เป็นข้อมูลสำคัญที่นักท่องเที่ยว นักเดินทาง และผู้ประสงค์จะเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้ ควรรับทราบและปฏิบัติให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด
ประกาศข้อควรรู้ก่อนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้
นับตั้งแต่วันที่ 1 มษายน 2565 เป็นต้นมา ผู้ถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาของไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา
อย่างไรก็ดี ผู้เดินทางต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติของทางการเกาหลีใต้ล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้ ดังนี้
1. ขอรับ KETA (Korea Electonic Authorization)
ซึ่งต้องกรอกแบบฟอร์มสมัครขอ KETA ของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ทางระบบออนไลน์ที่
https://m.k-eta.go.kr/ และต้องรอให้ได้รับอนุมัติก่อน จึงจะเช็คอินเพื่อขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ได้
2. ขอ Q-Code ทางระบบออนไลน์
ที่
https://cov12ent.kdca.so.ki/ โดยผู้เดินทางต้องกรอกรายละเอียดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดจนผลการตรวจ โควิดแบบ ATK ที่ผลออกไม่เกิน 24 ชั่วโมง หรือผลการตรวจโควิดแบบ RT-PCR ที่ผลออกไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ โดยผู้ที่ได้รับ Q Code แล้ว จะสามารถเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยสะดวก และไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มรายงานผลการตรวจโควิด หรือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดฯ ก่อนเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก
หมายเหตุ:
2. สำหรับคนไทยที่เดินทางไปยังเกาะเชจู ของเกาหลีใต้ นั้น แม้ว่าจะยังไม่ต้องขอรับ K-ETA ในตอนนี้ แต่ในอนาคตอันใกล้ ทางการเกาหลีใต้กำลังจะปรับให้ต้องมี K-ETA ส่วงหน้าก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาะเชจูด้วย และสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวเกาะเชจูโดยไมได้รับอนุมัติ K-ETA จะไม่สามารถเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้ในส่วนภาคฟื้นทวีปได้ และผู้เดินทางที่เคยถูกปฏิเสธ K-ETA ในการเดินทางเข้าเกาหลีใต้ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเกาะเชจู
3. แม้ว่าคนไทยที่ได้รับอนุมัติ K-ETA ให้ขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ได้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้มีอำนาจในการอนุมัติ หรือไม่อนุมัติให้เข้าเกาหลีใต้ใด้ หากสัมภาษณ์แล้วยังมีข้อสงสัยว่า คนไทยอาจเดินทางเข้าเกาหลีใต้เพื่อลักลอบทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย หรือเหตุผลอื่นๆ โดยคนไทยที่ไม่ได้รับอนุมติให้เข้าเกาหลีใต้ จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ส่งกลับประเทศไทย โดยสายการบินที่นำคนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้โดยเร็วที่สุด
สำหรับคนไทยที่ได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ให้เดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้แล้ว แต่ต่อมากระทำผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ดังสาเหตุต่อไปนี้ จะได้รับโทษ ดังนี้
(1) พำนักอยู่ในเกาหลีใต้เกิน 90 วัน
จะถูกลงโทษให้ชำระค่าปรับตามจำนวนปีที่พำนักผิดกฎหมาย ซึ่งหากเลือกไม่ชำระค่าปรับจะไม่สามารถเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ได้อีกในอนาคต รวมทั้งต้องถูกกักตัวในสถานกักกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศไทย โดยคนไทยที่กระทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง
(2) กรณีลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมายในเกาหลีใต้
หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้จับกุม ก็จะถูกกักตัวในสถานกักกัน โดยหากไม่พบว่ามีความผิดอื่น (เช่น ยาเสพติด นายหน้า เมาแล้วขับ ฉ้อโกง หรือ คดีอื่น ๆ ) ปกติจะถูกส่งกลับประเทศไทยภายใน 1 สัปดาห์ โดยคนไทยที่กระทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล
เหตุคนไทยหนีทัวร์ ลักลอบทำงานในเกาหลีใต้
ประกาศฉบับนี้ ออกมาหลังจากปรากฏข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ว่า "นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 55 คน จาก 280 คนที่เดินทางเข้ามายังเกาหลีใต้ในฐานะกรุ๊ปทัวร์ หนีทัวร์ไปอย่างไร้ร่องรอย" [
ไทยรัฐ] เป็นการเดินทางจากกรุงเทพไปยังสนามบินนานาชาติเชจู โดยเที่ยวบินเชจูแอร์ไลน์ ในจำนวนนี้มี 417 รายที่ "ถูกปฏิเสธ" ให้เข้าประเทศแล้วถูกส่งกลับ ส่วนที่ได้รับอนุมัติให้เข้าประเทศได้จำนวน 280 ราย เป็นกลุ่มที่มาแบบแพคเกจทัวร์ 3 วัน และปรากฏว่ามี 55 รายในกลุ่มนี้ แยกตัวออกจากกลุ่มทัวร์และหายตัวไป โดยไม่ทราบสาเหตุและที่หมาย ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้ กำลังติดตามตัว
ThaiPBS รายงานว่า มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากไทยไปเกาะเชจู เกาหลีใต้ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หลายเที่ยวบิน ขณะที่การส่งกลับคนไทยจากเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และจากการติดตามผู้ที่ถูกส่งกลับ หลายรายยอมรับว่า
"พยายามลักลอบเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้" จริง แต่บางส่วนเป็นผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวจริงๆ เช่นกัน
เตรียมนำ K-ETA กลับมาใช้ที่เชจูด้วย
มีข้อมูลระบุว่าคนไทย 367 ราย จากจำนวนทั้งหมด 697 ราย เคยถูกปฏิเสธผ่านระบบคัดกรอง K-ETA (ระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยกเว้นวีซ่า 112 ประเทศ รวมไทย) [ไทยรัฐ] นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนหนึ่งเลือกที่จะเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ ผ่านทางเกาะเชจู เนื่องจากอาจเคยมีประวัติการถูกปฏิเสธการเข้าประเทศทางสนามบินอื่นๆ เช่น สนามบินนานาชาติอินชอน
K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) คือ ระบบอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ สำหรับ 112 ประเทศที่ได้ทําข้อตกลงการยกเว้นวีซ่ากับสาธารณรัฐเกาหลี มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 ก.ย. 2021 (การดําเนินการนําร่อง 3 พ.ค. 2021 - 31 ส.ค. 2021) ระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้ 2 ปีนับจากวันที่อนุญาต (ในกรณีที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลสําคัญ เช่น ข้อมูลหนังสือเดินทาง จําเป็นต้องสมัครใหม่) วิธีการแจ้งความจำนง : สมัครผ่านทางหน้าแรก/แอปของ K-ETA ในมือถือได้ตลอด 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง (
www.k-eta.go.kr) ค่าธรรมเนียม 10,000 KRW (ประมาณ $9~10) ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแยกต่างหาก (300 KRW)
การลงทะเบียนระบบ K-ETA
ดาวน์โหลดแอป K-ETA
กรมการกงสุลช่วยเตือน
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมด้วยช่วยเตือน ออกประกาศข่าวกรมการกงสุลเพื่อคนไทย
17 สิงหาคม 2565 เป็นบทสรุปช่วยย้ำเตือนคนไทยก่อนเดินทางไป "เกาหลีใต้" ไว้ดังนี้
ต้อง "ไม่ไปทํางานผิดกฎหมาย! "
- การอยู่เกินกำหนด จะถูกโทษปรับตามจํานวนปีที่พำนักผิดกฎหมาย หากไม่ชำระค่าปรับ จะไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเกาหลีใต้ได้อีก รวมทั้งถูกกักตัวในสถานกักกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนส่งตัวกลับไทย โดยผู้กระทำผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเพื่อเดินทางกลับไทยด้วยตนเอง
- หากมีความผิดอื่นด้วย เช่น ยาเสพติด นายหน้า เมาแล้วขับ ฉ้อโกง เป็นต้น จะต้องถูกลงโทษรุนแรงยิ่งขึ้น
ผู้ที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้ ต้องดำเนินการล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้ดังนี้
- ขอรับ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ซึ่งต้องกรอกแบบฟอร์มสมัครขอ K-ETA ของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ทางระบบออนไลน์และต้องรอให้ได้รับอนุมัติก่อน จึงจะสามารถเช็คอินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้
- ขอ QR-Code ทางระบบออนไลน์ผู้เดินทางต้องกรอกรายละเอียดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตลอดจนผลการตรวจโควิดแบบ ATK (ไม่เกิน 24 ชม.) หรือผลการตรวจโควิดแบบ RT-PCR (ไม่เกิน 48 ชม.) ก่อนเดินทาง
Hotline : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล
+8210 -6747-0095
+8210-3018-64343