ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แซงมะเร็งและโควิดไปแล้ว

ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แซงมะเร็งและโควิดไปแล้ว Thumb HealthServ.net
ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แซงมะเร็งและโควิดไปแล้ว ThumbMobile HealthServ.net

รายงานการสำรวจภาวะสุขภาพของโลก IPSOS GLOBAL HEALTH SERVICE MONITOR 2023 จัดทำโดยอิปซอสส์ (Ipsos) ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค เผยผลการสำรวจ ที่น่าสนใจ ที่สะท้อนภาวะความกังวลด้านสุขภาพของประชากรโลก (สำรวจใน 31 ประเทศ)


ประเด็นน่าจับตา

 
48% ของผู้ตอบแบบสำรวจ เชื่อว่าระบบสาธารณสุขในประเทศของพวกเขา อยู่ในระดับดี ขณะที่ 20% บอกว่าแย่ (poor)
 
62% กล่าวว่า ระบบสุขภาพในประเทศของพวกเขาเกินขีดความสามารถไปแล้ว (overstretched) คนฝรั่งเศสเชื่อว่าระบบสุขภาพของประเทศมีบุคคลากรไม่เพียงพอ
 
ปัญหาสุขภาพจิต ถูกมองว่าเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่ง  ในปี 2020 มีเพียง 26% เท่านั้นที่เคยกังวลต่อปัญหาสุขภาพจิต แต่ในปี 2023 นี้ กลับพุ่งขึ้นมากถึง 44% 
 
ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ในกลุ่มสตรี และพบในทุกวัยทุกช่วงอายุ 
 
ความเครียดเริ่มเป็นประเด็นที่ต้องจับตา 30% ระบุว่าเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศของพวกเขา เพิ่มจาก 26% ปีก่อน 
 
ความกังวลเรื่องโรคมะเร็งตกไปอยู่อันดับสอง พบว่ามีเพียง 40% ที่เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ ลดลงจาก 52% ในช่วงก่อนโควิดระบาด
 
 
 
ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แซงมะเร็งและโควิดไปแล้ว HealthServ
 
 
 
 

ปัญหาสุขภาพยอดฮิตทั่วโลก

 
จากผลการสำรวจในประชากร 31 ประเทศทั่วโลก ปัญหาสุขภาพจิตเป็นปัญหาด้านสุขภาพให้มีสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศแทบจะทุกประเทศ นับตั้งแต่เริ่มการสำรวจในปี 2561 (2018) ความกังวลเรื่องสุขภาพจิตได้เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ (pp) โดยมากกว่าสองในห้า (44%) ระบุว่า "กังวล" นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความเครียด (30% ระบุว่าเป็นปัญหา) ก็มีเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้อยู่อันดับที่สามตามหลังมะเร็ง (40%) ที่อยู่ในอันดับสอง
 
ในสวีเดนและชิลี ประชากรสองในสามรู้สึกว่าสุขภาพจิตเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศของตนเผชิญอยู่ ไม่ต่างจากใน แคนาดา สเปน และออสเตรเลีย ในห้าอันดับแรก
 
เมื่อพิจารณาข้อกังวลด้านสุขภาพอื่นๆ อินเดียมีความกังวลเกี่ยวกับโรคมะเร็งมากที่สุด (59%) ในขณะที่ชาวเกาหลีใต้มีความกังวลเกี่ยวกับความเครียดในระดับสูงสุด (44%) ในเม็กซิโก หกในสิบ (62%) กล่าวว่าโรคอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ รองลงมาในชิลีคือ 49%
 
เมื่อพิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิง เราพบว่าโดยรวมแล้วผู้ชายมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพจิตในประเทศของตนน้อยกว่าผู้หญิงอย่างมาก (38% เทียบกับ 50%) และเราเห็นรูปแบบที่คล้ายกันสำหรับโรคมะเร็งและความเครียด ผู้หญิงสี่สิบสองเปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับโรคมะเร็ง เทียบกับผู้ชาย 37% ผู้หญิง 33% เน้นย้ำถึงความเครียด ในขณะที่ผู้ชาย 27% บอกว่านี่คือปัญหา
 
 
 
 

ผู้คนทั่วโลกให้คะแนนระบบการรักษาพยาบาลของตนอย่างไร

 
ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับคุณภาพระบบการรักษาพยาบาลในประเทศของตน ยกเว้นสี่ประเทศจากทั้งหมด 31 ประเทศ ได้แก่ โปแลนด์ ฮังการี เปรู และบราซิล บรรยายถึงคุณภาพการรักษาพยาบาลที่พวกเขาได้รับว่าดีหรือดี
 
ชาวสิงคโปร์มีทัศนคติเชิงบวกต่อระบบการรักษาพยาบาลของตนมากที่สุด โดย 71% บอกว่าดีมาก/ดี สวิตเซอร์แลนด์เป็นอันดับสอง โดย 68% พอใจกับระดับการบริการที่พวกเขาได้รับ
 
ในด้านขีดความสามารถของระบบรักษาพยาบาล ส่วนใหญ่ใน 25 ประเทศกล่าวว่า "เกินไปแล้ว"  4 ใน 5 ของคนฝรั่งเศสและอังกฤษเชื่อแบบนั้น คนอังกฤษมองว่าระบบของพวกเขาทำงานหนักเกินไป  ขณะที่คนฝรั่งเศสเริ่มมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปี 2018 และฝรั่งเศสก็เป็นประเทศอันดับหนึ่ง ที่คนในประเทศเชื่อว่าไม่มีบุคลากรเพียงพอในระบบการรักษาพยาบาลของประเทศ
 
ประเทศเดียวที่ไม่คิดว่าระบบการรักษาพยาบาลของประเทศของตนเกินไปแต่อย่างใด คือโปแลนด์ โดยที่ 41% ไม่เห็นว่าเป็นปัญหา (เทียบกับ 27% ที่เห็นว่าเป็นปัญหา)
 
กระนั้น ผู้คนถึง 1 ใน 3 ของทั่วโลก ยังคิดว่าระบบการรักษาพยาบาลในประเทศของตนไม่ได้ให้การดูแลที่มีมาตรฐานเดียวกันสำหรับทุกคน คนใน 12 ประเทศที่รู้สึกแรงกับประเด็นนี้ ได้แก่ ฮังการี โปแลนด์ ชิลี โคลอมเบีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เปรู ไอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ เม็กซิโก บราซิล ตุรกี ซึ่งผู้คนมีแนวโน้มที่จะไม่พูดในกรณีนี้
 
 
 
ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แซงมะเร็งและโควิดไปแล้ว HealthServ
 
 
IPSOS GLOBAL HEALTH SERVICE MONITOR 2023
 

ระเบียบวิธีการสำรวจ
 
รายงานฉบับนี้เป็นผลจากการสำรวจใน 31 ประเทศที่จัดทำโดย Ipsos บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วโลก และในอินเดีย (แพลตฟอร์ม IndiaBus) ทำการสำรวจระหว่างวันศุกร์ 21 กรกฎาคม และวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566  
 
สำหรับการสำรวจนี้ Ipsos ได้สัมภาษณ์ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ผู้ใหญ่ 23,274 คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในอินเดีย อายุ 18-74 ปีในแคนาดา สาธารณรัฐไอร์แลนด์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ ตุรกี และสหรัฐอเมริกา อายุ 20-74 ในไทย อายุ 21-74 ในอินโดนีเซียและสิงคโปร์ และ อายุ 16-74 ในประเทศอื่นๆ ที่เหลือ
 
การสำรวจในกลุ่มตัวอย่างประมาณ 1,000 คนในประเทศออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร อิตาลี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สเปนและสหรัฐอเมริกา และประมาณ 500 รายในอาร์เจนตินา เบลเยียม ชิลี โคลัมเบีย ฮังการี อินโดนีเซีย ไอร์แลนด์ มาเลเซีย เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ เปรู โปแลนด์ แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ไทย และตุรกี
 
กลุ่มตัวอย่างในประเทศอินเดียมีจำนวนประมาณ 2,200 คน ในจำนวนนี้มีการสัมภาษณ์แบบเห็นหน้ากันประมาณ 1,800 คน และสัมภาษณ์ออนไลน์ 400 คน
 
กลุ่มตัวอย่างในอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ฮังการี อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ โปแลนด์ เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกาได้ตัวแทนของประชากรผู้ใหญ่ทั่วไปที่มีอายุต่ำกว่า 75 ปี
 
ตัวอย่างในบราซิล ชิลี โคลัมเบีย อินโดนีเซีย ไอร์แลนด์ มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ ไทย และตุรกี เป็นกลุ่มประชากรในเมืองมากกว่า มีการศึกษามากกว่า และ/หรือมีฐานะกว่าประชากรทั่วไป ผลการสำรวจที่ได้ถือว่าสะท้อนถึงมุมมองที่มี “ความเชื่อมโยง” ต่อทุกภาคส่วนของประชากรในแต่ละประเทศได้
 
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด