ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ฝุ่น PM2.5 หนักมาก อนามัยแนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ปรึกษาคลินิกมลพิษ

ฝุ่น PM2.5 หนักมาก อนามัยแนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ปรึกษาคลินิกมลพิษ Thumb HealthServ.net
ฝุ่น PM2.5 หนักมาก อนามัยแนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ปรึกษาคลินิกมลพิษ ThumbMobile HealthServ.net

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนเฝ้าระวังและป้องกันตนเองจากผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หวั่นหากได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จำนวนมากติดต่อกันในระยะยาว เสี่ยงเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็งได้ พร้อมย้ำ ควรลดกิจกรรมนอกอาคาร และอยู่ภายในอาคารให้มากขึ้น เมื่อมีความจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ควรใส่หน้ากากสำหรับป้องกันฝุ่น PM2.5

   
 
     นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) กระจายในภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากประชาชนได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในระยะยาว จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็งปอด เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะเข้าไปทำให้เนื้อเยื่อปอดอักเสบ ส่งผลต่อกระบวนการแบ่งตัวผิดปกติภายในเซลล์ ส่งผลให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง หากได้รับในปริมาณมากและระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบของสารเคมีบางชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น โพลิไซคลิกอโรมาติกไฮโดรคาร์บอน หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งส่งผลให้เกิดมะเร็งปอดได้เช่นเดียวกัน ซึ่งองค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer, IARC, 2013) ระบุว่า มลพิษทางอากาศ และฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
 
        นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การรับสัมผัส PM2.5 เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็งปอด นอกจากการได้รับควันบุหรี่ หรืออยู่ในสถานที่ทำงานที่มีสารก่อมะเร็ง หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม โดยจากข้อมูลการศึกษาภาระโรคขององค์การอนามัย ปี 2562 พบว่า คนไทยเสียชีวิตจากฝุ่นละอองในบรรยากาศ จำนวนรวม 31,081 ราย โดยมีสาเหตุจากโรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease) 11,408 ราย โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) 7,274 ราย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) 3,043 ราย และมะเร็งปอด 2,464 ราย นอกจากนี้ รายงานการเจ็บป่วยโรคจากมลพิษทางอากาศของคลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าการเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึง มะเร็งปอด ซึ่งในปี 2565 พบรายงานผู้ป่วยมะเร็งปอดถึง 189,713 ราย คิดเป็น 291.18 ต่อแสนประชากร


 
          “ทั้งนี้ กรมอนามัยขอให้ประชาชนและกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้สูงอายุ ป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5 โดยลดกิจกรรมนอกบ้านและอยู่ภายในบ้านหรือในอาคารให้มากขึ้น ควรใส่หน้ากากสำหรับป้องกันฝุ่น PM2.5 เมื่อต้องออกนอกอาคาร งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงในที่ที่มีฝุ่นมาก งดสูบบุหรี่ และหากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจ แสบจมูก แสบคอ หายใจไม่สะดวก เหนื่อยง่าย หรือไอ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที และให้ช่วยกันลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว อีกทั้ง ประชาชนควรเฝ้าระวังตนเองด้วยการประเมินอาการจากการรับสัมผัส PM2.5 พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ “4HealthPM2.5” หรือ เว็บไซต์ “คลินิกมลพิษออนไลน์” และหากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีด ให้รีบไปพบแพทย์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมอนามัย 1478 หรือกรมควบคุมโรค 1422” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ฝุ่น PM2.5 หนักมาก อนามัยแนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ปรึกษาคลินิกมลพิษ HealthServ
 

กรมการแพทย์แนะแนวทางวิธีป้องกันและรับมือ


กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ห่วงประชาชน แนะแนวทางวิธีป้องกันและรับมือกับปัญหา “ฝุ่นละออง PM 2.5” ที่มีค่าเกินมาตรฐาน ถือได้ว่าเป็นมลพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน  เมื่อสัมผัสฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มาก ผ่านระบบทางเดินหายใจ อาจส่งผลกระทบสะสมต่อสุขภาพทั้งโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคระบบหัวใจได้
 
 
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยว่า  ในช่วงนี้ยังพบว่าฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ในหลายพื้นที่ ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดของอนุภาคนี้จะเล็กถึง 2.5 ไมครอน หรือขนาด 0.0025 มิลลิเมตร เทียบกับเม็ดทราย มีขนาด 60 ไมครอน  ด้วยขนาดที่เล็กมากเมื่ออยู่ในอากาศ เราจึงหายใจลึกเข้าไปถึงถุงลมขนาดเล็กในปอด จากหลอดลมไปหลอดเลือดและกระจายไปส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย
 
 ฝุ่น PM 2.5 สามารถแทรกผ่านผนังถุงลมเข้าไปในกระแสเลือดรอบๆ ถุงลมและกระจายเข้าร่างกายไปอวัยวะต่างๆได้โดยเลย เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดการอักเสบของส่วนต่างๆ เช่น ปอด ผนังเส้นเลือด และอวัยวะต่างๆ  ดังนั้น PM2.5 ก็จะทำให้มีทั้งอาการเฉียบพลัน เช่น แสบตา แสบคอ น้ำมูกไหล ผื่นผิวหนัง เหนื่อย มีเสมหะ ไอ ถ้าหายใจเข้าเป็นเวลานานก็จะทำให้มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจลำบาก จากโรคปอด และโรคของเส้นเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีรายงานทำให้คนเป็นโรคเบาหวานหรืออาการของเบาหวานแย่ลง มีผลต่อการตั้งครรภ์ และที่ร้ายที่สุดคือเป็นโรคมะเร็ง อนุภาคเหล่านี้มีส่วนประกอบแตกต่างกันตามแหล่งกำเนิด เช่นถ้าเป็นจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากรถยนต์ส่วนประกอบก็จะเป็นตัวทำละลาย ถ้าเป็นจากการเผาไหม้เช่นการเผาป่า ก็จะเป็นพวก Polyaromatic Hydrocarbon พวก ซัลเฟอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมลพิษทางอากาศอื่นๆ ปะปนมาร่วมกับ PM2.5 ด้วย
 
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี  เปิดเผยว่า เนื่องจากฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ที่มีขนาดของอนุภาคนี้จะเล็กถึง 2.5 ไมครอนจึงสัมผัส PM2.5 ได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร โดยเฉพาะในอาคารที่ไม่มีหน้าต่างหรือประตูที่ปิดมิดชิด และอยู่ในบริเวณที่คุณภาพอากาศไม่ดี อย่างไรก็ตาม ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ใส่หน้ากากที่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ เช่น หน้ากาก N95 หลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน ในบริเวณที่มีค่ามลพิษอากาศสูง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศก็สามารถช่วยกรอง PM2.5 ได้ ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือข่าวสารตามช่องทางต่างๆ การรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอก็ช่วยลดผลต่อสุขภาพจาก PM2.5 ได้ พยายามอย่าให้เป็นโรคทางเดินหายใจเช่นเป็นหวัด หรือสูบบุหรี่ เพราะจะยิ่งซ้ำเติมปอดให้แย่ลง จึงควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร ควรมีการตรวจสมรรถภาพปอดทุกปี ในขณะที่เรายังจัดการสาเหตุไม่ได้จึงควรปฏิบัติตามที่กล่าวไว้
 
นอกจากนี้ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ยังได้จัดทำ clinic มลพิษ online ซึ่งสามารถ add เข้ามาใน  official line โดยคลินิกนี้จะมีแบบเตือนสภาพอากาศ แบบประเมินอาการตนเองและมีแพทย์คอยตอบปัญหาในคลินิกตลอดเวลา 
ฝุ่น PM2.5 หนักมาก อนามัยแนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ปรึกษาคลินิกมลพิษ HealthServ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด