วันนี้ (20 พฤษภาคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพค เมืองทองธานี ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลบุษราคัมรับผู้ป่วยโควิด 19 เข้ามาดูแลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวันที่ 14 พฤษภาคมที่เปิดดำเนินการเป็นวันแรกรับผู้ป่วย 48 ราย ล่าสุดข้อมูลเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 รับผู้ป่วยใหม่อีก 91 ราย ปัจจุบันดูแลผู้ป่วยรวม 427 ราย โดยผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้วางระบบการส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 , 5 และ 6 เครือข่ายโรงเรียนแพทย์ และกรมการแพทย์ โดยมีการส่งต่อแล้วจำนวน 15 ราย ส่วนผู้ที่รักษาหายกลับบ้านมี 6 ราย เหลือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 406 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มอาการเล็กน้อย 323 ราย และกลุ่มอาการปานกลาง 83 ราย มีเตียงรองรับอีก 677 เตียง
“แต่ละวันคาดว่าจะมีการส่งผู้ป่วยโควิด 19 เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลบุษราคัมเพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงมีแผนขยายเตียงรองรับเพิ่มอีก 1 พันเตียง ภาพรวมขณะนี้ถือว่าระบบการบริหารจัดการและการดูแลผู้ป่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บุคลากรทางการแพทย์ที่สลับกันเข้ามาดูแลผู้ป่วยมีเพียงพอ ใช้ระบบติดตามดูแลผู้ป่วยผ่านกล้องวงจรปิดหรือซีซีทีวีและการสื่อสารภายใน รวมถึงมีระบบจิตอาสาในกลุ่มผู้ป่วยโควิด 19 ที่ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน โดยผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงคอยช่วยผู้ที่อ่อนแอกว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลบุษราคัม” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารชาเลนเจอร์ 3 เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัมเป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคโควิด-19 สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดูแล รักษา ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง ที่มีอาการน้อยถึงปานกลางในเขต กทม. และปริมณฑล นำผู้ป่วยที่ตรวจพบเข้ามารับการรักษาอย่างรวดเร็ว ลดความรุนแรง ลดการเสียชีวิต และลดการแพร่เชื้อ แบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลในเขต กทม. ให้มีเตียงเพียงพอ รองรับผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างเต็มที่
โรงพยาบาลบุษราคัม เฟสแรก มีจำนวน 1,092 เตียง ศักยภาพการรักษาระดับโรงพยาบาล มีความพร้อมด้าน ยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ ระดมบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศร่วมดูแล พร้อมรับมอบห้องน้ำ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อในอากาศ เครื่องออกซิเจน อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องอุปโภคจากภาคเอกชน รวมมูลค่ากว่า 239.28 ล้านบาท
"โรงพยาบาลบุษราคัม เป็นการทำงานร่วมจัดตั้งของทุกกรมในกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เทศบาลนครปากเกร็ด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง จิตอาสา ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนเข้าถึงการรักษา มีความพร้อมทั้งยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ รถ X-ray เคลื่อนที่ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เครื่องช่วยหายใจ เต็นท์ความดันลบ 100 เตียง มีการระดมบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจากทั่วประเทศ หมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ รวม 780 คนโดยใช้พื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เฟสแรกเปิดที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 จำนวน 1,092 เตียง หากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสามารถขยายพื้นที่ได้อีก 2 อาคาร รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,000 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษาจะต้องผ่านการประสานจากศูนย์บริหารจัดการเตียง กรมการแพทย์ 1668 โรงพยาบาลต่างๆ ในเขตนนทบุรี ปทุมธานี หรือจาก Call Center ต่างๆ และในช่วงบ่ายวันนี้จะเริ่มรับผู้ป่วยเข้ารักษา" - นายอนุทินกล่าว
“เราใช้เวลาในการจัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัมเพียง 7 วัน เริ่มเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม สามารถเปิดบริการได้ในวันนี้ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน นอกจากโซนรักษาแล้ว ยังมีโซนพักผ่อน ดูหนัง ออกกำลังกาย มีการระบายอากาศที่ดี เครื่องฟอกอากาศ ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต และการจัดระบบสิ่งแวดล้อม ป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ภายนอก มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับชุมชนโดยรอบ”