ในปัจจุบัน การดูแลรักษาผู้ป่วยสูงวัยนั้นเป็นปัญหาเชิงระบบในด้านสาธารณสุขที่พบบ่อยทั่วโลก ส่วนใหญ่การรักษาผู้ป่วยสูงวัยนั้นมักจำแนกไปเฉพาะโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องไปตามนัดหมายต่างๆ ถี่ๆ ซ้ำๆ จนสับสน ยุ่งยาก เปลืองเวลา และมีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งแพทย์ยังมีเวลาให้แก่ผู้ป่วยค่อนข้างจำกัด จึงมุ่งเน้นรักษาเฉพาะส่วนเท่านั้น ส่งผลให้การวางเป้าหมายของการรักษาแบบองค์รวมที่เหมาะสมในผู้ป่วยสูงวัยแต่ละรายนั้นทำได้ยากลำบาก และอาจลดคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยสูงวัยลงได้ เพราะจำเป็นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล แทนที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับครอบครัวอย่างมีความสุขและอบอุ่นที่บ้าน
พันธกิจหลัก 3 ด้าน
ภาระกิจสำคัญของต้นแบบศูนย์เรียนรู้และโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) มุ่งเป้าเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้สูงวัยไทย ผ่านพันธกิจหลัก 3 ด้าน ดังนี้
1️. ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Ramathibodi Elderly Care and Hospice หรือ ECH) เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ วิจัย พัฒนานวัตกรรม และแหล่งฝึกอบรม (Research and Training Center) แก่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป รวมถึงให้การบริการด้านสุขภาพแก่ผู้สูงวัยด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ครอบคลุมทั้งคลินิกผู้ป่วยนอก (Outpatient Clinic), งานบริบาลผู้ป่วยระยะฟื้นฟูและกายภาพบำบัด (Intermediate Care and Rehabilitation), งานบริบาลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้าย (Palliative Care and Hospice) และอื่นๆ
2️. โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Housing) เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นมิตรกับผู้สูงวัยที่มีสุขภาพแข็งแรงและพึ่งพาตนเองได้ดี (Active aging) และใกล้กับสถานบริการด้านสุขภาพทั้งศูนย์ ECH และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ โครงการนี้เป็นการเช่าซื้อสิทธิการพักอาศัยระยะยาว 30 ปี บริหารงานโดยบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส)
3️. สถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี (Ramathibodi Nursing Home) ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่มีภาวะพึ่งพา มีโรคซับซ้อน ช่วยเหลือตนเองได้น้อยหรือไม่ได้เลย (Partial or Total Dependence) ซึ่งจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจากทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ผู้สูงวัย (Geriatric Medicine) และการดูแลแบบประคับประคองในระยะท้าย (Palliative Care and Hospice)
1.ศูนย์ ECH - ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Ramathibodi Elderly Care and Hospice) LINK
ศูนย์ ECH และการบริการ
ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Ramathibodi Elderly Care and Hospice หรือ ศูนย์ ECH ) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี นั้น มุ่งเน้นพัฒนาสร้างต้นแบบและยกระดับมาตรฐานการให้บริการสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Patient-Centered Care) เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แก่ผู้ป่วยสูงวัยไทย โดยทีมแพทย์จะร่วมกันดูแล วางเป้าหมายและแผนของการรักษาให้เหมาะสมแก่ผู้ป่วยสูงวัยแต่ละรายไป
ศูนย์ ECH นั้นจะให้การบริการสุขภาพแบบครบวงจรทั้งในระบบผู้ป่วยนอก (OPD), ผู้ป่วยใน (IPD), และศูนย์กิจกรรมและดูแลผู้ป่วยสูงวัยเฉพาะช่วงกลางวันแบบเช้าไป-เย็นกลับ (Day Care Center) มุ่งเน้นการวางแผนการให้บริการสุขภาพแก่ผู้ป่วยสูงวัยไทยแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสหสาขา ได้แก่ อายุรศาสตร์ผู้สูงวัย เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด โรคสมองเสื่อม โภชนบำบัด และการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบประคับประคองและระยะท้าย เป็นต้น ซึ่งการให้บริการของศูนย์ ECH นี้จะครอบคลุมการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงวัยทั้งในด้านกายและใจ เริ่มตั้งแต่การสร้างเสริมฟื้นฟูสุขภาพ การป้องกันโรค การป้องกันภาวะแทรกซ้อนและภาวะพึ่งพา การวางแผนการดูแลรักษาล่วงหน้า จนถึงการบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายและการจากลาอย่างสงบสุข
นอกจากการให้บริการด้านสุขภาพแล้ว ศูนย์ ECH นั้นยังมีพันธกิจหลักอีก 2 ด้าน ได้แก่
1) ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Research and Development) ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล เพื่อนำผลงานศึกษาวิจัยและนวัตกรรมนั้นๆ ไปเผยแพร่และประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับบริบททั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
2) ศูนย์เรียนรู้และฝึกอบรม (Education and Training Center) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านอายุรศาสตร์ผู้สูงวัย การดูแลแบบประคับประคองและระยะท้ายแก่แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ดูแลผู้สูงวัย และประชาชนทั่วไป มุ่งหวังเพื่อเพิ่มวิทยฐานะ สร้างงาน สร้างอาชีพ และช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงวัยไทยแบบองค์รวมให้ทันสมัยและทัดเทียมนานาอารยะประเทศต่อไป
แผนผังกลุ่มอาคารศูนย์ ECH
1.อาคารต้อนรับส่วนกลาง
2.อาคารผู้ป่วยนอก
คลินิกผู้สูงอายุ
คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด
ศูนย์ดูแลผู้สูงวัยเฉพาะช่วงกลางวัน
3.อาคารผู้ป่วยใน
การบริบาลผู้ป่วยระยะฟื้นฟูและกาย ภาพบำามัด
การบริบาลผู้ป่วยสมองเสื่อม
การบริบาลผู้ป่วยแบบประดับประคอง
4.อาคารผู้ป่วยระยะท้าย
5.ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมและหอพักบุคลากร
6.ศาลาปฏิบัติธรรม
7.อาคารโภชนาการและโรงอาหาร
8.ศาลาพิธีศพ
2.โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Housing) LINK
โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Housing) เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นมิตรกับผู้สูงวัยที่มีสุขภาพแข็งแรงและพึ่งพาตนเองได้ดี (Active aging) และใกล้กับสถานบริการด้านสุขภาพทั้งศูนย์ ECH และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ โครงการนี้เป็นการเช่าสิทธิการพักอาศัยระยะยาว 30 ปี บริหารงานโดยบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส)
รูปแบบโครงการ
ดำเนินการออกแบบโครงการฯ ภายใต้หลักสถาปัตยกรรมเพื่อทุกคน (Universal Design Architecture) ซึ่งคำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมธนารักษ์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยโครงการฯ ระยะที่ 1 มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 921 ห้อง พื้นที่ใช้สอย 31.71 ตารางเมตร – 49.66 ตารางเมตร ต่อห้อง เป็นอาคาร 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร พร้อมห้องพยาบาลประจำตึก พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จัดกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ สระว่ายน้ำ อาคาร Club House ห้องฟิตเนส เป็นต้น
ขนาดห้องชุด และระดับราคา
ผู้สูงอายุต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าพักอาศัย โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายประกอบด้วย
1) ค่าเช่าสิทธิห้องพักจาก ธพส.ซึ่งมี 7 ระดับราคา ตั้งแต่ ราคา 1,820,000 บาท (Type 1-1A ขนาดห้อง 31.71 ตร.ม.) ไปจนถึง ราคา 3,051,000 บาท (Type 2-5 ขนาดห้อง 49.06 ตร.ม.)
2) ค่าใช้จ่ายส่วนกลางในการดูแลรักษาอาคารเริ่มต้น ประมาณเดือนละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) ชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 3 ปี
3) ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเดือนละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) ต่อท่าน ชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 1 ปี
4) ผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน หรือ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ในลักษณะเงินฝากประจำ (Escrow Account) จำนวนเงิน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้เป็นทุนสำรองในการดำรงชีพขณะอยู่ในโครงการฯเท่านั้น และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารโครงการฯ ในการถอนหรือปิดบัญชี
5) ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ชำระตามจริง) ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ ธพส.และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโครงการฯโดยสงวนสิทธิในการปรับปรุงค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
3.สถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี (Ramathibodi Nursing Home)
สถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี (Ramathibodi Nursing Home) จะเป็นสถานบริบาลผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะพึ่งพา ตั้งแต่ผู้สูงอายุยังพอที่จะช่วยเหลือตนเองได้บ้างจนเข้าสู่ภาวะติดเตียงและเจ็บป่วยในระยะสุดท้าย ด้วยการบริบาลที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล และสอดคล้องกับความต้องการของสังคมไทย รองรับผู้สูงอายุที่พักอาศัยในโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์ และประชาชนทั่วไปในราคาที่จับต้องได้
ด้านการบริการ จะเป็นการบริบาลที่ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มที่มีโรคน้อยและช่วยเหลือตนเองได้ดี (Active aging and independence) กลุ่มที่มีโรคมากเปราะบางและมีภาวะพึ่งพา (Frail and partial dependence) กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลยและมีภาวะติดเตียง (Immobility and total dependence) ไปจนถึงกลุ่มที่เจ็บป่วยในระยะสุดท้าย และ/หรือใกล้เสียชีวิต(End of life and hospice)
ทั้งนี้ มุ่งเป้าเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้สูงอายุไทยให้ได้ตระหนักรู้ มีส่วนร่วมในการวางแผน และกำหนดเป้าหมายสำคัญในชีวิตของตนเองไว้ล่วงหน้า ให้มีหลักประกันที่มั่นคงในการบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรและที่พักพิง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (Best possible quality of life) ในยามบั้นปลายของชีวิต
สถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดีแห่งนี้ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกับภาคเอกชน พัฒนาเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อหวังให้เป็นต้นแบบของสถานบริบาลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพา ที่มีการบริบาลที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ทัดเทียมนานาอารยะประเทศ และสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย ในทุกสถานะสุขภาพ (Health status) ของผู้ป่วยสูงอายุไทย
คาดว่า สถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี จะเปิดให้บริการในปี 2568