ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สธ.ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบ 1,855 แห่ง ปี 2567

สธ.ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบ 1,855 แห่ง ปี 2567 Thumb HealthServ.net
สธ.ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบ 1,855 แห่ง ปี 2567 ThumbMobile HealthServ.net

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย หน่วยงานในสังกัดติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้ว 508 แห่ง รวม 47,053 กิโลวัตต์ ประหยัดค่าไฟ 243 ล้านบาทต่อปี ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 26,775 tonCO2/ปี เตรียมประกาศนโยบาย SECA ปี 2567 เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ครบ 1,855 แห่ง ลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 20 เริ่มใช้รถพลังงานไฟฟ้า ปรับปรุงอาคารเป็นแบบอนุรักษ์พลังงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียวร้อยละ 25 ของพื้นที่ว่าง เน้นการแพทย์ทางไกล ลดจำนวนผู้ป่วยนอก และเพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำเสียและขยะมูลฝอย


 
         31 สิงหาคม 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศนโยบาย Smart Energy and Climate Action (SECA) : พลังงานอัจฉริยะและการดำเนินการที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศอันเป็นสาเหตุของโลกร้อน


        โดยในปี 2566 กำหนดให้ทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหน่วยงานบริหาร คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และหน่วยบริการ คือ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน รวม 1,855 แห่ง ติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้แล้วเสร็จ ซึ่งประมาณการว่าจะประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 904,353,667.20 บาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 99,458.49 tonCo2/ปี จนถึงขณะนี้มีหน่วยงานดำเนินการเรื่องโซลาร์เซลล์แล้ว 1,261 แห่ง ครอบคลุม 75 จังหวัด ยังเหลืออีก 1 จังหวัด ในจำนวนนี้ ติดตั้งสำเร็จแล้ว 508 แห่ง กำลังผลิตรวม 47,053 กิโลวัตต์ สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 243,462,221.16 บาท/ปี และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 26,775.35 tonCo2/ปี 

 
สธ.ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบ 1,855 แห่ง ปี 2567 HealthServ

 
          นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับแผนการขับเคลื่อนในปี 2567 กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ดังนี้

           1.การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้ครบทุกแห่งตามแผนงานที่กำหนด โดยโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 1,000 กิโลวัตต์ โรงพยาบาลทั่วไป 500 กิโลวัตต์ โรงพยาบาลชุมชนและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 100 กิโลวัตต์ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 10 กิโลวัตต์ ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 124,093.80 tonCO2/ปี

           2.ทุกหน่วยงานมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 20

           3.เริ่มมีการใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าทดแทนของเดิมและสถานีชาร์จไฟฟ้า ด้วยเงินนอกงบประมาณ / เงินบำรุง / เงินบริจาค โดยตั้งเป้าหมายให้มีการใช้ทุกแห่งใน 10 ปี

 
           4.อาคารอนุรักษ์พลังงาน โดยปรับปรุงอาคารเดิมตามหลักเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยสำหรับอาคารระหว่างใช้งาน ส่วนการออกแบบอาคารใหม่ ให้จัดทำแบบหรือคัดเลือกแบบตามความต้องการใช้งาน โดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยสำหรับก่อสร้างใหม่ ขณะที่ Master Plan โรงพยาบาล ให้ทบทวนปรับปรุงแบบ โดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในตัวอาคารหรือภายนอกอาคาร

           5.การเพิ่มพื้นที่สีเขียวร้อยละ 25 ของพื้นที่ว่าง ภายใต้แนวคิดการจัดสวนเพื่อการเยียวยา/บำบัดรักษา และการจัดสวนทั่วไป

           6.เพิ่มศักยภาพการให้บริการ ลดการเดินทางและเพิ่มขีดความสามารถบริการใกล้บ้าน โดยจัดทำแนวทางการดูแลผู้ป่วยผ่านระบบการแพทย์ทางไกลในกลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่คุมอาการได้ รวมถึงปัญหาทางจิตเวช ตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลศูนย์ / โรงพยาบาลทั่วไป ลงร้อยละ 10 หรือ 1.6 ล้านครั้งต่อปี

           7.การจัดการมูลฝอยและน้ำเสียด้วยหลัก 3R : Reduce Reuse Recycle โดยการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำน้ำที่ผ่านการบำบัดมาใช้ประโยชน์ และลดปริมาณขยะมูลฝอยได้ร้อยละ 30 



 
          "กระทรวงสาธารณสุข จะรณรงค์ขับเคลื่อนนโยบาย SECA ไปสู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยจะตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงานติดตามกำกับและขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ และคัดเลือกหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นระดับจังหวัด ระดับเขตสุขภาพ และระดับประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆ ได้นำไปขยายผลต่อไป" นพ.โอภาสกล่าว 
สธ.ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบ 1,855 แห่ง ปี 2567 HealthServ

 กรมอนามัย จับมือการไฟฟ้านครหลวง สร้าง Solar Rooftop เสริมอาคารประหยัดพลังงาน

 
        31 สิงหาคม 2566 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยเรื่อง การประหยัดพลังงานไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกฯ กับนายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า จากสถานการณ์การใช้พลังงานของประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งความต้องการใช้พลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภาระหนักของประเทศในการใช้งบประมาณเพื่อจัดหาพลังงานให้มีใช้ได้อย่างเพียงพอ รัฐบาลจึงกำหนดให้การประหยัดพลังงานเป็นวาระสำคัญของชาติ รวมทั้งเป็นวาระสำคัญต่อการพัฒนาประเทศที่มุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ โดยการนำพลังงานสะอาด (Green Energy) มาใช้ทดแทนอีกด้วย จึงกำหนดให้มีนโยบายด้านพลังงานของประเทศ ผ่านกลยุทธ์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้มาตรการด้านบริหาร ด้านสังคม และด้านกฎหมาย เพื่อกำกับ ดูแล และส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด รวมทั้งส่งเสริมให้หน่วยงานราชการลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20
 
        “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยเรื่อง การประหยัดพลังงานไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกฯ เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาครัฐวิสาหกิจ โดยมีสาระสำคัญ คือ 1) เพื่อส่งเสริม สนุบสนุน และให้ความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้านครหลวงและกรมอนามัย ให้พัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อต่อสู้ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบที่เกิดขึ้น 2) สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีและพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบด้านบริการจัดการพลังานอย่างครบวงจร และ 3) สร้างการยอมรับและไว้วางใจระหว่างการไฟฟ้านครหลวงและกรมอนามัย พร้อมทั้งติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) อุปกรณ์ประหยัดพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือกฯ  เพื่อให้กรมอนามัยเป็นหน่วยงานที่นำพลังงานทางเลือกมาใช้ทดแทน ลดการใช้พลังงาน สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ช่วยประเทศประหยัดพลังงาน ประหยัดงบประมาณ หวังสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพประชาชน คาดในอนาคตจะมีการขยายรูปแบบการประหยัดพลังงานอื่นร่วมด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด