การฝังเข็ม มีฤทธิ์ในการรักษาโรค 3 ประการ คือ
1. แก้ไขการไหลเวียนของเลือดลมปราณที่ติดขัด
2. ปรับอวัยวะต่างๆในร่างการให้สมดุล
3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อกำจัดเหตุปัจจัยที่เป็นอันตราย ออกไปจากร่างกายและยับยั้งความเจ็บป่วย ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งมีอาการคลายตัว
ประโยชน์ของการฝังเข็ม คือ การรักษาและบรรเทาอาการของโรค
โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยการฝังเข็ม องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีโรคหลายชนิดหลานกรณี ที่สามารถทำการรักษาได้ทุกเพศทุกวัย โดยโรคและอาการที่พบบ่อยๆมีดังนี้
- อัมพาต อัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง
- ปวดศีรษะ
- นอนไม่หลับ เครียด วิตกกังวล
- ท้องผูก
- โรคบริเวณใบหน้า เช่น อัมพาตใบหน้าครึ่งซีก หน้ากระตุก ขากรรไกรค้าง อ้าปากไม่ขึ้น
- โรคกล้ามเนื้อเอ็น ข้อกระดูกและปลายประสาทชา ปวดข้อรูมาตอยด์ ชาปลายมือและปลายเท้า ตะคริว ปวดหลัง ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม ข้อเข่าพลิก
- อาการปวดจากมะเร็ง เนื้องอก ปวดแผลผ่าตัด
- แพ้ท้องมาก อาเจียน ทานอาหารไม่ได้
- โรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน ปลายเท้าคล้ำดำ ชาปลายมือและปลายเท้า
- ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ลดน้ำหนัก เช่น ลดความอ้วนหลังคลอด ลดไขมันเฉพาะที่ เช่น ต้นขา น่อง ต้นแขน เป็นต้น
- เพิ่มน้ำหนักในคนผอม ผู้ป่วยเรื้อรัง
- บำรุงสุขภาพ วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงอายุ
- โรคผู้สูงอายุ สั่นกระตุก พาร์กินสัน หลงลืม โรคอัลไซเมอร์
- โรคสูตินรีเวช ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- วัยทอง
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- โรคภูมิแพ้
- เวชสำอางผิวหน้า เช่น ลบรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นใต้คาง ฝ้า สิง กระ
- ผมร่วง เส้นเลือดขอด
- เลิกยาเสพติด เช่น สุรา บุหรี่ ยาเสพติดอื่น ๆ
- โรคระบบทางเดินอาหาร และลำไส้ เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร
- โรคอื่น ๆ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
ข้อควรระวังในการฝังเข็ม
ไม่ควรทำการฝังเข็มในผู้ป่วยต่อไปนี้
1. สตรีมีครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยใกล้คลอด จะไม่สามารถทนนอนหรือนั่งเป็นเวลานาน ๆ ได้
2. ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น โรคฮีโมฟิลเลีย
3. โรคมะเร็ง (ที่ยังไม่ได้รับการรักษา)
4. โรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ฯลฯ
5. ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ (Pacemaker) ห้ามรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นเข็มด้วยไฟฟ้า
6. ผู้ป่วยที่ตื่นเต้นหวาดกลัวต่อการรักษามากเกินไป ทั้งที่ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ยังควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้
7. ผู้ป่วยที่เหน็ดเหนื่อยจากการออกกำลังกายอย่างหนัก
8. ทารกเด็กเล็ก / ผู้ป่วยทางจิตเวช / โรคสมองเสื่อม ที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้
ทางเลือกอื่น ๆ กรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยการฝังเข็ม
แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการ ครอบแก้ว (cupping) ซึ่งจะใช้รักษาคนไข้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออักเสบ ในทางศาสตร์จีน เชื่อว่าเลือดบริเวณนั้นไหลเวียนไม่ดี
การครอบแก้ว คือ การนำแก้วสุญญากาศครอบบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อดึงเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณ-ที่ปวดจะช่วยลดอาการที่ปวดได้มากขึ้น ใช้เวลาประมาณ นาที ตามคำสั่งแพทย์ หรือแพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการ รมยา (Moxa) ในรายที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง เช่น เอ็นข้อเท้าอักเสบ ข้อเข่าอักเสบ
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้มารักษาด้วยการฝังเข็ม
การปฏิบัติตัวก่อนมาฝังเข็ม
1. เตรียมใจไปรักษา การฝังเข็มเป็นการรักษาที่เป็นลักษณะที่เป็นหัตถการ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มารักษาฝังเข็ม จึงควรมารักษาด้วยความมั่นใจต่อการรักษา มิใช่มาด้วยความกังวล หวาดวิตก
2. รับประทานอาหารให้พอเหมาะ ควรรับประทานอาหารก่อนประมาณ 1-2 ชม. และไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มมากจนเกินไป
3. สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นชุดแยกส่วน ผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต ควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถพับแขนได้ และกางเกงขาสั้น จะทำให้แพทย์ปักเข็มได้สะดวกมากขึ้น
4. ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคให้มากที่สุด เช่น การอาบน้ำ สระผมก่อนมารักษา
การปฏิบัติตัวขณะฝังเข็ม
1. สงบกายและใจในขณะรักษา ขณะที่มีเข็มปักคาร่างกายนั้น ควรนั่งหรือนอนนิ่ง ไม่ควรขยับเคลื่อนไหวส่วนของร่างกายที่มีเข็มปักคาอยู่ ยกเว้นการขยับตัวเล็กๆน้อยๆ ยังสามารถทำได้ แต่ส่วนของร่างกายอื่นๆที่ไม่มีเข็มปักอยู่นั้น สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
2. ควรอยู่ในสภาพที่สงบ ผ่อนคลาย อาจหลับตาหรือหายใจเข้าออกช้าๆ ให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เพื่อช่วยทำให้จิตใจสงบสบาย
หลังจากการฝังเข็มสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีข้อห้ามใดๆ