วัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ประกอบด้วยไวรัส influenza A สองสายพันธุ์ คือ H3N2 และ H1N1 และไวรัส Influenza B หนึ่งสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่ใส่ในวัคซีนมีการเปลี่ยนใหม่ทุกปี ตามที่คาดการณ์ว่าสายพันธุ์ใดจะระบาดในปีนั้น ซึ่งองค์การอนามัยโลกเป็นผู้ประกาศ โดยประเมินจากไวรัสที่แยกได้จากผู้ป่วยในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีทั้งชนิดวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ และวัคซีนเชื้อตายทั้งสองชนิดเลี้ยงในไข่ไก่ฟัก แต่ปัจจุบันที่มีขายในประเทศไทยมีเพียงวัคซีนเชื้อตาย วัคซีนเชื้อเป็นที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมกำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยและ พัฒนา
1) วัคซีนเชื้อตาย เดิมประกอบด้วยอนุภาคไวรัสทั้งตัวที่หมดฤทธิ์ แต่ผลข้างเคียงสูง จึงเลิกผลิต วัคซีนเชื้อตายที่มีใช้ในปัจจุบัน มี 2 แบบ คือ
1.1) split vaccine ผลิตโดยทำให้อนุภาคไวรัสแตกโดยละลายไขมันที่เปลือกหุ้มออก เหลือแต่ส่วนโปรตีนที่เปลือก (H, N) และโปรตีนส่วนอื่นๆของไวรัส ที่มีขายในไทยได้แก่ Fluarix®, Fluzone® และ Vaxigrip®
1.2) subunit vaccine มีแต่โปรตีนที่ผิว (H, N) ที่แยกให้บริสุทธิ์ บางบริษัทผสมสารเสริมฤทธิ์ ช่วยให้สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ที่มีขายในไทยได้แก่ Agrippal S1®, Fluad® และ Influvac®
วัคซีนเชื้อตาย ทำเป็นรูปยาน้ำขนาดบรรจุ 0.5 มล. หรือ 0.25 มล. (1 โด๊ส) ในกระบอกฉีดยา (prefilled syringe) หรือ บรรจุ 5 มล.(10 โด๊ส) ในขวดแก้ว (vial) แล้วแต่บริษัท
วัคซีนเชื้อตาย ให้ได้ทุกวัยตั้งแต่อายุ 6 เดือนเป็นต้นไป รวมทั้งคนในกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหากติดเชื้อ ตลอดจนบุคคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ต้องดูแลคนกลุ่มเสี่ยง
2) วัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ได้จากการเลี้ยงไวรัสที่ก่อโรครวมกับไวรัสอ่อนฤทธิ์ที่เจริญได้ดีที่ อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เกิดการแลกเปลี่ยนยีน ได้ไวรัสอ่อนฤทธิ์ที่มีโปรตีน H และ N เหมือนไวรัสที่ก่อโรค เป็นรูปยาน้ำขนาดบรรจุ 0.2 มล.(1โด๊ส) ในหลอดสำหรับพ่นจมูกที่มีตัวควบคุมปริมาณยาให้พ่นได้ทีละ 0.1 มล.
ผู้ที่รับวัคซีนเชื้อเป็นได้คือผู้ที่อายุ 2 ถึง 49 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ ผู้ที่ดูแลคนในกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งคนที่ทำงานในหอบริบาลพิเศษสำหรับทารกแรกเกิด หอผู้ป่วยโรคมะเร็ง หอผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ก็รับวัคซีนเชื้อเป็นได้
ขนาดและการบริหารวัคซีน
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ หรือโดยการรับวัคซีนทั้งสองชนิดจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี และสายพันธุ์ที่ระบาดแต่ละปีก็แตกต่างกันไป จึงต้องรับวัคซีนทุกปี ปีละ 1 ครั้งในช่วงก่อนเข้าฤดูระบาด สำหรับประเทศไทยแนะนำให้รับวัคซีนก่อนเข้าฤดูฝน คือในราวปลายเมษายน ถึงต้นพฤษภาคม ผู้ที่เคยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มานานเกิน 1 ปีแล้ว ก็ควรรับวัคซีนในปีถัดไปอีก
วัคซีนเชื้อตาย ให้โดยวิธีฉีดเข้ากล้าม 0.5 มล. เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ รับเพียง 0.25 มล.
คนแก่ที่อายุ 65 ปีเป็นต้นไป ควรรับ Fluad ® ซึ่งใส่สารเสริมฤทธิ์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงพอที่จะการป้องกันโรคได้ วัคซีนเชื้อเป็นให้โดยวิธีพ่นเข้าจมูก 2 ทั้งข้าง ๆละ 0.1 มล.
เด็กอายุไม่เกิน 8 ปี ที่ยังไม่เคยรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ขนิดใดมาก่อนเลย ในปีแรกต้องรับวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน ปีต่อไปรับเพียงครั้งเดียว
ประสิทธิภาพของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ภายหลังรับวัคซีน 2-3 สัปดาห์ จะเริ่มมีภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี) สูงพอที่จะป้องกันโรคได้ ซึ่งจะมีระดับสูงสุดในระยะ 2-4 เดือนและป้องกันโรคได้นานเพียง 6-12 เดือนหลังรับวัคซีน การทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในเด็กอายุ 5-6 ปีที่มีสุขภาพดี วัคซีนชนิดพ่นจมูกป้องกันโรคได้ประมาณ 87% และ วัคซีนเชื้อตายป้องกันโรคได้ 70-90%
อย่างไรก็ดีไวรัสก่อโรคในบ้านเราแต่ละปี มีความแตกต่างกับไวรัสที่ใช้ทำวัคซีนบ้าง ดังนั้นประสิทธิภาพในการป้องกันโรคอาจจะไม่สูงมากนัก ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดโรคได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง เพราะภูมิคุ้มกันจากการรับวัคซีนยังป้องกันได้บ้าง การศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อตายในกลุ่มผู้สูงอายุไทยใน เขตเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2550 พบว่ามีผู้ติดเชื้อร้อยละ 8.9 ในกลุ่มผู้ที่รับวัคซีน ส่วนกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนมีผู้ติดเชื้อร้อยละ 16.9
ผลข้างเคียง
วัคซีนทั้งสองชนิดมีผลข้างเคียงน้อย สำหรับผู้ที่รับวัคซีนเชื้อตาย ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มากกว่าร้อยละ 10) คือ อาการปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีดประมาณ 1 ถึง 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอาการง่วงนอน เบื่ออาหาร วัคซีนเชื้อตายที่มีสารเสริมฤทธิ์ พบผลข้างเคียงมากว่าชนิดที่ไม่มีสารเสริมฤทธิ์
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มากกว่าร้อยละ 10) สำหรับผู้ที่รับวัคซีนเชื้อเป็น ได้แก่ คัดจมูก น้ำมูกไหล พบได้ทุกช่วงอายุ ส่วนอาการไข้สูง พบในกลุ่มเด็กอายุ 2-6 ปี อาการเจ็บคอพบในผู้ใหญ่
ข้อห้ามใช้
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่มีในท้องตลาดทุกยี่ห้อ เลี้ยงไวรัสในไข่ไก่ฟัก ดังนั้นผู้ที่แพ้ไข่ หรือผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง ไม่ควรรับวัคซีน อาการแพ้อย่างรุนแรง ได้แก่ อาการหน้าซีด หัวใจเต้นเร็ว มึนงง หลอดลมตีบทำให้หายใจลำบากมีเสียงดังวิ๊ดๆ
2. เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี คนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป คนท้อง ตลอดจนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเมื่อติดเชื้อ ห้ามรับวัคซีนเชื้อเป็น
3. บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลคนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก ๆ จนต้องอยู่ในเขตปลอดเชื้อ เช่นคนไข้ที่อยู่ระหว่างการปลูกถ่ายไขกระดูก ห้ามรับวัคซีนเชื้อเป็น
4. ผู้ที่แพ้อากาศและมีอาการแน่นจมูกหายใจไม่ออก แนะนำให้รับวัคซีนเชื้อตายแทน
5. หากกำลังอยู่ในระหว่างเจ็บป่วย เช่นมีไข้สูง ควรเลื่อนการรับวัคซีน รอจนแข็งแรงก่อน แต่หากเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่นแพ้อากาศ ผื่นคัน เป็นหวัดหรือเจ็บคอมีไข้ต่ำๆ รับวัคซีนเชื้อตายได้
เรียบเรียงโดย ภญ.ผศ.ดร.สุนีย์ เตชะอาภรณ์กุล
บรรณานุกรม
1. ฐิติพงษ์ ยิ่งยง สำนักระบาดวิทยา. สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค 2552. Available from:URL: http://epid.moph.go.th/Annual/Total_Annual.html
2. Centers for Disease Control and Prevention. Prevention and Control of Seasonal Influenza with Vaccines: Recommendations of the Advisory Committee on Immunization Practices (ACIP). MMWR 2010;59(RR-8):1-68.
3. Flumist (Package insert). Med Immune. Gaithersburg(MD). 2011. Available from:URL: http://www.fda.gov/downloads/BiologicsBloodVaccines/Vaccines/ApprovedProducts/UCM123743.pdf.
4. Fluzone (Package insert). Swiftwater (PA). 2011. Available from:URL: http://www.fda.gov/downloads/BiologicsBloodVaccines/Vaccines/ApprovedProducts/UCM195479.pdf
5. Usa Panichprathompong. AFRIM Clinical Trial Center Zmujme. Influenza in Thai senior citizen. Thailand Human Influenza Research Meeting Summary. 11-12 October 2007