2 มกราคม 2567 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” (Drink Don’t Drive) ที่มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดการรับรู้ เกิดการเฝ้าระวังด้วย 3 ด่าน คือ ด่านตนเอง ด่านครอบครัว และด่านชุมชน การบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ทั้งการตรวจร้านค้า การห้ามจำหน่ายในสถานที่ห้ามจำหน่าย และการขายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีการตรวจวัด ซึ่งจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นผลให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุจากดื่มแล้วขับลดลง เกิดความสูญเสียน้อยลง แต่ยังมีเรื่องน่ากังวลที่พบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถจนบาดเจ็บ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งจะมีการสืบกลับไปยังร้านค้าที่จำหน่ายเพื่อดำเนินคดี
รายงานบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากรายงานการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน รายวันดังนี้
วันที่
31 ธันวาคม 2566 ข้อมูลสะสม 29-30 ธันวาคม 2566 พบจำนวนอุบัติเหตุรวม 724 ครั้ง บาดเจ็บรวม 739 ราย และเสียชีวิตรวม 71 ราย สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับรถเร็ว (36.74%) ดื่มแล้วขับ (22.79%) และตัดหน้ากระชั้นชิด (19.06%) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ (85.62%)
วันที่
1 มกราคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ 419 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 62 ราย บาดเจ็บ 422 ราย
รวม 4 วัน (29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567) สรุปเหตุการณ์ดังนี้
- เกิดอุบัติเหตุสะสม 1,570 ครั้ง
- มีผู้เสียชีวิต 190 ราย
- มีผู้บาดเจ็บ 1,574 ราย
- จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ กาญจนบุรี (57 ครั้ง)
- จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร (13 ราย)
- จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บ (Admit) สูงสุด คือ กาญจนบุรี (56 คน)
- สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจาก
การขับรถเร็วเกินกำหนด 37.52 %
ดื่มแล้วขับ 27.64 %
ทัศนวิสัยไม่ดี 17.13 %
- จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบมีผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มสุรา 339 คน คิดเป็นร้อยละ 13.28 ของผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด
เจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ดำเนินการเจาะเลือดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนและบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต หากผู้ขับขี่ไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ด้วยวิธีเป่าทางลมหายใจได้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566–1 มกราคม 2567 ได้มีการเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุตามการร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีที่ไม่สามารถเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจได้ ทั้งหมด 661 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 108 ราย พบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด 98 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 9 ราย
นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับเครือข่าย ด้านการแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ซึ่งมีการออกหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน 5,839 ครั้ง และในส่วนของโรงพยาบาลเตรียมความพร้อมบริการ 24 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยวิกฤต ฉุกเฉินเข้ารับการรักษาไม่เสียค่าใช้จ่ายใน 72 ชั่วโมงแรก และในช่วงนี้จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2567 เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาหรือสถานที่ท่องเที่ยว หลังจากการเฉลิมฉลองหรือท่องเที่ยวอาจมีความเหนื่อยล้า แนะนำให้มีการเตรียมความพร้อมของยานพาหนะ รวมถึงผู้ขับขี่ควรมีการเตรียมความพร้อมของร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ปฏิบัติตามกฎจราจร ขอให้สวมหมวกนิรภัย หรือคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้งที่มีการเดินทางทั้งใกล้และไกล เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เมื่อขับรถติดต่อกันเป็นเวลานานสามารถพักรถได้ที่จุดบริการประชาชน จุดพักรถตลอดเส้นทาง หากมีการดื่มสุราของมึนเมา หรือใช้ยาที่มีฤทธิ์ง่วงซึม ควรงดการขับขี่เด็ดขาด ตามนโยบาย “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” (Drink Don’t Drive) หากประชาชนพบผู้บาดเจ็บจากการจราจร หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่ 1669 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ขอขอบคุณและขอส่งกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับที่เสียสละเวลา มาทำงานในช่วงวันหยุดอย่างแข็งขัน