การทำงานที่ผิดปกติของระบบเผาผลาญเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารบางอย่าง เพื่อช่วยให้อัตราการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น
1) ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ
นักโภชนาการจึงแนะนำให้กำหนดปริมาณการรับโปรตีนสำหรับอาหารทุกมื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับโปรตีนเพียงพอตลอดทั้งวัน เช่น บริโภคโปรตีนอย่างน้อย 20-25 กรัม (3-4 ออนซ์) ต่อมื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า
2) งดอาหารเช้า
ประโยชน์ของการกินมื้อเช้า ก็เพื่อจุดไฟให้กับระบบเผาผลาญได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ฉะนั้น จะดีมากถ้าคุณเลือกเชื้อเพลิงชั้นดีให้กับร่างกายตั้งแต่มื้อเช้า เช่น อาหารเช้าที่อุดมด้วยไฟเบอร์ โปรตีนไม่ติดมัน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และพวกผักผลไม้
3) กินมื้อดึก
นักโภชนาการแนะนำให้กินมื้อเช้าที่บำรุงร่างกาย กินมื้อกลางวันเป็นมื้อใหญ่ ส่วนมื้อเย็นให้เป็นมื้อที่เล็กลง และงดมื้อดึก!
4) เมินอาหารที่มีไฟเบอร์
ไฟเบอร์จะเพิ่มอัตราและความสามารถในการเผาผลาญพลังงานให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไฟเบอร์ช่วยให้เราอิ่มท้องนาน จึงควบคุมระดับพลังงานได้ค่อนข้างคงที่ตลอดวัน
5) อดอาหารหรือควบคุมแคลอรี่ไม่ถูกวิธี
การควบคุมแคลอรี่ไซด์ไลน์เป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนัก แต่ร่างกายเราก็จำเป็นต้องรับแคลอรี่เพื่อไปเผาผลาญแคลอรี่เช่นเดียวกัน หากเราได้รับแคลอรี่น้อยเกินไปมากๆ (อดอาหารหรือคุมแคลอรี่ไม่ถูกวิธี) ร่างกายจะเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร และจะชะลอการเผาผลาญเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ
6) กินอาหารแปรรูปเป็นประจำ
อาหารแปรรูปทั้งหลายไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย เพราะอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ย่อยเร็ว ที่สำคัญคือไม่มีใยอาหาร ระบบเผาผลาญจึงทำงานได้ไม่เต็มที่
PR รพ.กลาง
---------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :Eat This, Not That!,National Center for Biotechnology Information, U.S. National Library of Medicine