซึ่งกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม อู๋ฮั่น เพียง 85
รองลงมาคือ 2.38 กลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนาดั้งเดิมประมาณ 75-80 ตำแหน่ง
BE.1 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า B.1.1.529.5.3.1.1 ส่วนใหญ่พบในประเทศแอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนาดั้งเดิมประมาณ 80-85 ตำแหน่ง
BF.1 ยังไม่มีข้อมูลมากนัก
ในขณะที่ BA.5 กลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนาดั้งเดิมประมาณ 80-85 ตำแหน่ง
โอไมครอน 4 สายพันธุ์ย่อยที่อุบัติใหม่นี้ ยังไม่มีข้อมูลในด้านความรุนแรงก่อโรคโควิด-19 (disease severity) ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
ยังไม่พบ BA.2.75, BE.1, BF.1 ในประเทศไทย
ส่วน BA.2.38 พบในประเทศไทยแล้วอย่างน้อย 2 ราย