ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ เผยแพร่ข้อเขียนผ่าน
เพจของท่าน ไว้ดังนี้
คงเป็นเรื่องน่าเศร้ามากนะครับ ถ้าวันหนึ่ง ... คนที่เรารักหรือคนในครอบครัวของเรา ต้องจากกันไปด้วยโรคที่ป้องกันได้
แม้ว่าไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19” จะเป็นเชื้อโรคที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง แต่ “ไวรัสไข้หวัดใหญ่” ก็เป็นเชื้อไวรัสที่เราจะไว้ใจและประมาทไม่ได้เช่นกันนะครับ
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ถึงจะไม่ก่อโรคที่รุนแรง ถึงขั้นทำให้ประชากรโลกนับล้านๆ คน ต้องเสียชีวิตลงอย่างในอดีตที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่ยังก็เป็นตัวก่อโรคที่อันตราย โดยเฉพาะกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง
มีร่างกายที่อ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัว ที่เราเรียกประชากรกลุ่มนี้ว่า “กลุ่มเสี่ยง” ที่มีความอ่อนไหวต่อเชื้อโรคต่างๆ
ข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–13 พฤษภาคม 2566 มีรายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวน 47,783 ราย อัตราป่วยที่ 72.21 ต่อประชากรแสนคนในจำนวนนี้ มีผู้เจ็บป่วยด้วยภาวะอาการที่รุนแรง สะท้อนให้เห็นว่าความน่ากลัวของไวรัสไข้หวัดใหญ่ยังมีอยู่ และองค์การอนามัยโลก ยังติดตามเฝ้าระวังเชื้อไข้หวัดใหญ่ ต่อเนื่องทุกปี
ดังนั้นการฉีด “วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่” จึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับ “กลุ่มเสี่ยง” แล้วก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้จริงๆ
วันนี้ผมจึงมาย้ำเตือนอีกครั้งครับ ฝากไปยังประชากรกลุ่มเสี่ยงให้ตระหนักต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และรับเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว โดยในช่วงนี้เป็นระยะของการแพร่ระบาดที่ไวรัสแพร่กระจาย ที่มีโอกาสรับเชื้อได้ง่าย
7 กลุ่มเสี่ยงต้องรีบรับการฉีดวัคซีน
กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีสิทธิประโยชน์ “บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่” ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลและให้บริการกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโดยเฉพาะ และในปี 2566 นี้ ได้เริ่มให้บริการแล้ว ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมดลง
ใครที่รู้ว่าตนเองเป็นประชากรที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม หรือมีคนที่เรารัก หรือคนในครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สิทธิประโยชน์กองทุนบัตรทองได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จะได้มีภูมิคุ้นกันทีช่วยลดความรุนแรงของอาการ ภาวะเทรกซ้อน และเสียชีวิตได้
ย้ำนะครับว่า อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไปอาจเพียงแค่มีไข้ ไอ จาม ที่หายป่วยเองได้ แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะไม่เป็นแบบนั้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว
โดยสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองทั่วประเทศ เฉพาะใน กทม. สามารถจองสิทธิฉีดวัคซีนฯ ได้ผ่าน แอป “เป๋าตัง” สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกสามารถติดต่อสอบถามที่หน่วยบริการโดยตรง
ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยกลุ่มเสี่ยงทุกคน มีภูมิคุ้มกันป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ครับ
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่
1)หญิงตั้งครรภ์ : อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
2) เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
3) ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
4) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
5) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
6) โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
7) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ กรณีหญิงตั้งครรภ์นั้นมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้บริการตลอดทั้งปี
กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิ รับบริการได้หมด
ช่วงท้ายนี้ ... ผมมีข่าวดีมาแจ้งเพิ่มเติมด้วยนะครับ ตามที่ก่อนหน้านี้ที่มีการท้วงติงทางข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ครอบคลุมการดูแลคนไทยทุกคนทุกสิทธิการรักษาพยาบาล ทำให้ต้องมีการชะลอการให้บริการในส่วนของผู้ไม่ใช่สิทธิบัตรทองออกไปก่อน แต่ด้วยความห่วงใยของกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ที่ร่วมกันหาทางออก ทำให้วันนี้คนไทยทุกคนที่เป็น “กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาพยาบาล” เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้แล้วครับ
อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ-หมอเอก
10 มิถุนายน 2566