ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023

25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023 Thumb HealthServ.net
25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023 ThumbMobile HealthServ.net

สิ้นสุดการรอคอยและลุ้นหนักสำหรับการโหวตแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ประจำปี 2566 ที่เปิดให้คนไทยทั่วประเทศร่วมโหวตให้กับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ และบัดนี้ได้ประกาศผล 25 แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ประจำปีนี้แล้วดังนี้ ที่ใดเข้าวินบ้าง แล้วที่เราโหวตไปเข้าวินมั๊ย เช็คด่วน

25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023 HealthServ

25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023


*เปิดโหวต ช่วง 22 พ.ค. 10.00 น. - 18 มิ.ย. 2566 24.00 น. ทางเว็บไซต์ unseennewchapters.com


1. มหัศจรรย์น้ำตกหมอกเมืองไทย จ.เพชรบูรณ์ ภาคเหนือ

2. ความศิวิไลซ์…แห่งปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ภาคเหนือ

3. นมัสการพระใหญ่…ลมหายใจแห่งไดบุตสึ จ.ลำปาง ภาคเหนือ

4. ตระการตาแห่งสีสัน…มหัศจรรย์ทะเลโคม จ.ลำพูน ภาคเหนือ

5. ธรรม…ในถ้ำ จ.น่าน ภาคเหนือ [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]





10.มหาเจดีย์แห่งรัชสมัย…ความภาคภูมิใจแห่งบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภาคกลาง [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]


 


15. มหาศรัทธา…มหาอุโบสถตะเคียนทอง จ.มหาสารคาม ภาคอีสาน [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]





20. ผจญภัยเมืองบาดาล…พิสูจน์ตำนานพญานาคแห่งถ้ำน้ำเขาศิวะ จ.สระแก้ว ภาคตะวันออก [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]





25. ผจญภัยในตะรุเตา…ตามหาเงาราชาโจรสลัดเมืองไทย จ.สตูล ภาคใต้


            ผลออกมาแล้วอย่างนี้ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ ก็คือเตรียมตัวเดินทางยังไงล่ะ ออกเดินทางไปสัมผัสที่ใหม่ๆ เหล่านี้ได้แล้ว 

 
25 แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN NEW CHAPTERS แห่งใหม่ประจำปี 2023 HealthServ

1. มหัศจรรย์น้ำตกหมอกเมืองไทย จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคเหนือ

น้ำตกตาดใหญ่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
ถ้าแชมเปี้ยนน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยคือทีลอซู ตำแหน่งของน้ำตกที่สวยที่สุดของเมืองไทย จะต้องมีชื่อของน้ำตกตาดใหญ่เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิง เพราะนี่คือน้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นมุมอันซีนแห่งใหม่ของเมืองไทย กับทิวทัศน์น่าเหลือเชื่อของหุบเขาน้ำตกขนาดยักษ์ ที่เราสามารถมองเห็นภาพความมหัศจรรย์ของน้ำตกเหนือทะเลหมอก แต่ถ้าใครอยากสัมผัสน้ำตกแห่งนี้อย่างใกล้ชิด ก็สามารถใช้เส้นทางแอดเวนเจอร์ลัดเลาะจากป่าด้านบนสู่เบื้องล่างของน้ำตก รับรองประกันความชุ่มฉ่ำและความสวยงามระดับห้าดาว ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว คือ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม
 
ททท.สำนักงานพิษณุโลก เบอร์โทรศัพท์ 0 5525 2742-3 หรือ 0 5525 9907
 

2. ความศิวิไลซ์…แห่งปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ภาคเหนือ

พาสาน อ.เมือง จ.นครสวรรค์
แลนด์มาร์คแห่งใหม่บริเวณเกาะยม ด้วยดีไซน์สุดล้ำเหมือนหลุดออกมาจากโลกอนาคต ทำให้ “พาสาน” สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยชนิดไม่มีใครกล้าปฏิเสธ นี่คือสัญลักษณ์ของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมตลอดจนการส่งเสริมอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจในปากน้ำโพ เป็นมุมมองที่ทำให้จังหวัดแห่งนี้ ดูเป็นนครแห่งสวรรค์สมกับชื่ออย่างแท้จริง โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน และท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานนครสวรรค์ เบอร์โทรศัพท์ 0 5622 1811-2

3. นมัสการพระใหญ่…ลมหายใจแห่งไดบุตสึ จ.ลำปาง ภาคเหนือ

วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของลำปาง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมด้านพุทธศิลป์ที่งดงาม ตั้งอยู่บนยอดดอยพระฌาน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้มาสักการะองค์พระธาตุแล้ว ยังสามารถแวะชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า ก่อนที่จะไปแขวนกระดิ่งขอพรจากพระพุทธรูปไดบุตสึหรือหลวงพ่อโตจำลองพระพุทธรูปองค์ยักษ์ที่มีใบหน้าเข้มขลังค์ แถมยังมากไปด้วยพลังศรัทธาในฉบับของแดนอาทิตย์อุทัย สามารถเดินทางมาขอพรได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 0 5422 2214-5
 
 
 
 
 

4. ตระการตาแห่งสีสัน…มหัศจรรย์ทะเลโคม จ.ลำพูน ภาคเหนือ

 วัดพระธาตุหริภุญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน
วัดเก่าแก่ที่มีตำนานสืบเนื่องมากว่า 1,300 ปี มีศาสนสถานสำคัญมากมายภายในวัด ทั้งประตูโขง ราชสีห์คู่ วิหารหลวง องค์พระธาตุหริภุญชัย ปทุมวดีเจดีย์ หอระฆัง เขาพระสุเมรุจำลอง และยังเป็นวัดที่มีกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเทศกาลโคมแสนดวงเมืองลำพูน ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว จะได้มีโอกาสถวายโคมสีสวยแด่องค์พระธาตุหริภุญชัย ซึ่งเมื่อเรามองไปยังทะเลโคมนับแสนที่แขวนอยู่ จะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมากราบสักการะพระธาตุได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 0 5422 2214-5

5. ธรรม…ในถ้ำ จ.น่าน ภาคเหนือ [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]

 พุทธสถานถ้ำเชตวัน อ.นาน้อย จ.น่าน
ท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบของอำเภอนาน้อย สถานที่แห่งนี้คือบริเวณที่ “ครูบาน้อย” เกจิชื่อดัง เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำเป็นเวลาถึง 3 ปี ส่งผลให้พุทธสถานถ้ำเชตวัน กลายเป็นหมุดหมายของนักเดินทางสายบุญ ที่ต่างแวะเวียนกันมาค้นหาปริศนาธรรมในถ้ำ ทั้งศึกษาและปฏิบัติ หลายคนตั้งใจมาสักการะองค์พระธาตุอินแขวน รวมถึงขอพรจากพระเจ้าทันใจ โดยสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานน่าน เบอร์โทรศัพท์ 0 5471 1217-8

6. ธรรมะแกลลอรี่…คอมมูนิตี้กลางหุบเขา จ.สระบุรี ภาคกลาง

 หอมนสิการ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ สร้างขึ้นจากศรัทธาและแรงบันดาลที่มีต่อพุทธศาสนา ภายในตัวอาคารสีขาวบริสุทธิ์ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ 18 พระองค์ ชมภาพปักพระบรมโลกนาถ สัมผัสความงามของหอจัตุรัสอันศักดิ์สิทธิ์ และยังมีโซนนิทรรศการร่วมสมัยที่บอกเล่าความเป็นมาเป็นไปของพระพุทธเจ้า รวมถึงห้องจัดแสดงงานอาร์ตประเภทต่างๆ ที่แฝงไว้ด้วยปริศนาธรรม ส่วนผู้ที่มาก็จะได้ซึมซับหลักธรรมแบบครบรส ทั้งตาดู หูฟัง สมองคิด และกายปฏิบัติ ถือเป็นธรรมะคอมมูนิตี้แบบครบวงจรอย่างแท้จริง
 
ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เบอร์โทรศัพท์ 0 3524 6076-7

7. ผจญภัยในถ้ำโบ้…สำรวจถ้ำแห่งเขาอีบิด จ.เพชรบุรี ภาคกลาง

 ถ้ำโบ้ บ้านคีรีวงศ์ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ถ้าใครผ่านมาเที่ยวแถวเขาอีบิด อาจเคยสังเกตเห็นรูโบ๋ชัดเด่นเป็นสง่าบริเวณกลางลำตัวของภูเขา นั่นแหละครับ “ถ้ำโบ้” ถ้ำขนาดกำลังน่าเที่ยว อยู่บนเขาอีบิด ทางเข้าถ้ำเป็นโพรงกว้าง ภายในเป็นถ้ำตื้น โถงถ้ำสูงโปร่ง มีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสวยงาม อากาศถ่ายเทเย็นสบาย จากในถ้ำเมื่อมองลอดโพรงออกไปด้านหน้า จะเห็นทิวทัศน์ของ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี และ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้อย่างกว้างไกลและสวยงาม ส่วนด้านหลังถ้ำมีลานกว้าง เป็นจุดชมวิวดูทิวต้นตาล…ซิกเนเจอร์เมืองเพชร และยังเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม เหมาะกับคนที่อยากได้รูปมุมใหม่ๆ ในเมืองเพชร หรือนักท่องเที่ยวสายผจญภัยที่อยากพิชิตถ้ำใหม่ใกล้เมืองกรุงฯ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินชมถ้ำ คือ 05.00 – 17.00 น. (ไม่แนะนำให้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน เนื่องจากทางเดินขึ้นถ้ำมีความลาดชัน และทางเดินภายในถ้ำลื่นมาก อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้ หากไม่ระมัดระวัง)
 
ททท.สำนักงานเพชรบุรี เบอร์โทรศัพท์0 3247 1005-6

8. ฝ่าอุโมงค์สามมิติ…พิชิตป่าล้อมเหมือง จ.กาญจนบุรี ภาคกลาง

อุโมงค์สามมิติ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
อุโมงค์แห่งนี้เป็นเหมืองแร่เก่า มีความยาว 2,300 เมตร ปัจจุบันพื้นที่นี้เต็มไปด้วยเถาวัลย์และต้นไม้น้อยใหญ่ จนบริเวณรอบๆ เหมืองมีแต่ผืนป่าสีเขียวปกคลุม ส่วนภายในอุโมงค์มีหินงอกหินย้อยเปล่งประกายระยิบระยับ และยังคงมีหลักฐานจากอดีตเป็นเครื่องจักรและท่อลมขนาดใหญ่ให้พบเห็น ส่วนไฮไลท์อยู่ที่กิจกรรมขับรถลอดอุโมงค์ภายใต้ความมืด เป็นบรรยากาศลึกลับชวนให้ลุ้นตลอดสองข้างทาง แต่ในวินาทีที่รถกำลังจะแล่นผ่านหน้าปากอุโมงค์ เมื่อแสงไฟหน้ารถสาดไปยังไอหมอกที่ปกคลุมบริเวณหน้าถ้ำ ปากอุโมงค์จะดูคล้ายกับประตูกาลเวลาราวกับฉากไคลแม็กซ์ในภาพยนตร์ และเมื่อรถวิ่งทะลุออกไป จะให้ความรู้สึกราวกับว่าได้ทะลุผ่านจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติ จึงเป็นที่มาของชื่อ “อุโมงค์สามมิติ” ที่ผู้คนต่างเรียกขาน
 
ททท.สำนักงานกาญจนบุรี เบอร์โทรศัพท์ 03451 1200 หรือ 0 3451 2500

9. อันซีนภูผาแรด…มุมลับสุดอาร์ตแห่งราชบุรี จ.ราชบุรี ภาคกลาง

มุมลับที่ภูผาแรด อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
บริเวณที่เคยเป็นแหล่งสัมปทานระเบิดหินภายในอุทยานหินเขางู ถูกซ่อนไว้กลางหุบเขามานานหลายปี ลักษณะเป็นผาสูงชันที่มีร่องรอยเว้าแหว่งของหินจากแรงระเบิด เผยให้เห็นความสวยงามของลวดลายและสีสันของหน้าผาหินแกรนิต ซึ่งเป็นหินที่ถูกเปรียบเปรยว่า แข็งแกร่งดั่ง “แรด” จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูผาแรด” เสน่ห์ของมุมลับแห่งนี้ อยู่ที่ความสวยงามในแต่ละช่วงเวลาของวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของแสงแดดที่ส่องลงบริเวณหน้าผาแต่ละฝั่ง และให้จับตาวินาทีที่น้ำนิ่งจนเกิดภาพเงาสะท้อนคล้ายภาพ Abstract บนผิวน้ำ ถือเป็นงานอาร์ตที่ธรรมชาติรังสรรค์ เป็นความมหัศจรรย์บทใหม่ของเมืองราชบุรี สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
 
ททท.สำนักงานราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ 0 3291 9176-8

10.มหาเจดีย์แห่งรัชสมัย…ความภาคภูมิใจแห่งบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภาคกลาง [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]

วัดทางสาย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
“พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” เป็นเจดีย์ที่ได้รับพระราชทานชื่อจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าเลื่อมใส เนื่องจากเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยไม่มีการใช้งบจากทางราชการ แต่สร้างขึ้นจากพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของมวลชนที่มีต่อพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี ตัวอาคาร 5 ชั้น คือการครองราชย์ครบ 50 ปี ส่วนเจดีย์หมู่ 9 องค์ หมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9 และนอกจากความงดงามของที่มาที่ไปแล้ว ด้านบนของเจดีย์ยังเป็นสุดยอดจุดชมวิวดวงอาทิตย์ขึ้นและตกแห่งเมืองประจวบ ซึ่งเราสามารถมองเห็นความสวยงามของชายหาดบ้านกรูดและทิวมะพร้าวได้ไกลสุดสายตา
 
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 0 3251 3885 , 0 3251 3871 หรือ 0 3251 3854 

11. ท่องอาณาจักรสวนหินล้านปี มอหินขาว จ.ชัยภูมิ ภาคอีสาน

 มอหินขาว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
“มอหินขาว” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีจุดเด่นอยู่ที่เสาหินยักษ์ 5 ก้อน ที่หลายคนบอกว่า คล้ายกับ “สโตนเฮนจ์” บนเกาะอังกฤษ และจะยิ่งสวยงามขึ้นแบบทวีคูณในช่วงฤดูฝน เพราะนอกจากนักเดินทางจะได้ชมประติมากรรมธรรมชาติของเสาหินแล้ว ยังจะได้ชื่นชมดอกไม้ป่าที่กำลังบานสะพรั่งทั่วมอหินขาว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหินที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ลานหินต้นไทร และจุดชมวิวผาหัวนาค ส่วนสายแคมป์ปิ้งที่ชอบดูดาว บริเวณมอหินขาวก็ถือว่า เป็นจุดชมดวงดาวและทางช้างเผือกระดับท็อปที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมเยือน
 
ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666
 

12. พิสูจน์ความฟิต…พิชิตทะเลหมอก ณ วนอุทยานภูบ่อบิด จ.เลย ภาคอีสาน

 วนอุทยานภูบ่อบิด อ.เมืองเลย จ.เลย
วนอุทยานภูบ่อบิด “ภูบักบิด”หรือ ภูบ่บิด เป็นภูเขาเล็กๆ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดเลยราว 1 กิโลเมตร และด้วยระยะทางที่ใกล้จากตัวเมืองแค่เอื้อม จึงนับเป็น ‘หอชมทะเลหมอกใจกลางเมือง’ หนึ่งเดียวในประเทศไทย แถมยังเป็นขวัญใจเหล่านักวิ่งเมืองเลย ที่ชอบแวะเวียนมาฝึกซ้อมยามเช้ากันอยู่บ่อยๆ ด้วยระยะทางเดินสู่จุดยอดที่พอเรียกเหงื่อได้กำลังดี เมื่อแลกกับวิวสวยๆ ที่ปลายทางแล้ว การพิชิตยอดภูบ่อบิดขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมดวงอาทิตย์ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า จัดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การเดินทางมาสัมผัสหมอกกลางเมือง ณ ที่แห่งนี้ดูสักครั้ง
 
ททท.สำนักงานเลย เบอร์โทรศัพท์ a href="tel:+042812812">0 4281 2812 หรือ 0 4281 1405

13. ชมวิวบนยอดผา ณ ผืนป่าบ้านพญากูปรี จังหวัดศรีสะเกษ ภาคอีสาน

ผาพญากูปรี อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยตระการตา แถมยังมีความเป็นมาน่าสนใจ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยมีการค้นพบ “กูปรี” สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากสารบบประเทศไทย "ผาพญากูปรี" ถือเป็นจุดชมวิวที่มีอากาศเย็นบริสุทธิ์จากแนวเทือกเขาพนมดงรัก ทั้งยังเป็นจุดชมธรรมชาติที่สวยงามของลำห้วยสำราญ แหล่งต้นน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี รวมถึงเที่ยวชมน้ำตกพญากูปรีในบริเวณเดียวกันได้อีกด้วย
 
ททท.สำนักงานสุรินทร์ เบอร์โทรศัพท์ 0 4451 4447-8

14. สัมผัสเสน่ห์เหนือกาลเวลา ณ ชุมชนบ้านปรางค์นคร อาณาจักรย่าโม จ.นครราชสีมา ภาคอีสาน

ชุมชนบ้านปรางค์นคร อ.คง จ.นครราชสีมา
สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีของชุมชนเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่ กับบรรดาชาวบ้านที่พร้อมหยิบยื่นมิตรภาพอันแสนอบอุ่น โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ถือว่ามีของดีน่าสนใจอยู่หลายอย่าง อาทิ “บ้านเรือนไทยโคราช” อายุกว่า 100 ปี ที่ปัจจุบันยังมีคนพักอาศัยอยู่จริง นอกจากนี้ยังมี “สะพานข้ามบารายสวรรค์” สะพานไม้ไผ่ที่เกิดจากความสามัคคีของชาวบ้าน แต่ที่เป็นไฮไลท์ห้ามพลาด คือ กิจกรรมรับพลังจักรวาลที่ “ปราสาทบ้านปรางค์” โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจประจำหมู่บ้าน ส่วนกิจกรรมพายเรืออีโปงกับชิมอาหารพื้นถิ่นก็ถือว่าน่าสนใจ จัดเป็นของดีสุดคลาสสิกแดนอีสานที่ไม่จำเป็นต้องจัดฉากหรือปรุงแต่งใดๆ
 
ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666

15. มหาศรัทธา…มหาอุโบสถตะเคียนทอง จ.มหาสารคาม ภาคอีสาน [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]

ภาคอีสาน / มหาศรัทธา…มหาอุโบสถตะเคียนทอง
วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม
นี่คือพระอุโบสถที่สร้างจากไม้ตะเคียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ โดยใช้เสาไม้ตะเคียนทองมากถึง 32 ต้น ขนาด 4 คนโอบ พระอุโบสถหลังนี้มีความสูงกว่า 20 เมตร ภายในมีองค์พระประธานปางนาคปรกแกะสลักจากไม้สักทองทั้งองค์ ปัจจุบันวัดแห่งนี้นอกจากเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ยังมีชื่อเสียงมากขึ้นด้านการท่องเที่ยว กลายเป็นจุดหมายห้ามพลาดของจังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถแวะเวียนเยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้
 
ททท.สำนักงานขอนแก่น เบอร์โทรศัพท์ 0 4322 7714-5

16. อันซีนเกาะแห่งรัก(ษ์)...ที่สีชัง จ.ชลบุรี ภาคตะวันออก

เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
ถ้าคุณเป็นคู่รักที่มีหัวใจอนุรักษ์ เกาะสีชังถือเป็นจุดหมายที่ลงตัว ด้วยความอันซีนของจุดชมวิวที่มีให้เลือกสร้างซีนโรแมนติกได้ถึง 5 จุด ทั้งปลายแหลมถ้ำพัง เสาธงอัษฎางค์ สะพานอัษฎางค์ ช่องอิสริยาภรณ์ ไปจนถึงทะเลแหวกท้ายเกาะ ไม่ว่าจะอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็มีให้เลือกฟินกันได้แบบเหลือๆ และนอกจากนี้ ตัวเกาะยังมีคอนเซ็ปต์น่ารักๆ ในการจัดการกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการนำขยะบนเกาะไปทำปุ๋ย การปลูกปะการังอ่อน การเปิดธนาคารปูและสัตว์น้ำหายาก เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลรอบๆ เกาะให้มีความยั่งยืน ใครรู้ตัวว่าเป็นสาย ECO กดจองที่พักบนเกาะได้เลย โดยท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 0 3842 7667,0 3842 8750 หรือ 0 3842 3990

17. เส้นทางท่องวังพญานาควัดมณีวงศ์ จ.นครนายก ภาคตะวันออก

วัดมณีวงศ์ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
สำหรับผู้ที่ฝากตัวเป็นลูกหลานพญานาค นี่คือสถานที่ซึ่งคุณต้องห้ามพลาด เพราะวัดแห่งนี้ เกิดขึ้นจากพญานาคที่มาเข้าฝัน ‘หลวงพี่ต่อ’ เจ้าอาวาสวัดมณีวงศ์ และได้พาหลวงพี่ไปชมคลังมหาสมบัติที่เมืองบาดาล เพื่อให้เกิดภาพจำและนำกลับไปสร้างที่วัด จนเกิดเป็นความอลังการของงานประติมากรรมพญานาคกว่า 1000 ตน ที่อาศัยเวียนวนอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ โดยจำลองบรรยากาศความยิ่งใหญ่มาจากเมืองบาดาล สู่ความงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานปั้นชั้นครู รับรองว่าถูกใจลูกหลานพญานาคสายมูอย่างแน่นอน โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 - 17.00 น.
 
ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284

18. เก็บแสงสุดท้ายที่ปลายสะพานแก้ว…จุดชมพระอาทิตย์ตกเมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ภาคตะวันออก

วัดหงษ์ทอง ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
นี่คือวัดที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนพื้นที่ใช้สอยภายในวัดหายไปเกินครึ่ง ด้วยเหตุนี้ ทำให้สิ่งก่อสร้างที่เคยตั้งอยู่ริมทะเล ปัจจุบันกลายเป็นสิ่งก่อสร้างในทะเลไปโดยปริยาย เราจึงมีโอกาสได้เห็นทั้งโบสถ์กลางน้ำ อาคารในทะเล รวมไปถึงพระเอกใหม่ของวัดอย่าง “ซีวอล์ค” หรือ สะพานกระจกใส สะพานแก้วที่ทอดตัวออกไปในท้องทะเล ที่กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกของเมืองแปดริ้ว และจะดูตื่นตาตื่นใจมากๆ ในช่วงเวลาน้ำขึ้น เพราะถ้ามองผิวเผินจะดูคล้ายกับผู้คนกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ ปัจจุบันพูดได้เต็มปากเลยว่านี่ คือจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลแห่งใหม่ ที่เต็มไปด้วยความน่าประทับใจของเมืองแปดริ้ว วัดหงษ์ทอง เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
 
ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา เบอร์โทรศัพท์ 0 3851 4009

19. Unseen ถ้ำในถ้ำ…สำรวจความลึกลับแห่งหุบเขาพญานาค จ.ระยอง ภาคตะวันออก

วัดถ้ำเขาประทุน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง
“วัดถ้ำเขาประทุน” เป็นวัดที่มีภูมิประเทศเป็น หุบ ผา และยอดเขาสูง มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอยู่ภายใน ด้านหน้าของวัดมี ‘ถ้ำพญานาคราช’ เป็นถ้ำรับแขก และมีลำแสงจากช่องเขารูปทรงพญานาคที่มองแล้วชวนให้รู้สึกอัศจรรย์ใจ แต่ไฮไลท์ของจริงคือการนั่งเรือลอดถ้ำเข้าไปยัง ‘หุบผาสวรรค์’ ที่พอหลุดออกมาจากความมืดของถ้ำ จะเหมือนทะลุออกมายังอีกมิติหนึ่ง ประกอบไปด้วยถ้ำอีกหลายถ้ำ ทั้งถ้ำนาคี ถ้ำรอยพระพุทธบาท และถ้ำหินงอกหินย้อย แถมยังมี ‘โพรงพญานาค’ ซึ่งเป็นจุดที่คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า เคยพบเห็นพญานาคเลื้อยผ่านเข้าออก โดยรวมถือเป็นวัดที่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาแห่งพญานาค เป็นรสชาติใหม่เมืองระยองที่อยากให้ผู้คนมาลิ้มลองด้วยตัวเอง นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี กิจกรรมพิเศษ อย่างนั่งเรือลอดถ้ำ จะจัดขึ้นในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - พฤศจิกายน
 
ททท.สำนักงานระยอง เบอร์โทรศัพท์ 0 3865 5420-1

20. ผจญภัยเมืองบาดาล…พิสูจน์ตำนานพญานาคแห่งถ้ำน้ำเขาศิวะ จ.สระแก้ว ภาคตะวันออก [คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ]

ถ้ำน้ำเขาศิวะ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
มีบางคนบอกที่นี่เป็นบ้านของเทวดา บ้างก็ว่าเป็นวังพญานาค แต่ที่แน่นอนที่สุด คือ นี่เป็นถ้ำที่เกิดมาเพื่อนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง ด้วยเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี บริเวณด้านในของถ้ำจึงมีสภาพเหมือนสระว่ายน้ำ ต้องอาศัยการสวมชูชีพแล้วเกาะห่วงยางลอยคอเข้าไป ซึ่งถ้ำแห่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและบรรยายเรื่องราวของแต่ละจุดให้ฟังตลอดทริป ส่วนบรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปทรงหลากหลายตามแต่จะจินตนาการ และยังมีตำนานพ่อปูพญานาคองค์สีแดง ที่ชาวบ้านเคยพบเห็นแหวกว่ายอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเป็นที่มาของศาลพ่อปู่นาคาที่ตั้งอยู่บริเวณปากถ้ำ ลูกหลานพญานาคทราบแล้ว เตรียมชุดเปียกด่วน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าผจญภัยเมืองบาดาลได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น.
 
ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284
 

21. ท่องอุทยานธรรมลอยฟ้า…พลังศรัทธาแห่งเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี ภาคใต้

อุทยานธรรมเขานาในหลวง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี
อุทยานธรรมเขานาในหลวง ถือเป็นสำนักสงฆ์ที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้าน สถานที่แห่งนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักจากความวิจิตรของประตูพุทธวดี หรือซุ้มประตูแห่งกาลเวลา ถือเป็นซิกเนเจอร์อันแสนงดงามยามเมื่อแสงเช้าตกกระทบ ก่อนจะต่อยอดพลังศรัทธา ด้วยการสร้าง เจดีย์ร้อยยอดพันองค์ เจดีย์ลอยฟ้าพุทธศิลาวดี เจดีย์ลอยฟ้าพุทธราชาวดี ทำให้ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน โดยเฉพาะยามทะเลหมอกเลื้อยพันรอบยอดเขา เจดีย์แต่ละองค์จะดูคล้ายกับลอยอยู่บนก้อนเมฆ เป็นภาพอุทยานธรรมลอยฟ้าที่ดูตื่นตา…น่าอัศจรรย์ใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมความมหัศจรรย์ได้ตลอดทั้งปี
 
ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี เบอร์โทรศัพท์ 0 7728 8817-9

22. ย้อนเวลาหาความสงบสุข…เที่ยวเกาะหลงยุคแห่งอันดามัน จ.ระนอง ภาคใต้

หมู่เกาะกำ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
“หมู่เกาะกำ” ประกอบด้วย เกาะกำตก หรืออ่าวเขาควาย ด้วยเอกลักษณ์ของอ่าวเป็นชายหาดที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนวเหนือ-ใต้ ด้วยความมหัศจรรย์นี้ มีชายหาดที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลโดยรอบเกาะเป็นสีฟ้าใส สามารถเล่นน้ำได้ เกาะค้างคาว เหตุเพราะค้างคาวแม่ไก่ที่เคยอาศัยอยู่นับพันตัว บริเวณหน้าเกาะมีหาดทรายสีขาวละเอียดและนุ่มดั่งแป้งเด็ก พร้อมกับน้ำทะเลใสที่มองเห็นทราย โขดหิน และปะการังใต้น้ำได้แบบชัดเจน รอบๆ เกาะสามารถดำน้ำชมปะการังได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก จุดดำน้ำตื้นจะอยู่ตรงบริเวณหัวเกาะมีปะการังและปลาการ์ตูนนีโม่ที่ว่ายอยู่ในดอกไม้ทะเล และเกาะญี่ปุ่น ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อก่อนเคยมีชาวญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุก บางคนก็บอกว่าที่นี่เป็นที่ประกอบอาหารส่งเสบียงให้แก่ทหารญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สภาพพื้นที่มีภูเขาเล็ก ๆ ด้านหน้าเกาะเป็นแนวชายหาด หาดทรายมีสีขาวละเอียด บริเวณรอบเกาะสามารถดำน้ำชมปะการัง มีปลาการ์ตูนนีโม่และปลาสวยงามอย่างอื่นมากมาย ทั้ง 3 เกาะรวมเรียก นี่คือหมู่เกาะที่ถูกเรียกว่า “หมู่เกาะหลงยุค” อาจด้วยการที่หมู่เกาะแห่งนี้ ยังคงความเป็นธรรมชาติดั่งเดิมไว้ เพราะแม้แต่ชาวบ้านเอง ก็ยังคงเลือกใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแถบนี้แบบเดิมๆ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้หมู่เกาะกำมีความสงบเงียบ แถมยังพร้อมเพียบด้วยธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ชนิดเกาะอื่นเลียนแบบได้ยาก เป็นหมู่เกาะที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลา ซึ่งรอการเดินทางมาพิสูจน์ความหลงยุคด้วยตัวคุณเอง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในช่วง วันที่ 16 ตุลาคม – 15 พฤษภาคมของทุกปี
 
ททท. สำนักงานชุมพร เบอร์โทรศัพท์ 0 7750 2775-6หรือ0 7750 1831 

23. พลังศรัทธาใต้มหาสมุทร…รอยพระพุทธบาทแห่งอันดามัน จ.ภูเก็ต ภาคใต้

รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
รอยพระพุทธบาทในทะเลแห่งนี้ เป็นรอยพระพุทธบาท รอยที่ 5 ‘นัมมทานที’ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทที่ได้รับความศรัทธาเชื่อมั่นจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ตั้งอยู่ที่สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร โดยช่วงเวลาน้ำทะเลขึ้นสูงจะไม่สามารถเห็นรอยพระพุทธบาท แต่เมื่อน้ำทะเลลดลงจะสามารถมองเห็นรอยพระพุทธบาทได้อย่างชัดเจน สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี (ยกเว้นช่วงมรสุม)
 
ททท.สำนักงานภูเก็ต เบอร์โทรศัพท์ 0 7621 1036 หรือ 0 7621 2213 

24. มหัศจรรย์แห่งชั้นหิน…งานศิลป์ถิ่นเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช ภาคใต้

หินพับผ้า อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ผาหินรูปร่างแปลกตาที่พบเห็นได้บริเวณกลางทะเลขนอม เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มีอยู่เพียงน้อยแห่งบนโลกใบนี้ มีลักษณะเป็นแผ่นหินซ้อนเรียงกันเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละจุดจะดูสวยงามแตกต่างกันตามแต่จะจินตนาการ โดยชาวต่างชาติเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘Pancake Rock’ ส่วนคนไทยรู้จักกันในชื่อ ‘หินพับผ้า’ เพราะดูคล้ายกับผ้าที่พับซ้อนกันเป็นชั้นๆ เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติเมืองคอน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากชุมชนแหลมประทับ เพื่อมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแห่งนี้ได้ตลอดวัน สามารถเดินทางมาชมชั้นหินได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ลม ฟ้า และอากาศ แต่ช่วงที่แนะนำ คือ เดือนมกราคม - เมษายน
 
ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช เบอร์โทรศัพท์ 0 7534 6515-6 

25. ผจญภัยในตะรุเตา…ตามหาเงาราชาโจรสลัดเมืองไทย จังหวัดสตูล ภาคใต้

“ตะรุเตา” เกาะที่เต็มไปด้วยตำนานและคำบอกเล่า ทั้งขุมสมบัติ ถ้ำลับ โจรสลัด สัตว์ร้าย หรือแม้กระทั่งต้นไม้มีพิษ แต่ในคำบอกเล่าสุดแฟนตาซี ถือว่ายังมีเค้าโครงจากเรื่องจริง ด้วยเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีภูมิประเทศหลากหลาย แถมยังเงียบสงบ จึงไม่แปลกหากตะรุเตาจะเต็มไปด้วยพืชพรรณแปลกๆ รวมถึงสัตว์หายาก และหากใครชอบศึกษาประวัติศาสตร์ จะรู้ว่านอกจากธรรมชาติและชายหาดสวยๆ แล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะสถานกักกันตัวนักโทษ ซึ่งท้ายสุดแล้วกลายเป็นที่มาของตำนาน “โจรสลัดแห่งตะรุเตา” เรื่องเล่าที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และนวนิยายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ช่วงเวลาที่เกาะตะรุเตาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาผจญภัย คือ เดือนตุลาคม - เดือนพฤษภาคมของทุกปี
 
ททท.สำนักงานสตูล เบอร์โทรศัพท์ 06 2595 7748

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด