การดำเนินงานเชิงรุกในด้านการป้องกันและควบคุมโรคความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงนั้นพบได้ทั่วโลกทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา คาดว่ามีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั้งโลกประมาณ 1,500 ล้านคน ประชากรไทยประมาณ 5 ล้านคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง ในบางประเทศพบโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าครึ่งของประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี มีเพียงหนึ่งในสามของผู้ป่วยโรคความดันสูงที่ได้รับการรักษาเท่านั้นที่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้
จุดประสงค์ของวันความดันโลหิตสูงโลกคือ การถ่ายทอดไปสู่ประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคความดันโลหิตสูงและผลแทรกซ้อนที่รุนแรง รวมถึงการให้ข้อมูลในแง่ของการป้องกัน การตรวจหาและการรักษา การจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อาศัยความร่วมมือของบุคลากรทางการแพทย์ สื่อมวลชนหน่วยงานอาสาสมัคร และหน่วยงานของรัฐในแต่ละประเทศ ขั้นแรกของการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงก็คือ การตรวจหาผู้ที่เป็นโรคซึ่งสามารถทำได้โดยตั้งจุดตรวจวัดความดันโลหิตในสถานที่ต่างๆ ได้แก่ ศูนย์การค้า โรงเรียน วัด โบสถ์ สุเหร่า สมาคม
ความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกของ WHI ได้จัดกิจกรรมในประเทศและให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร มีส่วนร่วมในกิจกรรมตรวจหาโรคความดันโลหิตสูงของชุมชนของตน
ผลของการไม่ควบคุมความดันโลหิตสูงให้ดี
ความดันโลหิตสูงสามารถทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลวและไตวายโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการตายรวมในสหรัฐอเมริการ้อยละ 40 และอาจมากกว่านั้นในบางประเทศความสัมพันธ์ของโรคความดันโลหิตสูงและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ความดันโลหิตยิ่งสูง ความเสี่ยงต่อสภาวะหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย และโรคไตวาย ก็จะสูงขึ้นด้วย
ท่านควรทราบระดับความดันโลหิตของท่านเอง
ความดันโลหิตสูง หมายถึงภาวะที่แรงดันของเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดมีค่าสูงเกินปกติ โรความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่สามารถคร่าชีวิตคนได้โดยไม่มีอาการใดๆ นำมาก่อนนับได้ว่าเป็น “ฆาตกรเงียบ” ความดันโลหิตที่สูงมากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง หลอดเลือด หรือไต ทุกคนต้องมีความดันโลหิตอยู่ระดับหนึ่งในหลอดเลือด ในขณะที่หัวใจบีบตัวจะสูบฉีดเลือดผ่านไปทางหลอดเลือดแดงเพื่อนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกาย แรงดันของเลือดต่อผนังหลอดเลือดเรียกว่าความดันโลหิต
ความดันตัวบน(systolic blood pressure) หมายถึงค่าความดันโลหิตที่สูงกว่าซึ่งตรงกับช่วงการบีบตัวของหัวใจ ส่วนความดันตัวล่าง (diastolic blood pressure) หมายถึงค่าความดันโลหิตที่ต่ำกว่าซึ่งจะตรงกับช่วงการคลายตัวของหัวใจ ดังนั้นในกรณีที่หลอดเลือดตีบแคบลงหรืออุดตัน
หัวใจจึงจำเป็นจะต้องบีบตัวให้แรงขึ้นเพื่อส่งเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ได้คงเดิม ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ในกรณีที่ความดันโลหิตของท่านเท่ากับหรือ สูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทอยู่ตลอดเวลาแสดงว่าท่านมีโรคความดันโลหิตสูง
กฏเกณฑ์ทั่วไปในการวัดความดันโลหิต
- ควรพักอย่างน้อย 5 นาทีก่อนทำการวัด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 30 นาทีก่อนทำการวัด
- นั่งโดยวางเท้าให้ราบอยู่บนพื้น หลังพิงพนักแขนวางลงที่รองแขนให้เหมาะสมกับขนาดของแขน
- เลือกขนาดของแถบผ้าพันแขนให้เหมาะสมกับขนาดแขน
- ใช้เครื่องมือที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
- ควรวัดความดันโลหิตอย่างน้อย 2 ครั้ง (ห่างกันอย่างน้อย 2 นาที) แล้วนำมาหาค่าเฉลี่ยในบางกรณีอาจจำเป็นที่จะต้องวัดความดันโลหิตในท่ายืนและท่านอนหงายตามความจำเป็น
การปฏิบัติต่อไปนี้สามารถช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้
- การลดน้ำหนัก
- การลดปริมาณเกลือในอาหาร
- การงดหรือลดการดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หากการปรับพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถป้องกันหรือควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการก็มีความจำเป็นต้องใช้ยา บ่อยครั้งต้องใช้ยามากกว่า 1 ชนิด การควบคุมความดันโลหิต จะมีผลต่อดีสุขภาพอย่างเห็นได้ชัดช่วยลดอัตราตายแล้วยังช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจร้อยละ 25 ภาวะหัวใจวายร้อยละ 50 และโรคหลอดเลือดสมองร้อยละ 35 นอกจากการควบคุมความดันโลหิตสูง การควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ก็มีความสำคัญเพราะการ
สูบบุหรี่ ระดับคลอเลสเตอรอลที่สูงในเลือดและโรคเบาหวานจะเร่งให้เกิดการทำลายต่อหัวใจและหลอดเลือดจากความดันโลหิตสูง ดังนั้นจึงต้องรักษาและควบคุมปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ด้วย
จำไว้ว่าโรคความดันโลหิตสูงอาจไม่มีอาการแสดงใดๆ ที่ชัดเจน ดังนั้นจึงควรที่ท่านจะต้องรับการตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง การควมคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่พึงประสงค์จะเพิ่มอายุยืนยาวให้แก่ชีวิตที่เป็นสุขได้
ท่านสามารถหาข้อมูลของโรคความดันโลหิตสูงได้ที่
www.worldhypertensionleague.org และ www.thaihypertension.org