อาการธรรมดาต่างๆ ที่ท่านอาจจะพบในระหว่างตั้งครรภ์
1.อาการแพ้ท้องพบได้เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ท่านไม่ต้องวิตก วิธีแก้ไขง่ายๆ คือ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างแพทย์อาจให้ยาแก้แพ้ ซึ่งไม่มีอันตรายในกรณีที่ท่านมีอาการมาก
2.อาการแน่นท้องและท้องอืด เกิดจากการย่อยอาหารไม่ดี กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนไหวน้อยลงท่านควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น ของดอง ถั่ว น้ำอัดลม ควรออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินเล่น ระวังอย่าให้ท้องผูก โดยดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ให้มาก
3.อาการปวดศีรษะและวิงเวียน แก้ไขโดยการพักผ่อนให้เพียงพอและไม่ควรอยู่ในที่ๆ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ที่มีคนหนาแน่น
4.อาการปวดหลังและเป็นตะคริว แก้ไขโดยการพักผ่อน ไม่ควรยืนนานๆ ยกของหนักหรือใส่รองเท้าส้นสูง ถ้าเป็นตะคริวควรใช้ขี้ผึ้งร้อนๆทาถูนวดจะบรรเทาอาการปวดได้
5.ตกขาว ถ้ามีลักษณะใสๆ หรือเป็นมูก เป็นอาการปกติ แต่ถ้ามีตกขาว ปนเลือดหรือมีกลิ่น หรือมีอาการคัน ควรให้แพทย์ตรวจ
6.ริดสีดวงทวาร พบได้เสมอในระหว่างตั้งครรภ์ ควรระวังอย่าให้ท้องผูก โดยทั่วไปริดสีดวงทวารจะหายไปเองหลังคลอดประมาณ 4-5 สัปดาห์
7.เส้นเลือดขอด เกิดจากการไหลเวียนของเลือดช้า ไม่ควรยืนหรือนั่งห้อยเท้านานๆ เวลานอนยกเท้าให้สูง ถ้าปวดมากควรปรึกษาแพทย์
8.ท้องลายหรือหน้าอกลาย เป็นอาการปกติ ป้องกันและรักษาไม่ได้ แต่ถ้าท่านใช้ครีมทาตัวหรือน้ำมันมะกอกบ่อยๆ จะป้องกันไม่ให้คัน
9.อาการบวม ถ้าปวดเล็กน้อยบริเวณข้อเท้าเป็นอาการปกติ พบได้เสมอในระยะใกล้คลอด การนอนพักและยกเท่าให้สูงจะทำให้อาการบวมลดลง
10.นอนไม่หลับโดยเฉพาะเวลาใกล้คลอด เนื่องจากความอึดอัด เกิดจากมดลูกโตมาก หายใจไม่สะดวก แก้ได้โดยการหนุนศีรษะให้สูง
11.การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ท่านอาจจะหงุดหงิดมาก นอนไม่หลับ ร้องไห้ง่าย พยายามทำใจให้สบาย อย่าปล่อยให้มีเวลาว่างมาก เพื่อผู้ที่อยู่ใกล้ชิด เช่น สามีจะได้มีความรู้สึกสบายใจด้วย และข้อสำคัญคือบุตร เมื่อคลอดออกมาจะได้มีความรู้สึกอบอุ่น
อาการผิดปกติ ที่ท่านควรจะไปพบแพทย์ก่อนกำหนดนัดหมาย
-แพ้ท้องอย่างมาก จนรับประทานอาหารไม่ได้
-แน่นท้องหรืออึดอัดมาก
-ปวดศีรษะหรือวิงเวียนบ่อยๆ
-น้ำหนักเพิ่มเร็ว จนมีอาการบวมที่หน้าและมือ
-เป็นไข้หรือหนาวสั่น
-เด็กไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อยลง
-ปัสสาวะแสบและบ่อยเกินไป
-มีเลือดออกหรือมีตกขาว มีกลิ่นและคัน
อาการผิดปกติที่ท่านจะต้องไปโรงพยาบาลทันที
-มีเลือดออกมาทางช่องคลอด ไม่ว่าจะเจ็บท้องหรือไม่ก็ตาม
-มีอาการปวดท้องอย่างมากไม่ทราบสาเหตุ
-ถุงน้ำคร่ำแตกมีน้ำเดินมก แม้ว่าจะไม่เจ็บท้อง
-มีอาการบวมอย่างมาก ปวดหัว ตามัว หรือมีอาการชัก
เมื่อท่านปวดท้องคลอด
อาการเจ็บท้องคลอด คือ การเจ็บท้องเป็นระยะและสม่ำเสมอโดยครั้งแรกจะนานๆ ครั้ง ต่อมาการเจ็บจะถี่ขึ้น โดยทั่วไปในท้องแรกท่านควรจะไปโรงพยาบาลเมื่อเจ็บทุก 5-10 นาที เป็นอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ท่านไม่ควรจะตกใจเมื่อเริ่มเจ็บท้อง สำหรับท้องหลังอาจมีการดำเนินการคลอดเร็วกว่าท้องแรก ดังนั้นเมื่อแน่ใจว่าเป็นเจ็บท้องคลอดให้รีบไปโรงพยาบาลได้เลย ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย เช่น บ้านไกล การจราจรติดขัดก็ควรจะไปให้เร็วกว่านี้
ข้อมูลโดย รพ.วิภาวดี