จากปฏิบัติการบุกกรุงเพื่อช่วยตรวจโควิดให้ประชาชนในกทม. โดยทีมชมรมแพทย์ชนบท ที่ระดมทีมแพทย์จากจังหวัดต่างๆ จากรพ.ทั่วประเทศ ทำให้พบว่า ปัญหาที่กรุงเทพกำลังเผชิญอยู่นี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
"ความเศร้าประการสำคัญของผู้คนใน กทม.ที่เรารับรู้มาจากการตรวจโควิดในปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงทั้ง 2 ครั้ง คือ ความสูญเสียของญาติมิตร และความทุกข์จากการไม่มีที่ตรวจโควิด เข้าคิว 3 วัน 5 วันก็แทบจะสิ้นหวัง แต่ถึงแม้จะมีผล Rapid Ag Test ว่า positive แล้ว สิ่งที่ผู้ป่วยหลายๆ คนเจอคือ โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามใน กทม.ให้ผู้ป่วยไปหาที่ทำ rtPCR เองมาก่อน เพื่อยืนยันการเป็นโควิดแล้วจึงจะรับเข้ามารักษา ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่สามารถหาที่ทำ rtPCR ได้อยู่แล้วในสภาวะโกลาหลเช่นนี้ ผลก็คือ หลายคนจึงต้องกลับไปนอนรอเวลาแห่งความสูญเสียที่บ้านซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยในยุคที่เมืองไทยและเมืองหลวงพัฒนาการแพทย์การสาธารณสุขมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว"
หาที่ตรวจ rtPCR ไม่ได้
ในขณะที่อำเภอต่างจังหวัดทุกแห่ง หากเราสงสัยโควิด หมอก็จะทำ swab ส่ง rapid test บ้าง rtPCR บ้างให้คนไข้เสมอ ไม่ต้องไปหาตรวจที่อื่น หากใครถือผล rapid test มา เราก็ตรวจ rtPCR ซ้ำให้เพื่อความแน่นอน โดยที่เรารับรู้ว่านี่คือหน้าที่ของเรา ไม่เคยให้คนไข้ไปหาที่ตรวจมาเองแล้วค่อยเอาผลมาให้หมอ แต่ใน กทม.นั้นไม่ใช่ การไม่สามารถหาที่ตรวจโควิดหรือ rtPCR จึงเป็นความทุกข์หนักมากๆ ของคนกรุงเทพ
ชมรมแพทย์ชนบท ได้ทำการตรวจสวอบคนกรุงไปในทั้ง 2 รอบกว่า 40,000 คนแล้ว ได้ฟังเสียงของคนกรุงเทพมาไม่น้อย พบผลบวกเกินกว่า 10% เราพบว่าแม้เราจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ช่วยคนกรุงเทพได้ชั่วคราว หน่วยงานในกรุงเทพต้องระดมความมมือช่วยกันเองให้มาก จึงจะสร้างความหวังได้
ชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเสนอว่า
1. ขอให้ ศบค.กทม. กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลต่างๆ และหน่วยงานต่างๆในเมืองหลวง ต้องช่วยกันเพิ่มจุดตรวจโควิดให้มากขึ้นอีกหลายๆเท่า ให้เพียงพอกับสถานการณ์การระบาดที่หนักหน่วง
2. ขอให้โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง ยอมรับผลของ Rapid Ag Test และอย่าได้ผลักภาระการตรวจ rtPCR ให้เป็นภาระของคนไข้ที่เขาต้องไปหาที่ตรวจเอง ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง ควรเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลที่จะต้องตรวจยืนยันให้เขา
3. ขอให้รัฐบาลส่งเสริมให้มีการตรวจโควิดด้วยตนเองโดย Ag Test Kid ให้กว้างขวาง ทั้งด้วยการส่งให้ตรวจฟรีสำหรับคนที่ร้องขอ หรือการวางขายตามร้านขายยา โดยที่มีการควบคุมคุณภาพและควบคุมราคาให้เหมาะสม
ทั้งสามข้อจะทำให้ทั้งประชาชนคนกรุงและต่างจังหวัดด้วยเข้าถึงการตรวจโควิดได้มากขึ้นอย่างมาก เพราะต้องยอมรับว่า การรู้ตัวว่าตนเองติดโควิดคือหัวใจของการควบคุมโรค เฉกเช่นที่อารยะประเทศเขาปฏิบัติกัน
25 กค 64 ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ย้ำเตือนและบอกถึงปัญหาที่กรุงเทพกำลังเผชิญ กับเป็นสิ่งที่ทำให้สถานการณ์ของโควิดและการสูญเสียแผ่ขยายออกไปมากอย่างรวดเร็วและมากมายในขณะนี้ พร้อมกับคำเตือนที่รัฐบาลต้องทำทันที เพื่อหยุดความล้มเหลวนี้
แก้ทุกข์คนกรุง ต้องหยุดเรียกหาผล rtPCR
คนกรุงเทพมีความทุกข์หนักประการสำคัญคือ เมื่อผลตรวจ rapid test โควิดเป็นบวก หรือบางคนมีอาการเหมือนโควิดเพราะมีคนร่วมบ้านติดโควิด ตนเองก็จมูกไม่ได้กลิ่นแถมมีอาการหอบเหนื่อย แต่เมื่อไปโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. สิ่งที่จะได้ยินเสมอคือ ไปตรวจ rtPCR ยืนยันมาก่อนว่าเป็นโควิด จึงจะเข้ารับการรักษาได้
รู้ๆ ว่าเป็นโควิดจาก rapid test positive และอาการหนัก แต่ยังเรียกหาผล rtPCR ก่อน นี่คือความบิดเบี้ยวหนักของระบบโรงพยาบาล
ตัวอย่างข้างล่างคือสิ่งที่ญาติคนไข้ปรึกษามาในเพจชมรมแพทย์ชนบท ว่าโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่รับไว้รักษา ให้รอผล rtPCR ก่อน ซึ่งทำไปแล้วแต่ก็ต้องใช้เวลาร่วม 2 วันจึงได้ผล เช่นนี้แล้ว แทนที่คุณลุงจะได้รับการรักษาทันท่วงที กว่าผลจะออกก็คงจะไวรัสลงปอดและอาการคงหนักมาก และนี่คือเหตุที่ใน กทม.มีการเสียชีวิตคาบ้านหรือเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจำนวนมาก เพราะเข้าถึงการรักษาช้านั่นเอง
คนที่ กทม.เข้าถึงการรักษาช้า เพราะจุดตรวจโควิดมีน้อย พอตรวจด้วย rapid test รู้ผลแล้วแม้มีอาการ โรงพยาบาลก็ยังไม่รับให้รอผล rtPCR ก่อนอีก
ที่ต่างจังหวัด หน้าที่การตรวจ rapid test หรอื rtPCR คือหน้าที่ของโรงพยาบาลนั้นๆ โดยไม่มีการผลักภาระให้ผู้ป่วยไปหาที่ตรวจเอง ชีวิตคนกรุงเหมือนจะศรีวิไลซ์ แต่แท้จริงเหลื่อมล้ำและทุกข์หนักจริงๆ
ขอทาง ศบค.กทม. กระทรวงสาธารณสุข และ กทม. ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่แก้ไม่ยากนี้โดยด่วนด้วย แก้ไขทีละเปราะ แก้ไขทุกเปราะทุกปม เราจะรับมือกับโควิดได้ในที่สุด
ชมรมแพทย์ชนบท
25 ก.ค.64