สำหรับสัญญาณเบื้องต้นที่แสดงเมื่อเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ มีหลากหลายรูปแบบดังนี้
- กระหาย
- ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม
- ปากแห้ง ลิ้นแห้ง
- ผิวแห้ง
- เหนื่อย หอบ ใจเต้นเร็ว
- บางรายอาจมีอาการ ง่วง เพลีย งุนงง สับสน
ภาวะขาดน้ำ สามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะ กลุ่มทารกและเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง หรือผู้ที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงเป็นที่ช่วงป้องกันภาวะดังกล่าวนี้ได้ แต่หากร่างกายมีการสูญเสียมากกว่าปกติก็จำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปนั่นเอง
น้ำเปล่า ตัวช่วยสุขภาพดี
น้ำเปล่ามีความสำคัญกับร่างกายของเรามาก หากร่างกายขาดไป ก็จะทำให้การทำงานของร่างกายไม่เป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ส่งเสริมความจำและอารมณ์ ช่วยลดความกังวลได้และอาจช่วยลดอาหารปวดหัวได้เช่นกัน ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะและช่วยป้องกันการเกิดนิ่วได้ นอกจากนี้ใครที่ท้องผูกบ่อย ๆ แน่นอนว่าการดื่มน้ำช่วยป้องกันท้องผูกได้ ที่สำคัญการดื่มน้ำเปล่าอาจช่วยลดความต้องการน้ำตาลและช่วยในการรักษาระดับน้ำหนักได้อีกด้วย
เห็นหรือไม่ว่า น้ำเปล่าเครื่องดื่มธรรมดา ที่หลายๆ คนมองข้ามไป แต่กลับมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน แถมยังหาได้ง่าย ดื่มได้โดยที่ไม่มีพลังงานหรือน้ำตาลเหมือนเครื่องดื่มทั่วไป ดังนั้นเราจึงควรหันมาดื่มน้ำเปล่าเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อสุขภาพที่ดีกัน
ดื่มน้ำแค่ไหน จึงจะพอดี
ในแต่ละวันทุกคนดื่มต้องการน้ำเปล่าไม่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณน้ำที่ควรได้รับต่อวันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันของแต่ละคน โดยปริมาณน้ำที่แนะนำให้บริโภคควรได้รับคือ 100 – 150 มิลลิลิตร ต่อ 100 กิโลแคลอรี่ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน โดยผู้ใหญ่จะต้องการน้ำมากกว่าเด็กและจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น และ เพศชายจะมีความต้องการน้ำมากกว่าเพศหญิง
นอกจากนี้ สำหรับวัยทำงานยังสามารถใช้วิธีการคำนวณง่าย ๆ ว่า ต้องดื่มน้ำเท่าไหร่ต่อวัน ใช้เพียงแค่น้ำหนักตัวของเราเท่านั้นเอง สูตรคือ น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 จะได้เป็นปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตรที่เราควรดื่มใน 1 วัน2
ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 2,310 มิลลิลิตร แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการที่จะคำนวณให้ยุ่งยากแล้วก็ควรที่จะดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอประมาณ 8-10 แก้ว หรือเทียบเท่ากับการดื่มน้ำจากขวดขนาด 600 มิลลิลิตร ประมาณ 3-4 ครั้งนั่นเองครับ และสำหรับนักกีฬาที่มีการสูญเสียน้ำมากกว่าคนทั่วไปอาจต้องดื่มเพิ่มมากขึ้นจากที่ปริมาณแนะนำ 1-2 แก้ว เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ
ความรู้สุขภาพจาก สสส.