ต่อมไทรอยด์
เป็นต่อมไร้ท่อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย โดยจะอยู่ที่ส่วนหน้าของลำคอ ใต้ลูกกระเดือกลงมา มีรูปร่างเหมือนเกือกม้า ทำหน้าที่สร้างและหลั่งไทรอยด์ฮอร์โมน ออกมาสู่กระแสเลือด โดยอาศัย ไอโอดีน จากอาหารที่กินเข้าไป โดยไทรอยด์ฮอร์โมนจะช่วยทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายทำงานเป็นปกติ ซึ่งอวัยวะที่ถูกกระตุ้นมากที่สุด คือหัวใจและประสาท
โรคของต่อมไทรอยด์
โรคของต่อมไทรอยด์มีหลายชนิด เพราะเป็นต่อมไร้ท่อที่เกิดโรคต่างๆบ่อยที่สุด เมื่อเทียบกับ ต่อมไร้ท่ออื่นๆ และมักพบในสตรีเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ โรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคขาดไทรอยด์ฮอร์โมน โรคคอพอก โรคปุ่มเนื้อต่อมไทรอยด์ และโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งโรคของต่อมไทรอยด์ที่พบบ่อยคือ โรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือที่เรียกว่า “ ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ”
ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติเนื่องจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น ซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างสารแอนตี้บอดี้ (antibody) ไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ ให้สร้างฮอร์โมนมากขึ้น หรืออาจเกิดจากต่อมไทรอยด์อักเสบ ทำให้มีการปล่อยฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากกว่าปกติ
ไทรอยด์เป็นพิษ ไม่เกี่ยวข้องกับอาหารทะเล แต่มีปัจจัยบางอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น
- เพศหญิง โรคนี้เกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 4-8 เท่า
- กรรมพันธุ์ บางครอบครัวเป็นกันทั้งมารดา และลูกสาว
- ความเครียดทางจิตใจ พบว่าทำให้เกิดอาการคอพอกเป็นพิษได้
ผลกระทบต่อร่างกายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ จะเกิดอาการหลายรูปแบบ
- ใจสั่น มือสั่น ชีพจรเต้นเร็ว
- หงุดหงิดง่าย
- ตาโปน
- ผมร่วง
- ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก
- หิวบ่อย กินเยอะแต่น้ำหนักไม่ขึ้น
- ถ่ายอุจจาระบ่อยขึ้น
- ในบางรายอาจสังเกตเห็นต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณลำคอด้านหน้ามีขนาดโตขึ้น
- อาจมีอาการขาสองข้างอ่อนแรงจนไม่สามารถทรงตัวได้ อาจพบได้ไม่บ่อย แต่เป็นอาการแรกๆ ที่เกิดขึ้น
- ในบางรายอาจพบอาการตับโต ตัวเหลืองและตาเหลือง
- ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจส่งผลกระทบถึงขั้นภาวะหัวใจล้มเหลวได้
การรักษา
โดยทั่วไป การรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น แต่วิธีการรักษาหลัก ๆ สามารถทำได้ 3 วิธีคือ
1.ยาเม็ดรับประทาน เพื่อควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ และทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น แต่ผู้ป่วยต้องรับประทานยาเป็นปีและต่อเนื่อง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งเริ่มมีอาการ หรือมีอาการไม่มากนัก
2.การผ่าตัดเพื่อเอาต่อมไทรอยด์บางส่วนออก วิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม ยกเว้นกรณีที่ต่อมไทรอยด์มีขนาดโตมาก ๆจนเบียดหลอดลม หรืออวัยวะข้างเคียง
3.การกินแร่สารกัมมันตรังสีไอโอดีน เพื่อทำลายให้ต่อมหายเป็นพิษ โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยที่มีอายุมาก แต่ห้ามใช้ในหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงได้
อย่างไรก็ตาม โรคไทรอยด์ หรือโรคไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่โรคที่น่ากลัว หรือน่ากังวลใจ เพราะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการดูรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยควรหมั่นสังเกตใส่ใจสุขภาพอยู่เสมอ และรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีไอโอดีนแต่พอดี และหากพบว่ามีอาการผิดปกติหรือมีก้อนที่คอ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยทันที เพราะการเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้การรักษาได้ผลดี และไม่ลุกลามจนกลายเป็นโรคเรื้อรังหรือโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ในที่สุด
โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่แท้จริงยังไม่ทราบ แต่จากการศึกษาเชื่อว่า น่าเกิดจากหลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน ที่สำคัญ คือ จากพันธุกรรมที่ผิดปรกติ ทั้งชนิดถ่ายทอดได้ และชนิดไม่ถ่ายทอด และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นเสริม เช่น การได้รับรังสีบางชนิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น จากโรงงานพลังปรมาณู และ/หรือจากระเบิดปรมาณู และอาจ เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศ เพราะพบโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์เกิดในผู้หญิง สูงกว่าในผู้ชายมาก อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์เป็นโรคมะเร็งที่พบได้ในทุกวัย ทั้งในเด็ก วัยรุ่น ในผู้ใหญ่ และ ในผู้สูงอายุ
การรักษา
การรักษาหลัก ของโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ คือ การผ่าตัด และหลังการผ่าตัด จะมีการตรวจก้อนมะเร็งจากการผ่าตัดเพื่อตรวจพิสูจน์ทางพยาธิวิทยา และแพทย์จะประเมินว่า สมควรต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องด้วยการรับประทาน แร่รังสี ( แร่รังสีไอโอดีน) หรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของเซลล์มะเร็งว่า เป็นเซลล์ชนิดจับกินแร่รังสีไอโอดีนหรือไม่ แร่รังสีไอโอดีนอาจอยู่ในรูปแคปซูล หรือ เป็นน้ำ ซึ่งจะให้การรักษาโดยแพทย์ทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ และ/หรือ แพทย์ทางรังสีรักษา แต่บางครั้งเมื่อโรคลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง อาจมีการฉายรังสีรักษาร่วมด้วย และถ้าเป็นโรคมะเร็งชนิดเซลล์รุนแรง /เซลล์มะเร็งไม่จับกินแร่รังสีฯ อาจมีการรักษาร่วม หลังการผ่าตัด ด้วยรังสีรักษา และยาเคมีบำบัด
ความรุนแรงโรค
โดยทั่วไป โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ส่วนใหญ่ เป็นชนิดจับกินแร่รังสีไอโอดีน ซึ่งมีความรุนแรงโรคต่ำมาก รักษาแล้วมีโอกาสหายสูง อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงโรค นอกจากขึ้นกับชนิดของเซลล์มะเร็งแล้ว ยังขึ้นกับอายุ ถ้าอายุตั้งแต่ ๔๕ ปี ความรุนแรงโรคสูงกว่า และถ้าเป็นเพศชายความรุนแรงโรคสูงกว่าเพศหญิง